“จตุพร”เชื่อไม่มีใครกลัวทักษิณกลับ ถ้ามาจริงเท่ากับทำพิธีต่อชะตาให้ “ประยุทธ์”อยู่ยั่งยืนยง แนะอยากสง่างามต้องเด็ดขาดเดินเข้าคุกอย่างทรนง ไม่อาศัยกฎ “สมศักดิ์” เป็นตัวช่วย เตือนถ้าใช้กฏกระทรวงจะทำให้พัง ประเทศเกิดวิกฤตเผชิญหน้าครั้งใหญ่ หายนะภัยทับถม ท้าไม่เชื่อจงรีบกลับมาพิสูจน์ สอนเคล็ดวิชาหลับง่ายในคุก ให้ยึดหลักอย่าพกความแค้นและลืมอดีตว่าเป็นใคร พร้อมแนะทำตัวเป็นนักโทษปกติเช่นคนอื่น

เมื่อ 31 มี.ค.2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "หน้าด้าน ใจดำ” เตือนทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านมาติดคุกโดยมีกฎกระทรวงยุติธรรมที่ลงนามโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมัยเป็น รมว.ยุติธรรม จะยิ่งทำให้ประเทศเกิดวิกฤตหายนะใหญ่ แล้วรัฐบาลจะพังพาบลงอย่างเลวร้ายกว่าการออก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ฉบับ "เหมาเข่ง" เมื่อปลายปี 2556

นายจตุพร อธิบายว่า กฎกระทรวงยุติธรรม มีส่วนสำคัญกับการรองรับการกลับไทย โดยไม่ต้องติดคุกในเรือนจำ แต่อาจใช้สถานคุมขังอื่น เช่น บ้านพัก หรือ โรงพยาบาลคุมขังได้ตามแต่ข้อเท็จจริง ซึ่งนายสมศักดิ์ เมื่อครั้งเป็น รมว.ยุติธรรม ลงนามเมื่อปี 2563 จากนั้นจึงย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ดังนั้นกฎกระทรวงฉบับนี้ย่อมถูกกล่าวหาเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน และจะส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตครั้งใหม่ขึ้นได้อีก

อีกทั้งระบุว่า การประกาศกลับมาและติดคุกของทักษิณนั้น แม้จะมีกฎกระทรวงรองรับก็ตาม แต่จะไม่มีความหมายใดๆ เพราะจะเกิดแรงต้าน ถ้าเป็นรัฐบาลก็จะพัง ซึ่งกรณีนี้จะยิ่งกว่าการออกนิรโทษกรรมสุดซอย

นายจตุพร เสนอว่า ถ้านายสมศักดิ์ ทำเรื่องนี้ และกฎกระทรวงฉบับนี้ถ้านำมาใช้กรณีทักษิณแล้ว จะเป็นปัญหา ดังนั้น อย่าคิดที่จะใช้ แม้มีเสียง ส.ส.ข้างมาก แต่อย่าคิดจะใช้ เพราะกรณีนิรโทษกรรมสุดซอย ผ่านสภาแล้วก็ไม่กล้าใช้ เพราะมีปัญหาในด้านความชอบธรรม”

"ผมเชื่อว่า ถ้ามาด้วยช่องทางนี้ นับเวลาถอยหลังได้เลย จะพังยิ่งกว่า พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก ดังนั้น กฎกระทรวงนี้จะเป็นกฎกระทรวงที่ถูกสาปและไม่มีวันจะได้ใช้ ใครคิดฝันหวานทั้งหลายว่าจะได้ใช้ มันจะเป็นทุกขลาภที่ใหญ่โตมาก เพราะจะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนมากอย่างชัดเจน”

พร้อมทั้ง นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ารัฐมนตรียุติธรรมคนต่อไปจะมีบทบาทสำคัญในการกลับมาของทักษิณแล้ว จะเป็นการคิดผิดมากอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าทักษิณกลับอย่างตรงไปตรงมาจะมีช่องทางติดคุกได้น้อยอยู่แล้ว โดยสามารถขอพระราชทานอภัยโทษก็ยังทำได้

นอกจากนี้ นายจตุพร ยังเปิดเผยเคล็ดวิชาชีวิตติดคุก ซึ่งติดมาแล้วถึง 5 ครั้งว่า คนติดคุกไม่ว่าใหญ่โตมาจากไหน หรือร่ำรวยมากมายเพียงใดก็ตาม เมื่อติดคุกจะเท่ากันหมด ตนเห็นคนร่ำรวยมักนอนไม่หลับเมื่อติดคุก เพราะคิดมากห่วงใยสาระพัด ดังนั้น คนติดคุกต้องพยายามหลับให้สบาย โดยมีหลักสำคัญสองข้อคือ ต้องลืมอดีตว่าเคยเป็นอะไรมาก่อน และต้องไม่คิดว่า เมื่อออกจากคุกแล้วจะไปเป็นอะไร

"ถ้าไม่ยึดหลักสำคัญสองข้อนั้น แล้วทำตัวเองยิ่งใหญ่ในคุก เป็นซูเปอร์อีโก้ มีลูกน้องเต็มไปหมด มีอำนาจบารมีเยอะแยะ ทำเป็นคนใหญ่ไม่ยอมเล็ก ผลสุดท้ายนอนไม่หลับ ส่วนการคิดว่า ออกจากคุกจะไปเป็นอะไรนั้น เท่ากับพกความแค้นเข้าคุก ก็จะทำให้นอนไม่หลับอีก ดังนั้นเมื่อติดคุกต้องรู้จักปล่อยวางให้ได้

นายจตุพร เตือนทักษิณว่า ถ้าจะตัดสินใจกลับไทยเพื่อรับโทษเข้าคุก อย่าทำอะไรที่ติดคุกแล้วจะเป็นเงื่อนไขใหม่ของประเทศอีก ถ้าต้องการความสง่างามต้องเดินเข้าคุกอย่างทรนง ไม่ขอใช้อภิสิทธิ์ใดๆ นักโทษปฏิบัติอย่างไร ทักษิณก็ควรปฏิบัติอย่างนั้นเช่นกัน ดังนี้จึงจะกเดความสง่างาม มากศักดิ์ศรี น่าเกรงขาม

อีกทั้งเห็นว่า เมื่อทักษิณตัดสินใจกลับมาติดคุกแล้ว ต้องเป็นการตัดสินใจเด็ดขาด ถ้ามาจริงคุกจะเตรียมสถานที่ขังเฉพาะให้ โดยไม่ขังรวมกับนักโทษคนอื่น เพราะต้องดูแลรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ถ้าทักษิณ กล้ากลับบ้านแล้วยอมติดคุก ด้วยเหตุผลอาศัยกฎกระทรวงยุติธรรมฉบับนี้มันจะพังยิ่งกว่าสุดซอย

"สมมติว่าอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) ได้เป็นนายกฯ แล้วมาใช้ช่องทางกฎกระทรวงรองรับพ่อกลับบ้านมาติดคุก แม้นายกฯ ไม่ใช้อำนาจตรง แต่เป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำ หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถามว่าใครจะเชื่อ ดังนั้น ถ้าทักษิณ กลับเข้าไทย แล้วถูกขังที่บ้าน สิ่งนี้ยิ่งหนักหนาสาหัสไปเลย”

นายจตุพร กล่าวว่า การคิดจากฐานเสียงข้างมากทางการเมืองนั้น ที่ผ่านมาในสมัยจอมพลประภาส จารุเสถียร มักจะคิดกันง่ายๆ ไม่สนใจใคร ถ้ามีคนต่อต้านก็ประเมินมีไม่เกินหมื่นคน แล้วเกิดเหตุการณื 14 ตุลา 2516 คนมากเป็นแสนและเรือนล้านเต็มถนน มาครั้งนี้เช่นกัน แม้คนเสนอเป็น ครม.แล้วย้อนกลับไปเข้าพรรคเพื่อไทย แต่พฤติกรรมการเมืองแบบนี้ ถึงยังไม่ได้ใช้กฎกระทรวงยุติธรรมก็มองเห็นร่องรอยการเกิดหายนะแล้ว

"ผมอยากให้กลับมา และอยากให้ใช้กฎกระทรวงยุติธรรม ผมว่าพังและบ้านเมืองลุกเป็นไฟเลย เพราะต้องยอมรับความจริงว่า มีคนชอบและไม่ชอบมีอยู่จริง แล้วสองฝ่ายต้องเดือดร้อนมาประหัตประหารกันอีก เพื่อคนๆ เดียว ซึ่งตายกันมาเท่าไรแล้ว จากเรื่องแค่คนชอบและคนไม่ชอบ ดังนั้น สาระสำคัญที่จะหยุดทุกอย่างได้ คือ กลับเข้ามาแล้วไปใช้ชีวิตในเรือนจำตามปกติ”

นายจตุพร กล่าวว่า คนติดคุกร้อยทั้งร้อยแทบบอกว่า ไม่ได้ทำความผิดเลย แต่ต้องน้อมรับชะตากรรม ถึงบางคนสารภาพในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำก็มีมากมายในคุก โดยไม่สมควรติดคุกด้วย แล้วถูกขังรวมกับอาชญากร เกิดการเรียนรู้ จากคนดีออกจากคุกก็เป็นคนเลวไป จึงขัดกับหน้าที่ของราชทัณฑ์จะ เอาคนดีคืนสังคม

อีกทั้งระบุว่า กฎกระทรวงยุติธรรมฉบับนี้ จะพาให้สถานการณ์ของประเทศเข้าสู่ทางตันใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แม้นายสมศักดิ์จะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็อ้างได้ แต่การทำเสร็จแล้วย้ายกลับมาพรรคเพื่อไทย จึงอธิบายไม่พ้นจากผลประโยชน์ทับซ้อน

"วันนี้ไม่มีใครกลัวทักษิณจะกลับมา เพราะถ้ามา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รอดทันที เพราะทุกอย่างจะพังพินาศ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ยั่งยืนยง ดังนั้น คนมาทำพิธีต่อชะตาให้ พล.อ.ประยุทธ์ คือ ทักษิณ"นายจตุพร กล่าว