“จูรี นุ่มแก้ว” ชื่อนี้ปรากฏในโซเชียล ในฐานะดาวติ๊กต็อก ขวัญใจประชาชน โดยเฉพาะคนภาคใต้ เพราะจูรี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ แต่งตัวเป็นหญิงชาวบ้าน ทำคลิปติ๊กต็อกถ่ายทอดเรื่องราว ตั้งแต่วิถีชีวิตพื้นบ้านความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และเหตุการณ์บ้านเมือง ด้วยภาษาถิ่น ปลุกปั้นตัวเอง จากการทำคอนเทนต์ ด้วยร่างของจูรีมีสามีชื่อนายกเทือง จนมีคนเข้ามาดูคลิปถล่มทลาย สร้างรายได้จากการขายออนไลน์ และรับเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลากหลายชนิดตั้งแต่ ยาสีฟันยันโลงศพ ปลดหนี้ให้ครอบครัว จากชีวิตติดลบ จนมีรายได้จำนวนมาก ในระยะเวลาเพียง 11 เดือน

“จูรี” บอกถึงเหตุผล ที่ตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมือง สวมเสื้อพรรคชาติพัฒนากล้าว่า เป็นเพราะชื่นชอบในตัวหัวหน้าพรรค กรณ์ จาติกวณิช ที่เป็นคนมีความรู้ความสามารถเป็นตัวจริงด้านเศรษฐกิจ เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับโลก ไม่มีประวัติด่างพร้อย ให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก มีเป้าหมายการทำงานที่สร้างสรรค์ ไม่สร้างความขัดแย้ง ประกอบกับพรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคใหม่ ไม่มีขั้วการเมือง ซึ่งมันตรงกับตัวตนของจูรีเอง ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จึงตัดสินใจเดินเข้ามาพบหัวหน้าพรรค บอกถึงวัตถุประสงค์ เป้าหมาย จนนำไปสู่การตัดสินใจลงสมัครผู้แทน ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สงขลา

“หลายคนบอกว่าฉันดังแล้วจึงมาลงสมัครผู้แทน ความจริงแล้วไทม์ไลน์ชีวิตฉันชัดเจนตั้งแต่เมื่อ 17 ปี ที่แล้ว ตั้งแต่เรียนชั้น ม.5 ไม่ใช่แค่ 5-6 เดือนที่เริ่มมีชื่อเสียง แล้วฉันก็เริ่มต้นจากการเข้ามาเรียนกฎหมาย ซึ่งมันไม่ใช่ง่ายเพราะฐานะทางบ้านฉันยากจน ไม่มีเงินส่งเสีย ดังนั้น กว่าจะมาถึงวันนี้ ฉันทำมาแล้วทุกอย่าง ทั้งจับกัง พนักงานร้านสะดวกซื้อ
ลูกจ้าง ข้าราชการ เป็นนักข่าว และอีกหลายอย่าง ต้องสู้ในทุกอาชีพ เพราะฉะนั้นฉันจึงเข้าใจชาวบ้านว่าเขาต้องการอะไร มันถึงไม่แปลกที่พอฉันทำคลิปจึงโดนใจพวกเขา และได้รับการยอมรับในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งฉันก็พร้อมที่จะเป็นร่างทรงให้กับชาวสงขลา และพร้อมจะเปลี่ยนชีวิตคนใต้ให้กลายเป็นคนรวยได้ ฉันทำได้ ชาวบ้านก็ต้องทำได้” จูรี กล่าว

จูรี กล่าวด้วยว่า ฉันนามสกุล “นุ่มแก้ว” เป็นลูกชาวบ้าน แม่ชื่อ อุไร พ่อชื่อ โชติ สมัยก่อน ถ้าระบบการเมืองแบบเก่า คงหมดสิทธิ์ แต่ฉันโชคดี ที่พ่อแม่มีฐานะยากจน นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งใจว่าจะต้องเรียนกฎหมาย และดิ้นรนตามฝันซึ่งฉันก็ทำได้ เมื่อวันที่มีโอกาสก็พร้อมที่จะเสนอตัวเองเพื่อให้ประชาชนเลือก เพราะคิดว่าทุกคนควรจะมีสิทธิที่จะทำหน้าที่ สส.ได้ มันไม่ควรสงวนภาระหน้าที่ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มอิทธิพลใดอิทธิพลหนึ่ง ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน ทุกคนควรได้ทำหน้าที่นี้

“ฉันมีความสุขที่ทำงานกับชาวบ้าน ใช้ความรู้ด้านกฎหมายที่เตรียมพร้อมมาหลายปี ถ้าเอาความรู้ในตำรา ใครก็ทำได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือความรู้ที่อยู่นอกตำรา คือเราทำหน้าที่แทนชาวบ้าน เราพูดในสิ่งที่เขาพูดไม่ได้ เราพูดแทนใจพวกเขา”

จูรี จบปริญญาตรีและปริญญาโท นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเนติบัณฑิตรับราชการที่ศาลปกครอง และเป็นผู้ประกาศข่าวช่องเวิร์คพอยท์ เป็นเจ้าของช่องแหลงเล่าใน TIKTOK มีผู้ติดตาม 1.1 ล้านคน และเพจ แหลงเล่า by JULY

“ฉันเคยเอาสินค้าชุมชนมาขายออนไลน์ 45 นาที ขายได้ 1.3 ล้านบาท ความจริงของชาวบ้านเป็นของดีนะ แต่เขาขาดโอกาส เมื่อฉันมีโอกาสฉันก็อยากช่วย และนั่นมันก็กลายเป็นเป้าหมายที่ฉันต้องเข้าไปเป็นผู้แทน เพราะฉันพูดตรงนี้มันไม่ดังพอที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้” จูรี กล่าว

ดาวติ๊กต็อกภาคใต้ บอกว่า แม้วันนี้จะสามารถลืมตาอ้าปากได้ มีเงินพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้แบบไม่ลำบาก แต่กลับไม่สามารถซื้อบ้านให้แม่ได้ เพราะตัวเองติดแบล็กลิสต์ ในช่วงตกงานจากภาวะโควิด รถถูกยึดทั้งที่ผ่อนมาแล้วถึง 3 ปี หนี้บัตรเครดิต แม้ต่อมาลืมตาอ้าปากได้ แบล็กลิสต์ก็จะติดตัวอยู่แบบนั้นไปตลอดชีวิต กู้เงินในระบบไม่ได้เลยเพราะฉะนั้น ฉันจึงเข้าใจหัวอกคนที่ติดแบล็กลิสต์ ที่ต้องเป็นหนี้นอกระบบ ชาวบ้านหลายคนก็เจอปัญหาแบบนี้

ตัวเลขเวลานี้มีผู้ติดแบล็กลิสต์มากถึงเกือบ 6 ล้านคน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พรรคชาติพัฒนากล้าออกมาต่อสู้เรื่องนี้ และเป็นหนึ่งในนโยบายที่จะต้องรื้อโครงสร้างระบบสินเชื่อ ยกเลิกระบบแบล็กลิสต์ หันมาใช้เครดิตสกอร์ที่สามารถดูจากประวัติของการชำระเงิน ทั้งจากการจ่ายค่าน้ำ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ว่าจ่ายตรงตามเวลาไหม ถ้าตรงก็จะเป็นคะแนน ยิ่งคะแนนมากเท่าใด โอกาสที่จะกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยก็จะถูกลงก็จะมากขึ้น

นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่มีประชานิยมเลย มีแต่จะช่วยหาเงินเข้าประเทศ และดูแลประชาชนให้ได้รับโอกาส ลืมตาอ้าปาก มีงานทำดีๆ มีเงินในกระเป๋า ค่าครองชีพไม่สูง ซึ่งเป็นนโยบายที่จับต้องได้ อยู่ในกระแสจริง

นอกจากนี้ จูรี คือ ผู้สมัคร สส.ที่ยืนยันเสียงดังมาตลอดว่า จะสร้างประวัติศาสตร์การเมืองให้เกิดขึ้นกับชาวสงขลา คือ จะเป็นผู้แทนประชาชน ที่ไม่มีหัวคะแนน ไม่มีการจัดตั้ง ไม่ใช่ทายาทนักการเมือง ไม่ใช่คนนามสกุลดัง แต่จะใช้ความเป็นลูกชาวบ้านนามสกุล นุ่มแก้ว พาตัวเองเข้าสภาให้ได้ จูรีบอกด้วยว่า ถึงแม้วันนี้เขาพอมีเงินบ้างจากการค้าขายออนไลน์ และใช้โซเชียลในการสร้างเม็ดเงิน แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า หากต้องใช้เงินซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียว ก็ขอไม่เป็นผู้แทนดีกว่า เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอาย และจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปไม่รู้จักจบสิ้น

ในพื้นที่ จ.สงขลา ประชาชนมักจะคุ้นชินตากับ การลงพื้นที่หาเสียงของ ผู้สมัคร สส.พรรคชาติพัฒนากล้า ทั้ง 4 คน คือ ได้แก่ กัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1, จูรี นุ่มแก้ว เขต 2, ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต 3 และ ทนายอาร์ม-พงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ซึ่งทั้ง 4 คน มักแท็กทีมร่วมทำกิจกรรมเพื่อพี่น้องประชาชน และยังขึ้นป้ายหาเสียงโดยใช้ภาพของจูรี ประกบคู่กับนายกรณ์ และผู้สมัครทุกคน ซึ่งจากกระแสที่มาแรงในทุกพื้นที่ ทำให้มีภาพการทำลายป้ายของพรรคชาติพัฒนากล้านับร้อยป้าย โดยการตัดหน้าของจูรีออก ซึ่งจูรีเองก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการเชิญชวนให้ ชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาเอาหน้ามาสวมแทนจูรี แล้วถ่ายรูปเช็คอิน เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

“ฉันก็คิดว่า คนกรีดเขาก็ไอเดียดี เขาคงมีเจตนาดี เพราะเขากรีดเฉพาะหน้าฉัน เวลาเธอผ่านไปผ่านมาก็เอาหัวมาแยงในภาพแล้วก็ถ่ายรูปเช็คอินเป็นฉันไปเลย ตอนนี้ 150 ป้ายคงเหลือดีสัก 2 ป้าย แต่ก็ไม่เป็นไร ใครอยากทำอะไร ทำเลยเพราะคุณทำลายได้แค่ป้าย แต่ทำลายความตั้งใจฉันที่จะมาลงผู้แทนของชาวบ้านไม่ได้” จูรี กล่าวย้ำ

ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คนใต้ไม่ซื้อสิทธ์ิขายเสียง เปิดโอกาสให้ลูกชาวบ้านได้เข้าไปทำงานในสภา เพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้กับ ชาวสงขลา และคนใต้ทุกคน