กกต.ไฟเขียว!! 49 พรรคหาเสียงตามเบอร์ที่จับได้ แจงไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ พร้อมยัน กกต.พิมพ์บัตรโหลเป็นไปตามกฎหมายกำหนด ยกผลถอดบทเรียนเลือกตั้ง62 บัตรมีโลโก้-ชื่อพรรคทำบัตรเสียอื้อ
4 เมษายน 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวภายหลังการรับสมัครการส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันแรก ว่าหลัง กกต.ได้ตรวจสอบเอกสารทั้ง 49 พรรคการเมืองที่มายื่นสมัครและได้จับสลากหมายเลขพรรคในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทุกพรรคมี เอกสารครบถ้วน สามารถออกใบรับสมัครได้ครบทั้งหมดและได้หมายเลขตามลำดับที่จับสลากได้
นอกจากนี้ โดยภาพรวมการรับสมัครงานนี้ค่อนข้างเรียบร้อย มีปัญหาบ้างคือสถานที่คับแคบ จุดรับสมัครน้อย ในช่วงบ่ายมีพรรคการเมืองมายื่นสมัครอีก 5 พรรค แต่ถอนตัว 1 พรรค ทำให้ขณะนี้มีพรรคการเมืองมาสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 53 พรรคการเมือง และรับแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 16 พรรค 20 คน
นายแสวง กล่าวด้วยว่า รายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้ง หมด กกต. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเช่นเดียวกับส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หากพบว่าผู้สมัครรายใดไม่มีคุณสมบัติจะไม่ประกาศรายชื่อ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ หากศาลไม่คืนสิทธิให้ พรรคการเมืองก็จะเหลือจำนวนผู้สมัครเท่าที่มีอยู่ ส่วนแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีกฎหมายกำหนดให้กกต.เป็นเพียงผู้รับแจ้งชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ
ส่วนที่มีข่าวว่าบางพรรคเอกสารการสมัครไม่ครบทำให้การสมัครล่าช้า นายแสวง ชี้แจงว่า เกิดจากการใช้เอกสารที่เป็นสำเนาที่พิมพ์มาจากคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เอกสารตัวจริง แต่กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้ทำให้สาระสำคัญของการรับสมัครเสียไป หรือเอกสารไม่สมบูรณ์ จึงได้ดำเนินการรับสมัคร
เมื่อถามถึงกรณีบัตรเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตที่ไม่มีโลโก้และชื่อพรรคการเมือง นายแสวง กล่าวว่า เมื่อเช้าได้คุยทำความเข้าใจกับหลายพรรคการเมือง ว่ารูปแบบบัตรที่ กกต.จะจัดพิมพ์ดีสำหรับพรรคการเมือง เพราะจากการถอดบทเรียนการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มีบัตรเสียมาก เนื่องจากรูปแบบบัตรเลือกตั้งมีโลโก้และชื่อพรรค อีกทั้งครั้งนี้กฎหมายกำหนดให้บัตรเลือกตั้ง 2 ประเภทต้องมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยแบบแบ่งเขตกำหนดให้มีช่องกาเครื่องหมายและหมายเลขเท่านั้น ส่วนแบบบัญชีรายชื่อกำหนดให้มีช่องกาเครื่องหมาย โลโก้ และชื่อพรรค ดังนั้นบัตรทั้ง 2 ใบจะทำเหมือนกันไม่ได้ และสีจะมีความแตกต่างกันโดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการจัดพิมพ์และเรื่องสีถือเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม กกต.จะพยายามอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยจะให้ทุกหมายเลขของผู้สมัครทั้ง 2 ประเภทอยู่ในบัตรเลือกตั้งหน้าเดียว ซึ่งแบบแบ่งเขตยอดผู้สมัครสูงสุด ขณะนี้ คือ 16 หมายเลข ที่กรุงเทพฯ ส่วนบัญชีรายชื่อแม้จะมีพรรคที่มีสิทธิส่งผู้สมัครรวม 60 พรรค ก็จะทำให้อยู่ในหน้าเดียวกันให้ได้ และในวันเลือกตั้งนอกจากหน้าหน่วยจะมีการติดประกาศข้อมูลของผู้สมัครแล้ว ก็จะมีการติดป้ายไวนิลข้อมูลผู้สมัครไว้ในจุดที่ประชาชนไปใช้สิทธิในคูหาแล้วสามารถมองเห็นได้ เพื่อสามารถจดจำเบอร์ไปกาบัตรได้ถูกต้อง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี