ศรัณย์วุฒิ-รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ
ในการสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หนนี้ มีคุณพ่อ-คุณลูก จูงมือลงสนามเลือกตั้ง หลายคู่น่าสนใจ
คู่แรก จากครูประชาบาล ถึงเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ตลอดกาล ลงสมัคร สส.เขต 7 นครศรีธรรมราช ส่วน บุตรสาว บีท- ปุณณ์สิริบุณยเกียรติ คนรุ่นใหม่ นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักวิศวกรข้อมูล เดินตามรอยคุณพ่อ พร้อมรับใช้พี่น้องเขต 8จังหวัดนครศรีธรรมราช
เพราะพื้นที่เลือกตั้งติดกันการหาเสียงจึงง่าย ทั้งสองคน มีลูกหลานญาติพี่น้องกองเชียร์ ก็ช่วยหาเสียงทั้งสองเขต ทั้งประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาหารอร่อย ไปในตัว
จังหวัดนครศรีธรรมราช มี ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ จึงเน้น ประกันรายได้ให้ส่วนต่างและเพิ่มสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น การนำหลัก Rubber Valley มาใช้ในการพัฒนาพื้นที่ภาคยางแบบครบทุกวงจร
ในขณะที่นโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ คือการวางอนาคตของประเทศชาติและประชาชน ที่จะใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้ คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ
โดยมีแนวทางที่สำคัญของทั้ง 3 ส. ดังนี้
1.สร้างเงิน โดยการแยกเป็นสองส่วนใหญ่ๆคือ สร้างเงินให้ประเทศ และสร้างเงินให้ประชาชน
2.สร้างคน ที่พรรคจะสนับสนุนและส่งเสริมดูแลคนตั้งแต่ในครรภ์มารดา จนส่งสู่เชิงตะกอน ทั้งสร้างสวัสดิ์การเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงขึ้น เพราะพรรคเชื่อว่าเมื่อเราสร้างคนให้มีความความรู้และความมั่นคงในชีวิต จะแปรเปลี่ยนพลังของประชาชนให้เป็นพลังในการสร้างประเทศชาติได้อย่างมั่นคง
3.สร้างชาติ ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่สุจริต ควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจมุ่งสู่สร้างเมืองมหานคร พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน คมนาคมเพื่อเชื่อมประเทศไทยกับโลก ต่อมาได้มีการขยายนโยบายโฟกัสไปที่ชายแดนภาคใต้ คือ สร้างสันติภาพ อีกประเด็นหนึ่ง
สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู
ชินวรณ์-ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ
อีกคู่ คุณพ่อคือ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ นักรบพันธุ์ดุ สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงสมัครสส.อุตรดิตถ์ เขต 3.ส่วนบุตรสาว น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ สังกัดรวมไทยสร้างชาติเช่นเดียวกัน ลงสมัคร สส.อุตรดิตถ์เขต 2
ก่อนหน้านี้ ศรัณย์วุฒิ และ น.ส.รสรินทร์ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ และผู้บริหารพรรค เนื่องจากมีอุดมการณ์ตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ คือ เน้นทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน สิ่งที่สำคัญคือต่อสู้กับประชาธิปไตยปล้นชาติ ประชาธิปไตยจอมปลอม
นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ตนได้นำนโยบายที่คิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้วและได้หาเสียงกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ก่อนที่จะมีการประกาศยุบสภา นำเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ และผู้บริหารพรรค อาทิ นโยบายแช่แข็งหนี้ทั้งแผ่นดิน หยุดต้น หยุดดอกเบี้ย หยุดยึดทรัพย์ หยุดเครดิตบูโร 3-5 ปี เศรษฐกิจดีค่อยว่ากัน เติมเงิน 2 เด้ง ฟื้นชีวิตฟื้นเศรษฐกิจ, เกษตรร่ำรวย ด้วยองค์ความรู้ รัฐต้องช่วย (เกษตรรวยแน่) อะไรที่จนปรับเปลี่ยน ช่วงแรกรัฐต้องอุ้ม สุดยอดสายพันธุ์สัตว์ แปรรูปสู่ตลาดโลกโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์จากโทรศัพท์มือถือเข้ามาช่วย น้ำร่ำรวยจากการขุดสระรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง ไม่ปล่อยทิ้งลงทะเล น้ำมันร่ำรวยวันนี้ประมงได้ใช้น้ำมันราคา 20 บาท แต่เกษตรจนๆใช้ราคาลิตรละกว่า 40 บาท หากให้เกษตรทั้งแผ่นดินได้ใช้ในราคาประมง เกษตรกรจะรัก พล.อ.ประยุทธ์ มากเลย สุดท้าย อสม.ร่ำรวย ผู้สูงอายุกว่าทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน อยากมาอยู่เมืองไทย จ้างดูแลแบบครบวงจรเดือนละกว่า 100,000 บาท หากให้อสม.ไทยเข้ามาดูแล จะได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ทำให้ประเทศไทยมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านต่อปีโดยเลือกผู้สูงอายุที่นิสัยดีมีตังค์ อสม.ไทยมีจำนวนกว่า 1 ล้านคน แต่ผู้สูงอายุทั่วโลกมีมากกว่า 1,000 ล้านคน ประเทศไทยจึงเป็นเหมือนบ้านที่สองของผู้สูงอายุเหล่านี้
จับตา พ่อลูกคู่นี้หมายมั่นปั้นมือจะปักธง สส.อุตรดิตถ์ให้ได้ ทั้ง 2 เขต
จังหวัดอุตรดิตถ์ มีคำขวัญประจำจังหวัด
“เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน บ้านพระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก”
คำขวัญประจำจังหวัดอุตรดิตถ์แต่งขึ้นในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ในสมัยนั้นได้นำนโยบายนี้เข้าสู่ที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและมีการคิดประกอบคำขวัญจังหวัดอุตรดิตถ์ขึ้นเป็นตัวอย่าง เพื่อมอบให้วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์กำหนดกรอบแนวคิดการประกวดคำขวัญประจำจังหวัดต่อไป อย่างไรก็ดี คำขวัญที่คิดในที่ประชุมส่วนราชการได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางและเป็นที่รู้จักทั่วไป จึงไม่ได้มีการคิดประกวดคำขวัญใหม่ ทำให้คำขวัญดังกล่าวยังคงใช้เป็นคำขวัญประจำจังหวัดมาจนปัจจุบัน
ส่วนดอกไม้ประจำจังหวัด คือ ดอกประดู่บ้าน ดอกไม้ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ในราวปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลเริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับแรก ได้มีโครงการพัฒนาท้องถิ่นหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เน้นเรื่องเศรษฐกิจในชุมชนเป็นหลักเพื่อเป็นแบบอย่างในการพัฒนาส่วนหนึ่ง จังหวัดจึงมีนโยบายให้หน่วยงานราชการทุกแห่งปลูกไม้ประดับและไม้ยืนต้นในพื้นที่ของส่วนราชการทุกแห่ง และเสนอแนะให้ปลูกพันธุ์ไม้กัลปพฤกษ์และพันธุ์ไม้ประดู่บ้าน แต่พันธุ์ไม้ที่ปลูกทั้งสองชนิดมีเพียงดอกประดู่บ้านที่บานสะพรั่ง ทางจังหวัดจึงกำหนดให้ดอกประดู่บ้านเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี