วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เจาะสนามเลือกตั้ง : พูดแล้วทำ! กับ ‘ดร.ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์’

เจาะสนามเลือกตั้ง : พูดแล้วทำ! กับ ‘ดร.ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์’

วันพุธ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : ดร.ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ เจาะสนามเลือกตั้ง
  •  

“เจาะสนามเลือกตั้ง” วันนี้มาเป็นครั้ง “พิเศษ” เพราะจะไปทำความรู้จักกับหนึ่งในผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎร (สส.) ในพื้นที่ 
“เมืองหลวง” กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งหนึ่งในพรรคการเมืองระดับ “บิ๊กเนม” นั่นคือ “พรรคภูมิใจไทย (ภท.)” ก็พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ที่กำหนดวันเปิดคูหาลงคะแนนกันในวันที่ 14 พ.ค. 2566 แบบ “จัดเต็ม” ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ สส. ในกรุงเทพฯ ครบทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง และหนึ่งในนั้นคือ
“ดร.ส้ม-พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์” ลงสมัครในพื้นที่ เขต2 (ปทุมวัน-สาทร-ราชเทวี) เบอร์ 12

 


หลายคนอาจรู้จัก ดร.ส้ม กันมาบ้างแล้ว กับการได้เป็น สส. สมัยแรก ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่มาคราวนี้ปี 2566 ขอเลือกไปต่อกับพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรค 
“เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ซึ่ง ดร.ส้ม เผยถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ว่า อย่างแรกเมื่อทราบว่า “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ที่ถือเป็น “ผู้ใหญ่ที่เคารพ” และเคยร่วมงานกันมา ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย และได้รับทำหน้าที่ให้เป็น “พ่อทัพ-หัวหน้าทีม” ดูแลพื้นที่ กทม. จึงเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ตนตัดสินมาเข้าร่วมในครั้งนี้

“เมื่อพิจารณาลงไปอีก แต่ละนโยบายของภูมิใจไทย ที่ชู “พูดแล้วทำ” คือสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง
มีความชัดเจน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมายังไม่มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ กทม. แต่มาครั้งนี้ได้หันมาให้ความสำคัญ ก็ทำให้เราอยากเป็นหนึ่งในคนที่จะเข้ามาช่วยเป็นขับเคลื่อนนโยบายเพื่อคน กทม. ในการสู้ศึกเลือกตั้งรอบนี้ อีกเหตุผลสำคัญ หากสังเกตให้ดีที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นเอกภาพสูง พูดง่ายๆ คือจะมีใครมาเก่งคนเดียวไม่ได้ เพราะถ้าหากเก่งคนเดียวก็จะขับเคลื่อนนโยบาย หรือการทำงานไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” ดร.ส้ม กล่าว

 

ดร.ส้ม กล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายที่อยากจะผลักดันเป็นพิเศษ ต้องแยกเป็น 2 ด้าน คือ “นโยบายในนามของพรรคภูมิใจไทย ที่ทำเพื่อคนทั้งประเทศ” อาทิ ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอทั่วประเทศ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย, เครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง ฟรีทุกจังหวัด เป็นต้น ขณะเดียวกัน “ปัญหาสำคัญของคนเมืองหลวง” นั่นคือ “มลพิษ” โดยเฉพาะ “ฝุ่นPM2.5” ที่การแก้ไขยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

ในเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยเสนอนโยบายผ่าน “ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ” ซึ่งได้เริ่มได้ดำเนินการมาตั้งแต่เป็นรัฐบาล คือการนำ “รถเมล์ไฟฟ้า (EV)” มาให้บริการใน กทม. เริ่มที่ 1,200 คัน โดยในปี 2566 นี้ยังตั้งเป้าเพิ่มเป็น 3,000 คัน อีกด้วย หรือจะเป็นนโยบายของ “ทีมภูมิใจไทยภูมิใจกรุงเทพฯ” ที่หวัง “ลดค่าครองชีพ” ในส่วนของ “ค่าเดินทาง” ให้กับคนเมืองกรุง อย่าง “ตั๋ว One day pass Ticket” หรือตั๋ววัน

 

อาทิ รถ-เรือ เริ่มที่ 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท รถไฟฟ้าเริ่มที่ 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท “ปลดล็อก” ค่าใช้จ่ายการเดินทางไม่ให้ “แพง” จนเกินไป รวมถึงการส่งเสริม “พลังงานสะอาด” เช่น สนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ “โซลาร์เซลล์” ฟรี ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนไปถึง 450 บาทต่อเดือน ป้องกันปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอต้องนำเข้า และยังได้สิทธิซื้อ “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ในราคา 6,000 บาท ผ่อนเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด

“พักหนี้ 3 ปี “หยุดต้น-ปลอดดอก” ช่วยผู้กู้ให้ลืมตาอ้าปากได้ นโยบายพักหนี้ 3 ปี จากการลงพื้นที่ หลายคนชอบนโยบายนี้โดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้า ที่ต้องนำรายได้ใช้หนี้นอกระบบ จนทำให้ไม่มีเงินส่ง นโยบายนี้ก็จะเข้ามาช่วยพวกเขา ทำให้เห็นว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นนโยบายที่ไม่เป็นประชานิยม และทำได้จริง

อีกสิ่งที่อยากจะผลักดันคือ กทม.ในเขต 2 ถือเป็นพื้นที่แออัด ใจกลางเมือง มีพื้นที่ส่วนกลางน้อย หรือพื้นที่สาธารณะน้อย ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่รกร้างไม่น้อย เราจะทำอย่างไรเพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นทีสีเขียว รวมถึงผลักดันให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย แน่นอนว่า กทม. เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องเหล่านี้ ก็ต้องดูขอบเขต สิ่งสำคัญคือเราจะเป็นตัวกลางเพื่อประสานงาน หรือเป็นคนกลางเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนได้อย่างไร ดังนั้นต้องมาช่วยกัน” ดร.ส้ม ระบุ

 

ย้อนไปในช่วงที่เป็น สส. สมัยแรกในสภา ดร.ส้ม กล่าวถึงความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป็นผลงานชิ้นโบแดง นั่นคือการผลักดัน “พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565” หรือที่เรียกกันแบบสั้นๆ ได้ใจความว่า “กฎหมายฉีดไข่ฝ่อ” จนได้ประกาศบังคับใช้ไปเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ไม่ใช่ “เกมการเมือง” แต่เป็น “ประโยชน์” สำหรับประชาชนแท้จริง

ที่มาที่ไปของกฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาทางสังคมเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศต่อ“เพศแม่” หรือผู้หญิง การฉีดไข่ฝ่อ เป็นหนึ่งใน “13มาตรการทางการแพทย์” เพื่อป้องกันการทำผิดซ้ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายบังคับใช้ก็จะต้องมาวางมาตรการร่วมกันว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ผู้กระทำผิดที่รับโทษเมื่อพ้นโทษออกมาแล้วจะไม่กระทำผิดซ้ำอีก

 

โดยอาจใช้การมอนิเตอร์ เพื่อ “สังเกตพฤติกรรม” หลังพ้นโทษ ไม่ให้ไปกระทำผิดซ้ำ แต่ก็มีประเด็นที่บรรดา “นักสิทธิมนุษยชน” อาจจะมองว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไปกระทบกับสิทธิเสรีภาพของผู้กระทำผิดหลังพ้นโทษได้ จึงต้องมีการหารือกันเพื่อให้เกิดทางออกร่วมกันที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ก็จะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยกำกับดูแลในเรื่องนี้ เพื่อให้มีมาตรการที่เหมาะสมต่อไป

ลงลึกถามมาถึงกระแสตอบรับในพื้นที่ กทม.เขต 2 กันบ้าง จากการลงพื้นที่ ดร.ส้ม เผยว่า กระแสตอบรับดีมาก แม้การแบ่งเขตเลือกตั้งรอบนี้ใน เขต 2 กทม. เขตบางรัก จะถูกตัดออกไป โดยเป็นเขตราชเทวีเข้ามาแทน ทำให้ตนต้องไปแนะนำตัวในเขตใหม่นี้แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมาลงพื้นที่ตลอดไม่เคยทิ้ง ใช้ความผูกพันเข้าถึงชุมชน ขณะที่เมื่อถามถึงคู่แข่งในพื้นที่ กทม. เขต 2 ดร.ส้ม กล่าวว่า เขต 2 ถือว่ามีความหลากหลายเกือบทุกพรรคส่งผู้สมัครลงแข่งขันแต่ตนเน้นการทุ่มเทช่วยเหลือประชาชน มากกว่าที่จะไปโจมตีหรือขัดแย้งกับใคร

โดยตนมุ่งนำเสนอนโยบายเป็นหลัก ต้องก้าวข้ามการเล่นการเมือง ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้มีความตั้งใจเต็มที่เกินร้อย นโยบายจับต้องได้ ส่วนคำถามที่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะปักธงพื้นที่ กทม. ได้กี่เขต ถือเป็นเรื่องของผู้บริหารพรรค และตนคงไม่มาประเมินว่า มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งในเขต 2 กทม. หรือไม่เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง

ถึงกระนั่นก็ยอมรับว่า “ยังมีประชาชนบางส่วนเข้าใจผิด” เกี่ยวกับเรื่อง “กัญชา” ที่มีการถูก “บิดเบือน” ไปบ้าง ซึ่งยืนยันว่า “ไม่ใช่กัญชาเสรี” เพราะ “พรรคภูมิใจไทยเสนอกฎหมายมาเพื่อควบคุม” แต่คนไม่เข้าใจคิดว่าเสรี ดังนั้น ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องเคร่งครัดรัดกุม เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมาในการเสนอกฎหมายในสภา แต่ก็เกิดปัญหาเกี่ยวกับองค์ประชุม ซึ่งยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยมีเอกภาพโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายกัญชา เข้าเป็นองค์ประชุมตลอด แต่เมื่อมีเกมการเมืองจากพรรคอื่นเข้ามาก็ไม่สามารถที่จะไปควบคุมเขาได้ ต้องขอฝากสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจด้วย

 

ทิ้งท้ายกันที่จุดยืนส่วนตัวทางการเมืองของ หากพรรคภูมิใจไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เงื่อนไขอย่างไหนที่จะมาร่วมกันแล้ว แบบนี้ทำได้ แบบนี้ทำไม่ได้ ดร.ส้ม ตอบแบบได้ใจความว่า จุดยืนทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นเรื่องทิศทางของผู้บริหารพรรค แต่ส่วนตัวขอทำเพื่อประชาชน แต่สิ่งสำคัญที่ยึดถือมาตลอดคือ “จะต้องไม่มีการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เพราะเป็นสิ่งที่รับไม่ได้” จะต้องคงไว้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคด้วย และเป็นอีกเหตุผลสำคัญหนึ่ง ในการตัดสินใจมาเข้าร่วมงานพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้

“ขอฝากประชาชนเขต 2 กทม. รอบนี้กับบัตร 2 ใบ “เลือกคนเบอร์ 12 เลือกพรรคเบอร์ 7” ผลงานในสภาฯที่ผ่านมาจนปัจจุบันเราทำเต็มที่มาตลอดและเราไม่ทิ้งพื้นที่เป็นจุดสำคัญ” ดร.ส้ม กล่าวในตอนท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ชนะไปฟุตซอลโลก! 'มาดามแป้ง'ฉีด1.5ล้านโต๊ะเล็กหญิงชี้ชะตาบู๊จีน

‘กมธ.ป.ป.ช.’ ’ตั้งลำสอบ‘ฮั้ว สว.’เชิญ‘27ผู้ร้อง-กกต.’ให้ข้อมูล ยันไม่ใช่เกมการเมือง

‘ปธ.กมธ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ’ปัดตั้งธงเชิญแต่ขั้วตรงข้าม ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

'ใหม่ - ดาวิกา'ออกเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เพื่อร่วมชมแฟชั่นโชว์ Gucci Cruise 2026

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved