‘ถ้าเดินผิดจะพาประเทศไปทางที่ผิด’
‘บิ๊กตู่’อ้อนหนัก
ขอโอกาสเสียงข้างมาก/อยู่ทำงานต่อ
นำทัพรทสช.ลุยอุตรดิตถ์/พิษณุโลก
‘จุรินทร์’ชูทีมศก.ประสบการณ์สูง
มั่นใจพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศได้
พปชร.ดันแจกเงินเกษตรกร3หมื่น
โวกวาดสส.โคราชอย่างน้อย12คน
“บิ๊กตู่”นำทัพรทสช.บินหาเสียง“พิษณุโลก-อุตรดิตถ์”ถึงพิษณุโลกเข้าสักการะ“พระพุทธชินราช”พร้อมถวายดาบคู่ขอพรศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชท่ามกลางกองเชียร์ต้อนรับแน่น“บิ๊กตู่”ปราศรัยที่อุตรดิตถ์ถิ่น“ศรัณย์วุฒิ”อ้อนคนอุตรดิตถ์กาเลือก รทสช.ทั้ง 3 เขต เพื่อสานงานต่อย้ำอีกไม่กี่วันถึงวันเลือกตั้งขอให้ไตร่ตรองให้ดีถ้าเดินผิดจะนำพาประเทศชาติในทางที่ผิด ปลุกให้ช่วยรักษา 3 สถาบันหลักชาติ รทสช.ดึง 6 แกนนำพรรคตอกย้ำนโยบาย “ทำแล้วทำอยู่ ทำต่อ”
ผ่านคลิปสั้น ส่งผู้สมัครส.ส.ปูพรมบอกปชช.ทั้งประเทศเน้นเข้าใจง่าย-เห็นภาพ ทั้งนโยบายหาเงินเข้าประเทศ4ล้านล้านบาท-บัตรสวัสดิการพลัส-คนละครึ่งภาค2‘วิรัช’ปัดตัดหน้าพท.ออกนโยบายแจกเงินเกษตรกร3หมื่นบาท ออกก่อน-หลังไม่สำคัญอยู่ที่ทำได้หรือไม่ เมินโพลบอก พปชร.อีสานเหลือ2 ที่ แค่โคราชก็12ที่แล้ว‘จุรินทร์’ชี้ช่วงโค้งสุดท้ายกระแสตอบรับดีขึ้นชูทีมเศรษฐกิจประสบการณ์สูงพาชาติพ้นวิกฤติหลายครั้ง‘นิพนธ์’ยกผลวิจัยกระแสปชช.เชื่อมั่นปชป.เพิ่มขึ้น โวปักธงภาคใต้ไม่ต่ำกว่า40ที่นั่ง ทั่วปท.ได้70ที่นั่ง
เมื่อเวลา 09.04 น.วันที่ 23เมษายน2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ นายจุติ ไกรฤกษ์,นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรคพร้อมผู้บริหารเดินทางท่าอากาศยานดอนเมืองไปจังหวัดพิษณุโลกเพื่อลงพื้นที่หาเสียงให้ผู้สมัครส.ส.ของพรรคและพบปะประชาชนในพื้นที่จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์และแพร่
‘บิ๊กตู่’สักการะ‘พระพุทธชินราช’
เวลา10.15 น.พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วยแกนนำพรรคได้เดินทางมาถึง จ.พิษณุโลกเพื่อช่วยผู้สมัครส.ส.พิษณุโลกของพรรคหาเสียง ทันทีที่มาถึง พล.อ.ประยุทธ์กับคณะเดินทางเข้าสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล
กองเชียร์ลุงตู่รอต้อนรับเนืองแน่น
โดยมีแฟนคลับลุงตู่มารอถ่ายรูปด้วยจำนวนมากภายในพระอุโบสถรวมถึง นาคนิรันดร์ น้อยป้อม ที่กำลังจะอุปสมบท ส่วนด้านนอกพระอุโบสถมีผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ มายืนถือป้ายเชียร์และตะโกน“ลุงตู่สู้ๆ” “ลุงตู่อยู่ต่อ” เป็นระยะๆพร้อมรอถ่ายรูปด้วยจำนวนมากด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว
ขอให้ปชช.ช่วยรักษา3สถาบันหลัก
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์พร้อมแกนนำพรรคและผู้สมัครส.ส.พิษณุโลกเข้าสักการะ ศาลสมเด็จพระนเรศวรรมหาราช โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ถวายเครื่องไหว้สักการะและดาบคู่พร้อมทั้งขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้อยู่คู่กับบ้านเมืองตลอดไป
สำหรับในจังหวัดพิษณุโลก มีผู้สมัคร ส.ส จำนวน 5 คน 5 เขต ได้แก่ เขต 1 นายธนิท กิตติจารุรักษ์ เบอร์ 6, เขต 2 นายพัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร เบอร์ 5, เขต 3นายพงษ์มนู ทองหนัก เบอร์ 5, เขต 4 นางสาวณัฏฐปีญา แครบทรี เบอร์ 4 และ เขต 5พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต เบอร์ 3
นำทัพรทสช.ลงช่วยหาเสียงอุตรดิตถ์
จากนั้น เวลา12.30น.พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมแกนนำพรรค รทสช.ได้เดินทางมาที่ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาค เบอร์ 8 เขต 2 น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ เบอร์ 8 และ เขต 3 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เบอร์ 4 โดยมีประชาชนมารอต้อนรับหลายพันคน
อ้อนขอให้เลือกส.ส.ยกทั้ง3เขต
โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ดีใจที่เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของคนอุตรดิตถ์ ขอให้ชาวอุตรดิตถ์ช่วยกันดูแลประเทศชาติ ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมใจทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติและที่ต้องฝากไว้คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งสำคัญต้องช่วยกันรักษาไว้ วันนี้ได้เห็นน้ำใจไมตรีคนอุตรดิตถ์จึงขอฝากพรรครวมไทยสร้างชาติไว้ในอ้อมใจอุตรดิตถ์ มี 3 เขตเลือกตั้ง ต้องได้ ส.ส.ทั้ง 3 คน ขอให้คนอุตรดิตถ์รวมพลังกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะการดำเนินการในสภาจะต้องได้เสียงข้างมาก เพื่อเข้าไปทำงานต่อ หลังจากทำมาแล้ว ถ้าได้เสียงมาก ก็จะทำงานต่อง่าย
ย้ำไตร่ตรองให้ดีถ้าเดินผิดชาติพัง
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่าสิ่งที่ทำมาแล้วมีจำนวนมากเช่นที่จ.อุตรดิตถ์ถนนหนทางก็ทำมาแล้วแต่จะทำต่อคือขยายให้มากขึ้น พรรคเรามีนโยบายต่างๆจำนวนมากที่ช่วยกันคิดช่วยกัน ทำเพื่อประชาชน เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งขอให้ไตร่ตรองให้ดี ถ้าเดินผิด จะนำพาประเทศชาติไปในทางที่ผิด ถ้าไม่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะอยู่กันได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้อยู่ในใจของพวกเราทุกคนอยู่แล้ว
หัวใจอยู่ที่ทุกคน-สถาบันหลักของชาติ
“วันนี้ผมมาอุตรดิตถ์ คนอาจไม่รู้ว่าผมรักและห่วงใยทุกคน หัวใจผมอยู่ที่ทุกคน อยู่ที่สถาบันหลักของชาติ ขอให้ช่วยกันรักษาไว้ ขอขอบคุณทุกคนเราต้องเดินหน้าสู่ยุคใหม่ โลกใหม่ ไม่ใช่ประเทศไทยอย่างเดียว เราต้องมองไปข้างนอกด้วยว่าเป็นอย่างไร วันนี้ที่เรามารวมกันได้เพราะโควิดหาย ผมเป็นคนบริหารให้สถานการณ์เหล่านี้ปกติโดยเร็วที่สุด ผู้นำประเทศต้องเป็นผู้นำในสถานการณ์วิกฤตได้ด้วยขณะเดียวกัน ความมั่นคงก็ต้องมีทหารก็ต้องให้กำลังใจเขา ถ้าไม่มีทหารจะรักษาดินแดนไว้ได้อย่างไรดังนั้นต้องดูแลเขาด้วย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำ
จากนั้นมีประชาชนได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนหลายเรื่องเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์เร่งแก้ไขพร้อมสอบถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์โดยพล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่าได้ทำแล้วแก้ปัญหาให้แล้วและจะทำต่อ ถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล จะมีมาตรการการแก้ปัญหาเหล่านี้เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้อย่างสบายใจและถูกกฎหมายเรามีวิธีการให้อยู่แล้ว
ลั่น‘ถ้าไม่รักก็ไม่มาเหมือนกัน’
ระหว่างปราศรัยนายศรัณย์วุฒิได้ประกาศหน้าเวทีว่า“ประชาชนมารอลุงตู่3ชั่วโมง ถ้าไม่รักไม่ศรัทธาไม่มารอลุงตู่มากขนาดนี้”ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ก็ตอบทันทีว่า“ถ้าไม่รักก็ไม่มาเหมือนกัน เราต้องมีน้ำใจให้กันและกัน”ปรากฏว่าเรียกเสียงเฮลั่นสนั่นเวที
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัครส.ส.ทั้ง3เขตเลือกตั้ง คือ เขต 1 น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาค เบอร์ 8 เขต 2 น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ เบอร์ 8 และ เขต 3 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เบอร์ 4 และเบอร์ 22เข้าไปเป็นส.ส.เพื่อเลือกตนเองเข้าไปเป็นนายกฯ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กินทุเรียนพันธุ์“หลงลับแล”ทุเรียนพันธุ์ดังของอุตรดิตถ์โชว์ด้วย
รทสช.ดึง6แกนนำย้ำนโยบายผ่านคลิป
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)หัวหน้าคณะกรรมการจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัยกล่าวว่ารทสช.เตรียมเผยแพร่คลิปนโยบายเพื่อให้ผู้สมัครส.ส.นำไปเผยแพร่บอกต่อประชาชนทั้งประเทศว่า“ทำแล้วทำอยู่ ทำต่อ”ตามสโลแกนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตพรรคผ่านแล้วนำ 6 คนโดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุชา นาคาศัยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และตน
บัตรสวัสดิการพลัส-คนละครึ่งภาค2
นายธนกรกล่าวว่าโดยตนชี้แจงเรื่องโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต่อยอดเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส ให้ประชาชนคนละ 1000 บาท สามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก10,000บาท โครงการคนละครึ่งที่ทำมา5 เฟส พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมาทำต่อโครงการคนละครึ่งภาคสอง โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 11ล้านคน และปี 2566 เราตั้งเป้า 27.5 ล้านคน ซึ่งจะมีเงินเข้าประเทศถึง 2.3 ล้านล้านบาท โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการลงทุนถึง2.2ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานถึง 100,000 อัตรา เป็นการหาเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทุกนโยบาย ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งเราจะแตกต่างจากพรรคการเมือง
นโยบาย‘โคเงินล้าน โคล้านครอบครัว’
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงนโยบายโคเงินล้าน โคล้านครอบครัว“ทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้คนไทยหลุดพ้นจากความยากจนและสามารถจะเป็นคนรวยได้โดยวิธีง่ายๆจากการเลี้ยงโค โดยให้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านวงเงิน50,000 บาท นำมาซื้อโคไปเลี้ยง จะมีเงินล้านในระยะเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น โครงการนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้อนุมัติ วงเงิน5,000 ล้านบาท โดยรัฐอุดหนุนดอกเบี้ยทั้งหมด4ปีเป็นเงิน 600 ล้านบาท ให้กองทุนหมู่บ้านนำร่องโครงการนี้ 100,000 ครอบครัว โครงการนี้ ทำแล้ว ลองแล้ว สำเร็จแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติจะทำต่อจะทำให้พี่น้องพบกับความร่ำรวยไม่ขายฝัน
‘หนึ่งเขต หนึ่งอำเภอ หนึ่งรพ.เอกชน’
นายธนกร กล่าวว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต พรรครวมไทยสร้างชาติจะพูดถึงนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านสาธารณสุข จะมีการยกระดับในเมืองใหญ่ ประชากรหนาแน่น ในโครงการ หนึ่งเขต หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการลงทุน โครงการนี้ผู้ป่วยทุกสิทธิ์ที่รักษาพยาบาลได้ประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ป่วยบัตรทอง สำหรับการแก้ปัญหาด้านบริการสาธารณสุขในพื้นที่เขตชนบทอำเภอต่างๆ ในจังหวัดที่มีประชากรไม่หนาแน่นมักประสบปัญหาเรื่องขีดความสามารถทางการแพทย์ ดังนั้นการใช้วิสาหกิจเพื่อสังคมไปเติมขีดความสามารถทางการแพทย์เฉพาะสาขา แต่ละโรงพยาบาลที่ขาดแคนตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง จะลดอุบัติเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทได้ กรณีสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ผู้สูงอายุคนพิการและกลุ่มเปราะบางทางสังคมประจำตำบลอำเภอจังหวัดยังเป็นเครือข่ายเป็นระบบสามารถปฏิบัติได้จริงอันนี้เป็นสิ่งแรกเดือนที่รวมไทยสร้างชาติจะทำ
นโยบายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
นายธนกร กล่าวว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน ตั้งแต่ปี 2563 - 2566 วงเงิน 28,000 ล้านบาท ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ ที่มีที่พักอาศัยไม่เหมาะสม โดยเข้าไปซ่อมแซมให้180,000 ครัวเรือน หาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดเดือนละ 999 บาท มี 13,000 ครอบครัว ตั้งเป้าทำให้ครบ 100,000 หลัง ดูแลกลุ่มเด็กแรกเกิดได้รับเงินเดือนละ 600 บาทช่วยเหลือค่านม เรามีศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบลและชุมชนทั่วประเทศ 7092 ศูนย์ บูรณาการกันทุกกระทรวงเป็นแอพแจ้งเหตุปักหมุดหยุดเหตุเริ่มดำเนินการ 1 เมษายนและจะขยายไปทั่วประเทศที่โรงพักทั้งหมด1483 โรง ร่วมกับศูนย์ชุมชนอีก 7000 แห่งประชาชนดูแลบริหารเองไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียวซึ่งสามารถลดความรุนแรงในครอบครัวแก้ปัญหายาเสพติดรัฐบาล
หาเงินเข้าประเทศ4ล้านล้านบาท
นายธนกร กล่าวว่า ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงนโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท มาจากทำแล้วทำอยู่ทำต่อ จากการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท ทำให้มีการคมนาคมที่สมบูรณ์ทั้งระบบ การมีโครงสร้างดิจิทัลที่สมบูรณ์ ช่วยเยียวยาประชาชน ผ่านแอพระบบกระเป๋าตัง นโยบายคนละครึ่ง การปักธงในต่างประเทศว่าไทยจะลดคาร์บอนให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 เพื่อเป็นฐานของอุตสาหกรรมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เรื่องไมโครชิพจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมใหม่ที่จะหารายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้จะมีเงินจากการลงทุนภายในประเทศคือเศรษฐกิจบิซีจี ระเบียงเศรษฐกิจครบสี่ภาค ภาคเหนือ ภาคกลางภาคอีสา นและภาคใต้ เรื่องการท่องเที่ยวเราได้ออกวีซ่าระยะยาว 10 ปี เพื่อชี้ชวนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพให้มาลงทุนกินอยู่ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนไทย เพิ่มโอกาสของไทยในการค้าขายแล้วก็เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่เวทีโลก
นโยบายแก้หนี้สินทั้งกยศ.-แรงงาน
ทั้งนี้ นายธนกร กล่าวอีกว่านายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน สิ่งที่ทำแล้ว อาทิ กยศ.ช่วยเหลือแล้ว 6,800,000 คน การแก้หนี้สินเชื่อเช่าซื้อ ที่มีลูกหนี้กว่า 20 ล้านราย ลดดอกเบี้ยเงินกู้แก้หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จะทำให้มีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 30เปอร์เซ็น การแก้หนี้ของโควิดที่ไม่ได้เกิดจากความผิดประชาชน จะแก้ให้เสร็จภายในหนึ่งปี สำหรับผู้กู้ 3ล้านกว่าราย การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เงินในส่วนการประกันตน 30 เปอร์เซ็นต์ ของแรงงานมาใช้ก่อนหรือก็บอขอของราชการ 30% ได้มีโอกาสนำมาใช้ในการลดภาระหนี้และอัตราดอกเบี้ยสูงในยามจำเป็นและฉุกเฉิน ตรงนี้เป็นสิ่งที่รวมไทยสร้างชาติเราจะทำแล้วเราทำต่อได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
‘จุรินทร์’นำปชป.ลุย‘คลองสามวา
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ลงพื้นที่ไปร่วมพบปะพี่น้องประชาชน เขตคลองสามวา หาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.เขตคลองสามวา เบอร์14น.ส.เกศกานดา อินช่วย ที่ตลาดหทัยมิตร ถนนหทัยราษฎร์ จากนั้นได้ขึ้นรถแห่เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านร่มทิพย์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวาเพื่อร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุที่บริเวณหมู่บ้านร่มทิพย์ บรรยากาศการลงพื้นที่เขตคลองสามวาได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากโดยนายจุรินทร์ถูกล้อมท่ามกลางบรรดาแฟนคลับประชาธิปัตย์ทั้งเข้ามามอบดอกไม้ขอถ่ายรูปพร้อมให้กำลังใจนายจุรินทร์และพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้ความมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์26แน่นอน
นายจุรินทร์กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นภาพรวมของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งกรุงเทพฯจะช่วยเสริมจะช่วยให้มีโอกาสได้รับการเลือกตั้งเป็นอีกเขตที่มีความเป็นไปได้สูงมากขอฝากชาวคลองสามวาให้ช่วยสนับสนุนน้องเกศ เบอร์ 14 คนรุ่นใหม่ เข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนรวมทั้งขอฝากทุกเขตในกรุงเทพทั้ง 33 เขตด้วยและบัตรใบที่ 2ฝากเลือกพรรค เบอร์ 26
ช่วงโค้งสุดท้ายกระแสตอบรับดีขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงแนวทางการหาเสียงในช่วง20วันก่อนถึงวันเลือกตั้งว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์เดินมาในทิศทางที่เป็นที่พอใจของชาวกรุงเทพและคนไทยทั้งประเทศอยู่แล้ว โดยจะเห็นว่าเสียงตอบรับที่มีต่อพรรคในทุกพื้นที่ทุกภาคดีขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นระยะเวลาที่เหลือ 20 วัน ทุกอย่างก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก ด้วยการคัดสรรผู้สมัครที่มีศักยภาพ อีกทั้งนโยบายที่ตกผลึกและทำได้จริง อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ และกลยุทธ์ของประชาธิปัตย์ก็ตรงไปตรงมา บุคลากรสำคัญของพรรคตะลุยหาเสียงทั่วประเทศ
ย้ำนโยบายปชป.ทำได้จริงไม่สร้างภาระ
“นโยบายประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่ตกผลึกและทำได้จริงอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ ไม่ไปสร้างภาระให้กับพี่น้องประชาชนเพราะการลดแลกแจก แถมสุดท้ายต้องไปขึ้นภาษีกับชาวบ้านแล้วก็ต้องไปกู้ ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องเป็นหนี้เพิ่ม สิ่งเหล่านี้คือนโยบายประชานิยม ที่ไม่รับผิดชอบ ประชาธิปัตย์ไม่ทำแบบนี้ผมเชื่อว่าคนไทยอ่านออกว่านโยบายไหนทำได้ ทำไม่ได้ นโยบายไหนหลอกเอาคะแนน และนโยบายไหนตกผลึกแล้วรับผิดชอบไม่สร้างภาระให้ประชาชน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นจุดแข็งของประชาธิปัตย์”นายจุรินทร์กล่าว
ชูทีมศก.ประสบการณ์สูงพาพ้นวิกฤติ
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่านอกจากประชาธิปัตย์จัด 3 ทัพลุยหาเสียงทั่วประเทศแล้ว ยังมีทัพเสริมสำคัญที่เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่าถ้าประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล เรามีทีมเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์ เคยนำพาประเทศฝ่าวิกฤติ ต้มยำกุ้ง และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์สำเร็จมาแล้ว ขณะที่ปัจจุบันกำลังเกิดวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตนเชื่อมั่นว่าทีมเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์พาประเทศไทยรอดได้แน่นอน
ลุยไม่หยุดบุก กรุงเก่า-สระบุรี 24เม.ย.
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปประชาธิปัตย์จะได้หาเสียงหนักขึ้นในเย็นวันนี้จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ที่วงเวียนใหญ่ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช กรุงเทพฯตั้งแต่เวลาประมาณ 16.30 น. ขอเชิญพี่ร่วมกันติดตามการปราศรัยของประชาธิปัตย์
สำหรับในวันที่24 เม.ย. ตนจะไปหาเสียงที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และในตอนค่ำจะกลับมาหาเสียงในกรุงเทพ ตนไม่หยุดจะมุ่งมั่นทำงานหนักต่อไป หวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนทั้งประเทศจะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการกาเบอร์26ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้
ปชป.กระแสเชื่อมั่นดีขึ้น/หวัง70ที่นั่ง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ที่จัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กล่าวถึงสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์ว่าจากการติดตามสถานการณ์มาจนถึงวันนี้ ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ทั่วประเทศดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ และกรุงเทพ พรรคจึงมีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป้าหมายที่ได้วางไว้แต่เดิมมีความเป็นไปได้ชัดขึ้น ตัวเลข 70-80 ที่นั่งที่ประมาณการเอาไว้ช่วงก่อนการเลือกตั้งมาถึงนาทีนี้ทำให้เรามีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะจากการที่นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯได้แถลงในยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ การเปิดตัวนโยบายของพรรคทั้ง 26 นโยบายรวมถึงนโยบายการสร้างสันติภาพ สู่สันติสุข ชายแดนใต้ มาถึงวันนี้ในมีการจัดทัพในการรณรงค์หาเสียงแบ่งเป็น 3 ท่านคือ ท่านหัวหน้าพรรค ท่านเลขาธิการพรรค และทัพของอดีตหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกสายทุกทัพได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งได้ตระเวนกันไปทั่วทุกภูมิภาค เพื่อพบปะประชาชน ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้เลือกประชาธิปัตย์ทั้งพรรคทั้งคน โดยพรรคได้หมายเลข 26 ใช้ได้ทั่วประเทศ ส่วนเขตพื้นที่ต่างๆแต่ละเขตได้เลขหมายต่างๆกัน แต่พรรคย้ำให้เลือกทั้งพรรคเลือกทั้งคน
โวปักธงภาคใต้ไม่ต่ำกว่า40ที่นั่ง
“มาถึงนาทีนี้มีผลการวิจัยของพรรคใกล้เคียงกับผลการวิจัยของโพลหลายสำนักว่าประชาธิปัตย์มีการตอบรับอย่างดี มีเสียงขานรับในทุกภูมิภาคที่ดีขึ้น ขอถือโอกาสนี้ยืนยันตัวเลขว่าจากการทำผลสำรวจ และได้ทำการทั้งของสำนักโพลต่างๆสอดคล้องกับของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำอยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่เรามั่นใจว่าจะได้ตัวเลขไม่ต่ำกว่า40ที่นั่ง เรายังยืนยันในตัวเลขนี้ ภาคใต้พรรคยังมีความหวังว่าจะได้มากกว่า40ที่นั่ง ส่วนจ.สงขลามีความมั่นใจว่ายังสู้ทั้ง9 เขต ขณะนี้ถือว่าใกล้เคียงความจริงอย่างมาก เหลือเวลาอีก 3 อาทิตย์ เราเชื่อว่า เขตที่ยังสูสีกันอยู่เราจะพยายามให้ชนะขาดให้ได้”นายนิพนธ์ย้ำ
เสียงตอบรับใน‘อีสาน-เหนือ’เพิ่ม
ขณะนี้เท่าที่ตัวเลขที่เราประเมินทั้งประเทศขั้นต่ำ70ที่นั่งและยังใกล้เคียงความจริงมากที่สุดในขณะนี้แม้ว่าผลโพลอีสานบอกเราจะได้น้อย จากการที่หลายสายไปเดินในภาคอีสานท่านบัญญัติก็ดี คุณหญิงกัลยาก็ดี ท่านรองชัยยศก็ดี ยืนยันว่าพื้นที่ภาคอีสานไม่ว่าจะเป็นสกลนคร อำนาจเจริญ นครราชสีมาและ อุบลราชธานี เสียงประชาธิปัตย์ได้รับการตอบรับอย่างดี เรามีเป้าหมายอยู่ 3 เขต
ในส่วนภาคเหนือ ถ้าเราดูโพลบางสำนักประชาธิปัตย์มี 4 ที่นั่ง เราประมาณการว่าน่าจะได้มากกว่านั้นบางจังหวัดเท่าที่สุ่มตัวอย่างมามีกระแสตอบรับดีมาก ทั้งสุโขทัย และเชียงใหม่บางเขต นอกจาก จังหวัดตราด นครสวรรค์ จังหวัดสุโขทัย หรือพิจิตร สิ่งเหล่านี้ท่านรองฯนราพัฒน์ แก้วทอง ก็ดูแลอย่างใกล้ชิดในพื้นที่” นายนิพนธ์ กล่าว
เชื่อมั่นในตัวปชป.มากกว่ามุ่งแจก
นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า จากงานวิจัยยังพบว่า ประชาชน กว่า 20% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศเกือบ 40 ล้านคน ยังให้ความเชื่อมั่นต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เคยสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง กลับตรงกันข้ามพรรคประชาธิปัตย์มักจะเป็นทางเลือกทางรอดทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดวิกฤตรวมทั้งความเชื่อถือในแนวอุดมการณ์และนโยบายที่พรรคได้ทำไว้ให้ประเทศในแต่ละยุคสมัยถึง77ปียังมีความต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและแนวนโยบายหลายด้านที่กำลังทำและจะทำต่อไปในอนาคตคือเรื่องการศึกษาและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรโดยเฉพาะการประกันรายได้ที่เกษตรกรทั่วประเทศสามารถมีความมั่นคงในรายได้รวมทั้งนโยบายการ‘สร้างชาติ สร้างคน’ในด้านต่างๆ ที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็ง อย่างมั่นคง ในการประกอบอาชีพ มากกว่านโยบายที่มุ่งไปที่การแจกจ่าย
“จากงานวิจัยของพรรคและการติดผลโพลทุกสำนักที่ชี้ไปในทิศทางที่เป็นบวกประกอบกับระยะเวลาอีก20กว่าวันที่เหลือในการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้จะสามารถทำให้พรรคมีฐานคะแนนที่เติบโตขึ้นใกล้เคียงกับปี พ.ศ.2554 ที่เราเคยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง11ล้านคะแนน ซึ่งในปีพ.ศ.2566 นี้ สมาชิกทุกคนของพรรคจะช่วยกันทุ่มเทในการรณรงค์หาเสียงเพื่อให้พี่น้องประชาชนช่วยสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไป”นายนิพนธ์ ระบุ
‘วิรัช’ชูแจกเงินเกษตรกร3หมื่น
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงนโยบายแจก 30,000บาท ให้เกษตรกร 8 ล้านรายว่า ไม่ใช่นโยบายใหม่แต่เป็นเพียงการเพิ่มวงเงินให้กับเกษตรกร เป็นทุน ในการทำนา ทำไร่ เมื่อถามว่า การออกมาในช่วงนี้คล้ายกับต้องการมาตัดหน้านโยบาย10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย นายวิรัชกล่าวว่าการจะออกก่อนหรือออกหลัง ไม่สำคัญ ถ้าไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนไม่มีรายละเอียดก็ใช้ไม่ได้
จี้แบงค์ชาติแจงปมแจกเงินดิจิทัล
พร้อมตั้งคำถามถึงธนาคารแห่งประเทศไทยว่าทำอะไรอยู่ เพราะนโยบายเงินดิจิตอล 10,000บาทออกมา 3 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่า เรื่องนี้สามารถทำได้หรือไม่ ขอให้ออกมาตอบให้สังคมว่า สามารถใช้ได้หรือไม่ได้ หากไปถามเพื่อไทย เดี๋ยวก็จะมีเงินสกุลใหม่ออกมาอีกแต่ขอไม่ประเมินว่านโยบายนี้จะไปรอดหรือไม่รอด
นายวิรัชยังไม่กังวลที่โพลบางสำนัก ประเมินว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้เก้าอี้ ส.ส.แค่35ที่นั่ง โดยระบุว่าไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะเรามาจากของจริงและทำโพลของตัวเองมาตลอดโคราช อย่างน้อยก็12คนแล้ว ส่วนโพลระบุว่าพลังประชารัฐ จะได้อีสานแค่ 2เก้าอี้นั้น ส่วนตัวตอนนี้เฉยๆแล้ว รอวันที่ 14 พ.ค.ดีกว่าเพราะหักปากกาเซียนมาทุกรอบอยู่แล้ว
‘สกลธี’นำทีมพปชร.หาเสียงบางแค
นายสกลธีภัททิยกุล หัวหน้าทีมผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ลงพื้นที่ตลาดเช้าศิริเกษมหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค กทม.ช่วยนายเอกชัย ผ่องจิตร์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต29 (บางแค-หนองแขม) หมายเลข 7หาเสียง เดินพบปะประชาชนพร้อมชูนโยบายพัฒนาพื้นที่และแก้ไขการจราจรนายสกลธีกล่าวว่าการลงพื้นที่ได้รับการแสการตอบรับของประชาชนเป็นอย่างดีผู้สมัครของเราลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยมาตลอด พรรคมั่นใจในคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคนที่พรรคเลือกมาว่าจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีทุกคน
ไม่ร่วมพรรคชังชาติ-นโยบายทำลายศก.
ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสินและพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ2ป.นั้นนายสกลธีกล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา ต้องถามด้วยว่าเราจะอยากร่วมด้วยหรือเปล่า จุดยืนพรรคพลังประชารัฐคืออยากก้าวข้ามความขัดแย้ง เราอยากเปิดโอกาสให้กับทุกฝ่าย อยากให้การหาเสียงของแต่ละพรรคเป็นไปด้วยดี ไม่มีการปะทะกันระหว่างประชาชน ให้ทุกคนรักกันเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไปรวมกับใครก็ได้ เราก็มีจุดยืนเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าพรรคไหนแนวทางไม่ตรงกันก็รวมกันไม่ได้ และพรรคที่มีนโยบายทำลายเศรษฐกิจ เราก็รวมด้วยไม่ได้เช่นกัน
เหน็บอยากมีปชต.แต่ป่วนพรรคอื่น
ส่วนที่มีกลุ่มคนมาป่วนเวทีปราศรัยพรรคพปชร.และไปช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงนายสกลธี กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งเพราะคนบางกลุ่มอยากให้มีประชาธิปไตยแต่ไปรบกวนการหาเสียงพรรคการเมืองอื่นวันนี้ประเทศเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเต็มที่ทุกคนลงเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกัน ควรแข่งกันตามกติกาหมดเวลาปั่นวาทะกรรมพรรคทหาร ฝ่ายเผด็จการแล้ว ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่าอยากให้ใครเข้ามาดูแลมากกว่ากัน
‘อนุชา’ลุยหาเสียงตลาดในชัยนาท
เวลา 07.00น.นายอนุชา นาคาศัยรมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 1 เบอร์ 9 พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางลงพื้นที่ตลาดภาษีซุงซึ่งเป็นตลาดเช้ายอดนิยมของ จ.ชัยนาท ได้เดินทักทายพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนซึ่งมีกำหนดการเดินตลาดและเยี่ยมชุมชนในพื้นที่อ.เมือง จ.ชัยนาทและอ.สรรพยา ทั้ง ตลาดภาษีซุง ตลาดสรรพยา ตลาดโพนางดำ ชุมชนท่าชัยและตลาดหัวนาพร้อมขอให้เชื่อมั่นในการทำงานอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจในพรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยพรรคจะเดินหน้าสานต่องานที่ทำให้สำเร็จ ตามเจตนารมณ์ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”
อ้อนให้โอกาส‘บิ๊กตู่’สานงานต่อ
“จากผลงานในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงทั่วประเทศ การจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการ‘ชิมช้อปใช้’โครงการเราเที่ยวด้วยกัน การแก้ปัญหาสถานการณ์โควิดจนเป็นที่ยอมรับทั่วโลกและการที่ไทยได้รับการยอมรับในเวทีการประชุมผู้นำเอเปค2565 ขอโอกาสให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับใช้ประชาชนและสานต่องานที่ทำอยู่เพื่อให้ประเทศเราเดินหน้า พัฒนายิ่งขึ้น ตามนโยบายพรรคหลายประการที่เราจะลงมือทำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจพัฒนาตั้งแต่ระดับฐานรากจนถึงระดับประเทศและทำให้ประเทศไทยเป็นเป้าหมายที่รองรับนักท่องเที่ยวและการค้าการลงทุนในอนาคตวันที่14 พ.ค.นี้เข้าคูหา เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์22”นายอนุชา ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี