เปรียบเป็นกัปตันขับเครื่องบินประเทศ
‘บิ๊กตู่’บุกอุดรฯ
ลั่นถึงจะอายุมากแต่มีประสบการณ์
นำผู้โดยสารให้ปลอดภัยได้ยามวิกฤต
ลาราชการ29-30เมษายนลุยหาเสียง
‘สุดารัตน์’ดัน3จว.ใต้ครัวฮาลาลโลก
ปชป.หนุนSMEแสนรายเข้าตลาดหุ้น
‘อนุทิน’พัฒนาภูเก็ตเมืองสุขภาพโลก
“บิ๊กตู่”สักการะ“หลวงปู่แก้ว”เสริมสิริมงคล ก่อนลุยปราศรัย 3 เวทีรวด อ้อนชาวกุดจับ “สบายดีบ่คิดฮอดหลายๆ เด้อ” ย้ำเหตุผลที่ต้องอยู่ต่ออีก 2 ปี เพื่อสานต่องานที่ค้างอยู่ เปรียบเป็นกัปตันขับเครื่องบินประเทศไทย ถึงอายุมาก แต่มีประสบการณ์ สามารถนำพาผู้โดยสารให้ปลอดภัยได้ในยามวิกฤต ด้าน“อนุทิน”บุก“ภูเก็ต”ยกเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว มั่นใจตอกเสาเข็มการเมือง ได้ทำงานต่อเนื่อง ชูนโยบายปั้นเมืองสุขภาพระดับโลก พรรคประชาธิปัตย์ ชูนโยบายกระตุ้น ศก.ไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ ปรับโครงสร้างตลาดเงินตลาดทุน เปิดทางSME ศักยภาพกว่าแสนรายเข้าตลาดหุ้น “สุดารัตน์”ล่องใต้ชูต้องใช้ ศก.นำความไม่สงบ ดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ ผลิตอาหารฮาลาลครัวโลก
เมื่อวันที่ 24เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเดินสายหาเสียงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลาราชการและเดินทางมาที่ จ.อุดรธานี ถิ่นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) โดนทันทีที่เดินทางถึงสนามบินจังหวัดอุดรธานี นายวิทยา แก้วภารดัย , นายเสกสกล อัตถาวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน รอให้การต้อนรับ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาวัดอัมพวันวิทยาราม อ.กุดจับ เข้ากราบสักการะหลวงปู่แก้ว เพื่อความสิริมงคล ก่อนลงพื้นที่ โดยมีพี่น้องประชาชนที่รู้ข่าวก็มารอให้กับต้อนรับ ขอถ่ายรูปกับ พล.อ.ประยุทธ์ และเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นเวทีปราศรัย 3อำเภอ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกเวทีจะถูกจัดอยู่ในสถานที่ปิดทั้งหมด เนื่องจาก จ.อุดรธานี ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรค รทสช.และหลายครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาที่นี่ มักจะมีการออกมาต่อต้านของกลุ่มเห็นต่าง ทำให้วันนี้พรรคประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย
‘บิ๊กตู่’วางคิวออกหาเสียงทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานโปรแกรมการหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ในพื้นที่ภาคใต้ วันที่ 29เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียง จ.ตรัง ช่วงเช้าเดินตลาดในเมืองตรัง จากนั้นไปเปิดเวทีปราศรัย จ.พัทลุง และนอนค้างคืนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเช้าวันที่ 30 เม.ย.จะลงพื้นที่หาเสียง จ.สตูลและช่วงบ่ายกลับมาหาเสียงและเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะที่ภาคตะวันออกจะลงพื้นที่หาเสียง จ.ชลบุรี และจ.เพชรบุรี ภาคกลาง จ.นครปฐม กาญจนบุรีและกรุงเทพฯ ทั้งนี้ การจัดเวทีปราศรัยในช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งจะมีการจัดทั้งเวทีขนาดใหญ่และขนาดกลางคละกันไป
อ้อน“สบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆเด้อ”
เวลา 10.45 น.พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ, นายอนุชา บูรพชัยศรี นายชัชวาลล์ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ รองเลขาธิการพรรค นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาจังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ หาเสียง พร้อมชี้แจงนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้ทราบ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำคณะเข้ากราบสักการะหลวงปู่แก้ว วัดอัมพวันวิทยาราม อ.กุดจับ พระพุทธรูปเก่าแก่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือและเข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดอัมพวันวิทยารามเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางมาจังหวัดอุดรธานี จากนั้นเดินทางมายังหอประชุม อ.กุดจับ เพื่อปราศรัยหาเสียงช่วย นายผดุงศักดิ์ หันจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต8 นายนิธิศ ประกอบใส ผู้สมัคร สส.เขต9และนายทรงกิตติ สุวรรณทอง ผู้สมัคร สส.เขต10 โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นกล่าวทักทายเป็นภาษาอีสานว่า “สบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆเด้อ” ท่ามกลางเสียปรบมือชอบใจของประชาชนที่มาฟัง โดยได้ย้ำว่า ตนอยากกลับบ้าน ตนเกิดโคราชแม่เป็นคนชัยภูมิ ตนเป็นคนอีสานตั้งใจจะทำอะไรให้กับคนอีสานเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นกว่าเดิม ภาคอีสานมีอะไรมากมาย อยากให้คนอีสานมีความรักความสามัคคี มีหลายอย่างที่ตนได้ทำไปแล้ว อยากทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมีรายได้สูงขึ้นและหาเงินเข้าประเทศด้วยเพื่อดูแลคนไทยทั้งประเทศ ถ้าเรารู้จักใช้เงินแต่หาเงินไม่เป็นก็ลำบาก รัฐบาลจึงต้องดูแลพวกเราต่อไป เพื่อให้ทุกคนมีช่องทางหาเงิน อ.กุดจับ เป็นอำเภอหนึ่งในภาคอีสาน เราต้องทำให้เกิดความรักความสามัคคีเพื่อให้เกิดการพัฒนาในบ้านเมือง นี่คือเหตุผลที่ตนจะอยู่ต่ออีก2ปีเพื่อมาสานต่อการทำงานที่ยังค้างอยู่ก่อนที่จะส่งต่อไปให้กับคนอื่นในอนาคต วันนี้ถ้าใครทำอะไรไม่ดีไม่ถูกต้องตนยอมรับไม่ได้ ตนปฏิญาณไว้ตลอดว่า จะไม่พูดความเท็จ ได้มีการปฏิญาณตั้งแต่สมัยเป็นทหาร หลายพื้นที่ในภาคอีสานตนมาบ่อยตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.อดีตมีเหตุการณ์ไม่สงบ ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ต้องรักสามัคคี-อยู่อย่างเท่าเทียมกัน
“พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เราต้องทำทุกอย่างให้เจริญเติบโต ไปเรื่อยๆ เพื่อลูกหลานของพวกเรา ประเทศไทยจะดีขึ้นได้เพราะคนไทยรักและสามัคคีกันนั่นคือพื้นฐานสำคัญ ผมโกรธใครไม่ได้ เราต้องอยู่อย่างเท่าเทียมกันเพื่อคนไทยทุกคน จะทำให้ทุกคนได้รับถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำให้กับคนไทยทุกคน เหมือนกับการเลี้ยงลูกต้องเลี้ยงอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แจกเงินอย่างเดียวแต่หาเงินไม่เป็นแล้วจะเอาเงินที่ไหนมา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ปท.เป็นเครื่องบินคนขับต้องมีประสบการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า “วันนี้โลกกำลังเดินไปข้างหน้าเหมือนเรานั่งเครื่องบิน ประเทศไทยเหมือนเครื่องบินกลางเก่ากลางใหม่ แต่นั่งแล้วต้องปลอดภัย กัปตันที่ขับเครื่องบินต้องมีประสบการณ์ เหมือนผมแม้จะมีอายุมาก แต่มีประสบการณ์สามารถขับเครื่องบินลำนี้ได้อย่างปลอดภัย ปัญหาในประเทศมีหลายเรื่องต้องค่อยๆแก้ ถ้าแก้ได้เลยแก้ไปนานแล้ว สิ่งที่อยากเตือนพวกเราสิ่งที่เสนอว่าจะให้ อยากดูว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ได้หรือไม่ เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาไม่ทันการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ แต่อยากจะเห็นอะไรใหม่ๆทันทีทันใดคงไม่ได้ ต้องดูการเปลี่ยนแปลงในอดีตด้วย ความเจริญต้องอาศัยเวลา สิ่งสำคัญอย่าทิ้งสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนทุกคน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
อากาศวิกฤตพาผ่านได้-แต่เด็กอาจตกใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มีหลายอย่างอยากทำมาก ตนไม่อยากให้ทุกคนมีความทุกข์อยากให้ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ตนไม่ได้ดีกว่าใคร แต่คิดเสมอว่าตราบใดถ้ายังแก้ปัญหาให้พวกท่านไม่ได้ก็จะทำต่อเลยมาอยู่ตรงนี้มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นถ้าให้ลุงตู่อยู่ต่อต้องเลือก ส.ส.เขตพรรครวมไทยสร้างชาติทุกเขตเลือกตั้งเพื่อให้เข้าไปทำงานในสภา และเลือกเบอร์22 เบอร์ของพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายที่จะทำเพื่อประชาชนจำนวนมากเราเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้ เพราะทุกพื้นที่คือคนไทยตนต้องช่วยทั้งหมด ตนต้องไม่โกหก พูดอะไรไว้ก็ต้องทำวันนี้อายุ 70ปีแล้ว ถ้าเป็นนักบินก็แก่แล้วแต่ยังมีสมรรถภาพ เป็นนักบินมีประสบการณ์ เวลาเกิดอากาศวิกฤตนักบินที่มีประสบการณ์จะช่วยนำพาเครื่องบินให้ปลอดภัยได้ ถ้าเป็นเด็กอาจจะตกใจ แต่ตนมีประสบการณ์ขับเครื่องบินลำนี้ได้
‘ธรรมนัส’ลุยเชียงใหม่-ยุติความขัดเเย้ง
ด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส. พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรค พปชร.ลงพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ปราศรัยหาเสียงช่วย นายนรพล ตันติมนตรี ผู้สมัคร สส.หมายเลข 8 เขต10เชียงใหม่ โดยเเห่รถหาเสียงไปรอบอำเภอฮอด พร้อมทักทายประชาชน ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตั้งแต่มีการต่อสู้บนถนนราชดําเนิน บนสี่แยกราชประสงค์ ตนเคยถูกยึดทรัพย์ ถูกดําเนินคดีในฐานะเป็นท่อน้ําเลี้ยงคนเสื้อแดง เมื่อปี49 จนถึงทุกวันนี้ มีพี่น้องหลายท่านติดคุกติดตาราง หลายท่านมีคดีติดตัว หลายท่านต้องเสียลูก เสียเมีย เสียผู้นําครอบครัว ถ้าถามว่า ตั้งแต่มีการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ถามว่าคนไทยได้อะไร ตอบได้ทันทีว่ามีแต่เพิ่มความบอบช้ำ เกิดความแตกแยกความสามัคคี บ้านใดเมืองใดไม่มีความสามัคคี อย่าหวังเลยว่าประเทศชาติจะมีเกิดความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน
จึงเป็นที่มาที่พรรคพปชร.ประกาศนโยบายว่า เราต้องการให้คนไทยรักกัน นั่นคือนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ของเก่าเราไม่เอา ของเก่าถอดทิ้งจากหัวใจ การจะเลือกคนมาเป็นผู้แทนถือว่า สําคัญมาก”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ภาคเหนือลําไย ถือว่าเป็นพืชผลทางการเกษตรของพี่น้องชาวเหนือ แต่กลับไม่มีกฎหมายคุ้มครอง อย่างเช่น พ.ร.บ. ลําไย ตอนตนเป็นรัฐมนตรี ก็พยายามผลักดัน พ. ร. บ. ลําไย มา จนตอนนี้เรามี พรบ.ลําไยคุ้มครองแล้ว โดยเมื่อปี2563 พี่น้องได้ชดเชยราคาลําไย ไร่ละสองพันบาท ซึ่งบุคคลที่อยู่ข้างหลังในการผลักดันช่วยจนสำเร็จ ก็คือผู้ใหญ่ใจดี ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนเท่าเทียมกัน ตั้งใจที่จะมาพัฒนาประเทศของเราอย่างแท้จริง
‘บิ๊กป้อม’จ่อเปิดตัวมือเศรษฐกิจคนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจัดแถลงข่าวเปิดตัวสมาชิกพรรคคนใหม่ ซึ่งเป็นมือเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย โดยบุคคลดังกล่าวจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งในทีมเศรษฐกิจ และทีมนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน การพัฒนาเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผ่านประสบการณ์หน่วยงานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ มีบทบาทสำคัญในด้านการวางแผนและดำเนินการการพัฒนาเชิงพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาพื้นที่ในภูมิภาคต่างๆ
‘อนุทิน’ไประนองรับฟังปัญหาประมง
เวลา 07.10 น. ที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาระนอง จ.ระนอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประมง พร้อมด้วย นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ผู้สมัคร สส.ระนอง แบบแบ่งเขต โดยมีผู้ประกอบการประมงให้การต้อนรับและสะท้อนปัญหา ผู้ประกอบการรายหนึ่ง บอกว่า ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาประมงไทยมีปัญหาอย่างหนัก ผลประกอบการจากร้อยเหลือเพียง5-10 เท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบเป็นภาพกว้างในห่วงโซ่ของประมง ทั้งผู้ประกอบการประมง ต่อเนื่องประมง อาชีพรับจ้าง และทุกๆ อย่างที่ประกอบรวมกัน จึงอยากจะฝากถึงรัฐบาลใหม่ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ได้มองเห็นและแก้ไขปัญหาประมงให้กับคนไทยด้วย อย่าเอาใจแต่ต่างชาติเพียงอย่างเดียว
ด้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้ลงมาพบกับผู้ประกอบการประมงและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเต็มที่และติดขัดเงื่อนไขบางอย่าง แต่เมื่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นเป็นรัฐบาลแล้ว จะนำปัญหาที่รับฟังจากพื้นที่ไปดำเนินการแก้ไขให้ด่วนที่สุด
บุก‘ภูเก็ต’ยกเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว
ที่ยิมเนเซียม บริเวณสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยผู้บริหารและแกนนำพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค และผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, ดร.นาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค, และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรคหาเสียง ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช เบอร์3 เขตเลือกตั้งที่2 นายวงศกร ชนะกิจ เบอร์5และเขตเลือกตั้งที่ 3 นายวิวัฒน์ จินดาพล เบอร์9
ต่างชาติต้องมองเป็นเป้าหมายการเดินทาง
นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งปี62 ไม่มีใครคิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีสส.จากภาคใต้ได้กว่า10 ที่นั่ง แต่ที่สุดแล้วมันก็เกิดขึ้น เพราะความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ตรงส่วนนี้ตระหนักอยู่ในหัวคิดของพรรคภูมิใจไทยตลอดเวลาว่าจะต้องตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนมอบให้ ที่ผ่านมาเราพัฒนาถนนหนทางให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ไปจนถึงขยายบริการด้านสาธารณสุข ล่าสุดเราประสบความสำเร็จในการผลักดันสะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่ อนาคต เราจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่ออ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ผ่านจังหวัดชุมพร-ระนอง สำหรับจังหวัดภูเก็ต พิสูจน์ศักยภาพมาแล้ว จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่เราจะเพิ่มโอกาสให้พวกท่านมากขึ้นด้วยการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Hub หลายชาติกำลังเข้าสังคมผู้สูงวัย เขาต้องมองภูเก็ตในฐานะเป้าหมายของเขา
ทำด้ามขวานไทยเป็นด้ามขวานทอง
“ที่ผ่านมา ภูเก็ตเหมือนนางกวักของประเทศไทย นักท่องเที่ยวมาไทยเพราะ อยากมาชื่นชมความสวยงามของภูเก็ต เมื่อเขามาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง รอบที่แล้วเราปักธงที่จังหวัดใต้ได้หลายจังหวัด มารอบนี้ ขอตอกเสาเข็มเพิ่มที่ภูเก็ตจะได้ไหม แต่จากที่เห็น พี่น้องประชาชนมาต้อนรับเราขนาดนี้ ผมคิดว่าเราทำได้ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยเราเป็นพรรคที่ให้ความสำคัญกับการทำงาน ที่ผ่านมาพื้นที่ภาคใต้ในการดูแลของกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีรัฐมนตรีมาจากพรรคภูมิใจไทย ท่านได้เห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้ว หากท่านต้องการเห็นการพัฒนาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุณาไว้วางใจให้เราได้ทำงานต่อ เราจะเปลี่ยนด้ามขวานไทยให้เป็นด้ามขวานทอง’
ปชป.ชูกระตุ้นศก.ไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ
ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงข่าววาระประเทศไทย ครั้งที่3“ปชป.ชูนโยบายกระตุ้น ศก.ไทย โดยไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ”นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.กระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์, ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย และประธานคณะกรรมการต่างประเทศ,ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ พร้อมด้วยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ณ ห้องประชุมชั้น3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
ดัน1ล้านล้านกระตุ้นศก.-จีดีพีโต5%
ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ทีมเศรษฐกิจพรรคปชป.นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือ การสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ผ่านกลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาพลังงานสูงขึ้น ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะ ผลกระทบจาก Covid-19 ไปจนถึงผลกระทบจากปัญหาภายนอกประเทศ เช่น วิกฤตธนาคารพานิชย์ในยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้เกิดการเติบโตของ GDP ไม่น้อยกว่า 5% โดยไม่เพิ่มหนี้สาธารณะผ่านกลไกและและมาตรการต่างๆ อาทิ
การปรับโครงสร้างตลาดเงินตลาดทุน พรรคจะสนับสนุนให้การระดมทุนผ่านIPO ง่ายขึ้น
ผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าตลาดหุ้น
“เราต้องการหาเงินก่อนที่จะใช้เงิน ด้วยระบบเศรษฐกิจทั้งหมดที่จะทำเงินให้กับรัฐบาลไปจับจ่ายใช้สอย ก็คือ ภาษี ซึ่งพรรคปชป.ต้องการทำให้ฐานของผู้เสียภาษีใหญ่ขึ้น โดยปัจจุบันโครงสร้างประชากรเป็นรูปปิรามิด ด้านล่างสุดคือกลุ่มฐานรากที่มีความเปราะบาง ความพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ผ่านมาเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นต้องเชื่อมให้คนกลุ่มบนมาสนับสนุนคนกลุ่มล่าง กลุ่มบนเป็นผู้มีรายได้สูงและมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ เราจะส่งเสริมสนับสนุนให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยผลักดันให้SME หรือบริษัทขนาดเล็ก ขนาดกลางกว่าแสนราย เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น จากเดิมอาจเลี่ยงหรือไม่เสียภาษีให้กลับมาเป็นฐานภาษี ซึ่งภาษีที่ได้มาจะลงมากลุ่มฐานราก ซึ่งแบ่งเป็น2ส่วน คือ ส่วนแรกกลุ่มที่พร้อมจะกลายเป็นนักธุรกิจ ใส่เงินเข้าไป ใส่วิชาการ ใส่โนฮาวเข้าไปกลายเป็นSME ในอนาคตที่พร้อมเสียภาษีได้อีก ส่วนที่2.กลุ่มที่ยังขาดศักยภาพ เราต้องใช้สวัสดิการของรัฐใส่เข้าไป” ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ กล่าว
‘สุดารัตน์’ดัน3จังหวัดใต้เป็นฮาลาลโลก
ที่ จ.ปัตตานี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.)และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย พร้อมผู้สมัครสส.พรรคไทยสร้างไทย จ.ปัตตานี ประกอบด้วย เขต 1 ดร.ชลิต ศรีสมาน เบอร์ 9 เขต 2 น.ส.นาซีฮะห์ ลาเตะ เบอร์ 6 เขต 3 นายอีบรอฮิม ยานยา เบอร์6 เขต4 นายอาลีฟ มาแฮ เบอร์9 ร่วมลงพื้นที่ จ.ปัตตานี จุดแรกที่มัสยิดกลางปัตตานี โดยพบปะผู้นำศาสนาและเดินตลาดหน้ามัสยิดกลางเพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชน จากนั้นได้สักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวปัตตานี เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนที่นี่ด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาส มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความงามธรรมชาติ รวมทั้งมีสินค้าเกษตรที่สำคัญ วันนี้ปัตตานีและจังหวัดชายแดนใต้พร้อมแล้ว ที่จะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยว อีกทั้งยังมีอาหารฮาลาลที่ขึ้นชื่อมากมาย พรรคทสท.พร้อมผลักดัน3จังหวัดชายแดนใต้ โดยให้เป็นครัวฮาลาลของโลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว วัฒนธรรม โดยพรรคเห็นว่าเป็นพื้นที่แห่งศักยภาพที่จะสามารถดึงดูดชาวมุสลิมทั่วโลกมาเยือนและสร้างรายได้ให้ประเทศไทยและประชาชนได้มหาศาล พรรคไทยสร้างไทย จะผลักดันให้ จังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อยกระดับจังหวัดเหล่านี้ สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลของโลก ส่งออกไปยังประเทศมุสลิมทั่วโลก ทั้งยังเป็นการยกระดับราคาสินค้าเกษตร
ต้องผลักดันใช้เศรษฐกิจนำความไม่สงบ
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า หาก ทสท.ได้เป็นรัฐบาล ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงปัญหาความไม่สงบจะต้องหมดไป พรรคจะพิจารณาปรับกฎอัยการศึกและพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยจะนำพรบ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรมาใช้แก้ปัญหา จะใช้การเมืองนำการทหาร และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงการสร้างแผนเมืองอัจฉริยะ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์บาดแผลโดยไม่ต้องทำการผ่าพิสูจน์และที่สำคัญขั้นตอนการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยให้มีการบันทึกภาพวีดีโอผู้ถูกควบคุมตลอดเวลา ที่สำคัญหากมีการวิสามัญฆาตกรรมจะต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง ทั้งศาล อัยการ หรือผู้สื่อข่าว ต้องสร้างแนวปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมให้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี