“เจาะสนามเลือกตั้ง” ครานี้ เปลี่ยนบรรยากาศแห่งการ สู้ศึกเลือกตั้ง 66 ขึ้นมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน อย่าง “จังหวัดขอนแก่น” ที่ถือเป็นจังหวัดใหญ่ หลายพรรคการเมืองต่างก็ต้องการคว้าเก้าอี้สส.มาครอง มาให้ได้มากที่สุดเพื่อ “จัดตั้งรัฐบาล”
ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ขอนแก่น มี 10 เขต 10 ที่นั่ง แต่มาปีนี้ขอนแก่นได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เขต เป็น 11 เขต ส่องดูแล้วมีพรรคการเมืองที่คาดว่าจะสู้กันอย่าง ดุเดือด 3 พรรค คือ “พรรคเพื่อไทย-พรรคภูมิใจไทย-พรรคพลังประชารัฐ” ปี’62 กับ 10 เขต เพื่อไทยซิวชัยคว้าไปได้ถึง “8 เขต”
ขณะที่ “พรรคก้าวไกล” หรืออนาคตใหม่เดิม ขณะนั้นคว้าไป1เขต คือเขต 1 ซึ่งเป็น “เขตเมือง โซนมหาวิทยาลัยขอนแก่น” ส่วนพลังประชารัฐได้ 1 เก้าอี้ สำหรับการเลือกตั้งรอบนี้14 พ.ค. 2566 พรรคที่คิดว่าจะขับเคี่ยวชิงปักธงกันอย่างเข้มข้น คงจะเป็น3พรรคใหญ่ดังที่กล่าวไป เหมือนเดิม
สนามเลือกตั้งทั้ง 11 เก้าอี้ในขอนแก่น โดยเฉพาะเขต 1 ประกอบไปด้วย 2 ตำบล คือ พระลับ กับ เมืองเก่า ถือได้ว่าเป็นการประลองกำลังระหว่าง 3 พรรค ที่ต้อง “ห้ำหั่น” ชิงพื้นที่ มุ่งระดมสรรพกำลังในการลงพื้นที่ “โปรโมท” นโยบายหาเสียงช่วยผู้สมัครอย่างแข็งขัน
มี “ตัวเต็ง” ลงแข่งขัน 3 คน ได้แก่ “ฐิตินันท์ แสงนาค หรือ นันนี่” เบอร์ 1 จากภูมิใจไทยแชมป์เก่า อดีตสส.พรรคอนาคตใหม่ที่ย้ายค่ายไปอยู่กับมุ้ง “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ลงป้องกันแชมป์ ชู “พูดแล้วทำ” กับนโยบาย อาทิ “พักหนี้ 3 ปี หยุดต้นปลอดดอก”, “เกษตรร่ำรวย” รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย,“รักษามะเร็งด้วยเครื่องฉายรังสี ฟรีทุกจังหวัด”, “ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ”
สิ่งที่ต้องจับตานันนี่ ภูมิใจไทยจะป้องกันแชมป์กับ “ทนายป๊อก-วีรนันท์ ฮวดศรี” เบอร์ 5ผู้สมัครหน้าใหม่ จากก้าวไกล ดีกรีทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ชูนโยบายหาเสียง “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” นโยบายพรรค “เปลี่ยนประเทศ” ได้หรือไม่เพราะต้องยอมรับว่าหลังนันนี่ย้ายซบภูมิใจไทย ยังไม่มีมวลชน ที่เป็นเขตเมือง หรือพูดง่ายๆ เขตของ “คนรุ่นใหม่” พลังหนุ่มสาวที่เป็นฐานเสียงหลักก้าวไกล
นอกจากนี้ ยังต้องขับเคี่ยวกับ “รองโด่ง -ชัชวาล พรอมรธรรม”อดีตรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทยผู้สมัครหน้าใหม่เช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้เพื่อไทยวางตัว “เสี่ยเต๋าจักริน พัฒน์ดำรงจิตร” หวังให้แก้มืออีกครั้ง ถึงขนาดติดตั้งป้ายหาเสียงไปแล้วทั่วเมืองขอนแก่น แต่เสี่ยเต๋า ขอถอนตัวกะทันหันด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นเสี่ยโด่งแทน
มาครั้งนี้กับนโยบาย แจกเงินดิจิทัลอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท ค่าแรงวันละ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการหาเสียงแบบ “ประชานิยมสุดโต่ง” ทำได้จริงหรือหรือแค่ “ขายฝัน”
อย่างไรก็ตาม เสี่ยโด่งก็น่าจะเป็นผู้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง เพราะขอนแก่นเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง และนโยบายพรรคล่อตาล่อใจสุดๆ แถมมีฐานเสียงท้องถิ่นในพื้นที่หนุนหลังอยู่ไม่น้อยด้วย
สำหรับพลังประชารัฐ ส่ง “อัษฎางค์ แสวงการ” เบอร์ 2 อดีตสว.ขอนแก่น อดีตผู้สมัครเลือกตั้ง สส.เขต 1 ขอนแก่น ปี 2553 พรรคเสรีธรรม เป็น “บิ๊กเนม” จากแวดวงการศึกษา ดีกรี ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่นบริหารธุรกิจ, คณะกรรมการสมาชิกคุรุสภา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จ.ขอนแก่น
มาด้วยสโลแกน “มุ่งมั่น จริงใจ รับใช้ประชาชน” กับนโยบาย “สวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ” ตามสโลแกนพรรค “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” เน้นแก้ความยากจนลดเหลื่อมล้ำ
“สมรภูมิขอนแก่น” ในพื้นที่เขต 1 นี้ เมื่อย้อนนับไปตั้งแต่ปี 2554 พรรคเพื่อไทย ยังคงครองเก้าอี้ได้มากสุด แม้ว่าบางสมัยจะ “เสียเก้าอี้” ไปบ้างก็ตาม ที่ต้องจับตาคือศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ที่ส่งว่าที่ผู้สมัครสส. “หน้าใหม่” ลงชิงเก้าอี้ จะสามารถยึดคืนที่นั่งสานฝัน “แลนด์สไลด์” ได้หรือไม่ ต้องจับตาหลัง 14 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี