เจาะศึกเลือกตั้งนราธิวาส!‘สงครามสัประยุทธ์’ ช่วงชิงเป็น‘บ้านใหญ่’ของเหล่าพรรคการเมือง กูรูฟันธง‘ดุเดือดเลือดพล่าน’ที่สุดใน‘3จังหวัดชายแดนใต้’

“เจาะสนามเลือกตั้ง” วันนี้ยังคงท่องอยู่ในยุทธจักร “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ดินแดนสุดปลายด้ามขวานของไทย อย่าง...

จังหวัดนราธิวาส!!!

อีกหนึ่ง “สนามเลือกตั้ง” ที่ต้องติดตามดูการ “สัประยุทธ์” กันระหว่าง “พรรคการเมืองใหญ่” ที่แห่แหนส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแบบให้ “ความสำคัญ” ทั้งที่มีแค่ 5 เขตเลือกตั้ง แต่กลับพบว่าในการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ทุกพรรคต่าง “ทุ่มเท” สรรพกำลังกันแบบ...

แพ้ไม่ได้!!!

จะเห็นว่าในพื้นที่ “ลุ่มน้ำบางนรา” หรือ “นราธิวาส” แห่งนี้ “2ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์” ต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แห่ง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่าง “ย่างเท้า” ลงไป ”ตรวจราชการ” พร้อม “เปิดตัว” ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ โดยหมายมั่นปั้นมือที่จะ “ปักธง” ส.ส.ในนราธิวาสให้เป็นผลสำเร็จ

เริ่มที่ “รวมไทยสร้างชาติ” ได้ “บ้านใหญ่” อย่าง “กูเซ็ง ยาวอหะซัน” นายก อบจ.นราธิวาส มาเป็น “หัวหอก” ในการเดินเกมทางการเมืองชายแดนใต้ครั้งนี้ โดยส่ง “วัชระ ยาวอหะซัน” ที่ย้ายจาก “ลุงป้อม” พลังประชารัฐ มาซบ “ลุงตู่” รวมไทยสร้างชาติ ลงเขต 1 

ถือเป็นการ “ตกปลาในบ่อพี่” ที่น่าจะสร้างความ “ขุ่นเคือง” ให้กับ “ลุงป้อม” ไม่มากก็น้อย สังเกตได้จากที่ พล.อ.ประวิตร หลังเสีย “ปลาตัวอ้วน” ในบ่อไป ก็เปิดเกมรุกสู้ ให้ “บีลา สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ” เป็นแกนนำจัดทัพใหม่ด้วยการส่ง “อนุมัติ อาหมัด” อดีต ส.ว.สงขลา “สายตรง” บิ๊กป้อม ลงไปช่วย “บีลา” เฟ้นหาผู้สมัคร และจัดเต็มได้ผู้สมัครครบทั้ง 5 เขต โดยมี “บีลา” กับ “น้องชาย” เป็น “2 ตัวเต็ง” หวัง “กู้หน้า” กลับมาล้ม “บ้านใหญ่ยาวอหะซัน” ให้ได้สำเร็จ

เพราะดูการ “จัดทัพ” ของ “ลุงตู่ รวมไทยสร้างชาติ” แล้ว นอกจาก “วัชระ ยาวอหะซัน” อีก 4 เขตที่เหลือที่ส่งผู้สมัครนั้น “ชื่อชั้น” ยังไม่เท่าไร แถมยังเว้นว่างเขต3 ไว้ให้ “กูเฮง ยาวอหะซัน” จาก “พรรคประชาชาติ” เอาไว้

เพราะทาง “กูเซ็ง ยาวอหะซัน” ผู้เป็นบิดา ที่สังกัดรวมไทยสร้างชาติ ต้องการให้ “ลูกชาย” ทั้ง 2 คน คือ กูเฮง กับ วัชระ ยาวอหะซัน ได้เป็น ส.ส. แต่ “อยู่คนละพรรค” เพราะ “กูเซ็ง” ยังต้องคงไว้ซึ่ง “ไมตรี” กับ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ นั่นเอง

ในขณะที่ “ประชาชาติ” ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ได้ ส.ส.ในนราธิวาส มา 2 เขต คือ “กูเฮง” ที่เป็นทายาทบ้านใหญ่แห่งลุ่มน้ำบางนรา เป็น ส.ส.เขต 3  และ “กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ” หรือ ”ทนายแวยูแฮ” เป็นส.ส.เขต 4

ส่วนอีก 2 เขต เป็นของ “พลังประชารัฐ” ซึ่งในการเลือกตั้งรอบนี้ ประชาชาติ “คิดใหญ่” ส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขต ได้แก่ เขต 1 นายอัฟฟาน หะยียูโซ๊ะ เขต 2 นายเจ๊ะซู ตาเหย็บ เขต 3 นายกูเฮง ยาวอหะซัน เขต 4 นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ และ เขต 5 นายมูหามะรอมือลี อาแซ

“ประชาชาติ” ที่ทำงานการเมืองในพื้นที่มาตลอด 4 ปีของการเป็นฝ่ายค้าน แต่ “ช่ำชอง” ในพื้นที่ชายแดนใต้ ต้องการ “ที่นั่ง” ในนราธิวาสเพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุดอีก 1 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเขตที่เพิ่มขึ้นมา

มากันที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ยุค “ผลัดใบ” ทาง “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ได้คัดเลือกผู้สมัคร “หน้าใหม่” ตั้งแต่เขต 1 ถึงเขต 4 ส่วนเขต 5 ให้ “เจะอามิง โตะตาหยง” อดีต ส.ส.เก่าในปี 2562 ที่ทิ้ง “ประชาธิปัตย์” ไปซบอกพรรคของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” และกลายเป็น ส.ส.สอบตก แต่มาครั้งนี้ เจะอามิง ขออาสาลงสู้กับ “คู่แข่ง” จากพรรคต่างๆในเขต 5 เพื่อขอกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง

สำหรับเขต 1 ประชาธิปัตย์ ส่ง “วสันต์ ดือเร๊ะ” เขต 2 ส่ง “เมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน” เขต 3 ส่ง “สุลัยมาน มะโซ๊ะ” เขต 4 ส่ง “ไวดี เจ๊ะหามะ” และเขต 5 ส่ง เจะอามิง 

ใน “5ที่นั่ง” ของ จ.นราธิวาส “ประชาธิปัตย์” มีความฝัน ความหวังว่าจะได้ ส.ส.กลับคืนมา “ประดับพรรค” อย่างน้อยที่สุด “2 ที่นั่ง” และอาจจะ “บวก 1” นั่นคือ “เมธี ลาบานูน” ที่เป็นศิลปินที่ชื่นชอบในเรื่องการเมือง และทำกิจกรรมกับในพื้นที่มาตลอด ส่วน เจะอามิง ก็ยังเชื่อใน “ชื่อชั้น-ประสบการณ์”

“พรรคภูมิใจไทย” ครั้งนี้ “เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศ “สู้ไม่ถอย” ไม่สนใจกับการถูกพรรคคู่แข่งนำเรื่อง “กัญชาเสรี” มา “โจมตี” ว่าผิด “หลักศาสนา”

เพราะในการเลือกตั้งครั้งนี้ภูมิใจไทยได้ “นัจมุดดิน อูมา” อดีตขุนศึกของพรรคประชาชาติ ที่อำลาจาก “อาจารย์วันนอร์ ” กันด้วยดี ด้วยเข้าใจในเส้นทางการเมือง แปรมาสวมเสื้อภูมิใจไทย เป็น “แม่ทัพ” รับผิดชอบการเลือกตั้งในพื้นที่นราธิวาส

ด้วยความ “ช่ำชอง” มียุทธศาสตร์ที่ “พลิกแพลง” ไปตามสถานการณ์ของ “นัจมุดดิน” ทำให้ เสี่ยหนู อนุทิน และ “พิพัฒน์-นาที รัชกิจประการ” 2 แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทย ต่างมีหวังว่าฝีมือของนัจมุดดิน และ “สิรภพ ดวงสอดศรี” ผู้อำนวยการพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วยกัน ว่าจะ “ปักธง” ได้ไม่น้อยกว่า 2 ที่นั่ง  

ครั้งนี้ ภูมิใจไทย ส่งครบ5เขต  เขต 1 ส่ง “ลุตฟี หะยีอีแต” นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบาเจาะ เขต 2 ส่ง “ราชวัตร เดินตุลาการ” ผอ.การศึกษาเอกชน เขต 3 ส่ง “น.ท.สกรี ศริริกานนท์ “ อดีต เจ้าหน้าที่ นพค 41 จ.นราธิวาส เขต 4 ส่ง “ซาการีนา สะอิ” อาจารย์มหาวิทยาลัยในพื้นที่ และเขต 5 ส่ง “สุกรี มะเต๊ะ” ผช.เลขานุการ รมช.มหาดไทย

ก่อนหน้าที่จะ “ยุบสภา” เพื่อเข้าสู่ “โหมดเลือกตั้ง” มีหลายพรรคการเมือง ทั้ง “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์-ประชาชาติ” ต่างเข้าไปพบปะ แถลงนโยบายของพรรค กับ “ชมรมต้มยำกุ้ง” ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

เพราะ “ชมรมต้มยำกุ้ง” คือที่รวมตัวของ “คนมุสลิม” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้าไปทำร้านอาหาร หรือ “ร้านต้มยำกุ้ง” ที่ประมาณกันว่าทั้งเป็น “เจ้าของกิจการ” และเป็น “ลูกจ้าง” ที่รวมตัวอยู่ในชมรมฯ ทุกรัฐของ “มาเลเซีย” มีไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ซึ่งหากพรรคการเมืองใดสามารถ “โน้มน้าว” ให้คนกลุ่มนี้สนับสนุนผู้สมัครและ พรรคการเมือง ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลาได้ ก็จะคว้าคะแนนเป็นกอบเป็นกำ

โดยเฉพาะ 2 แสนคนในชมรมต้มยำกุ้ง มีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี มากที่สุด และ “คะแนน” ตรงนี้คือ “ตัวแปร” สำหรับผู้สมัครและพรรคการเมือง ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้ง “กระแส” ของพรรคการเมืองอย่าง “พลังประชารัฐ” และ “ภูมิใจไทย” ที่ต้องการ “ล้มบ้านใหญ่ยาวอหะซัน” ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ 2ป. “ประยุทธ์-ประวิตร” จึงให้ความสำคัญกับสมรภูมิเลือกตั้งนราธิวาส เพราะเห็นโอกาสที่จะปักธง ณ ดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้

แต่ ส.ส.ของนราธิวาส มีเพียง 5 เขต และ 4 ที่นั่งยังมี “แชมป์เดิม” เป็น “ของแข็ง” เขี้ยวลากดินในพื้นที่ เข็มแข็ง ไม่ว่าจะเป็น “สองพี่น้อง” แห่งบ้านใหญ่ยาวอหะซัน “วัชระ ยาวอหะซัน” ที่ย้ายจากพลังประชารัฐมายังรวมไทยสร้างชาติ

“กูเฮง ยาวอหะซัน” กับ “กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ” แห่ง “ประชาชาติ” ที่ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” แม้จะเป็น “หัวหน้าพรรคเล็ก” แต่เป็น “พรรคใหญ่” ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่ใช่ “ตะเกียงขาดน้ำมัน” และ “สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ” ผู้ที่ยังภักดีต่อ “ลุงป้อม” และต้องการที่จะเป็น “บ้านใหญ่” ของ “ลุ่มน้ำบางนรา” จึงไม่ง่ายสำหรับ “ประชาธิปัตย์” และ “ภูมิใจไทย” ในการ “ตีป้อมค่าย” ให้แตกพ่าย 

แต่ในขณะเดียวกันทั้ง “ประชาชาติ” และบ้านใหญ่ “ยาวอหะซัน” ก็ไม่ง่ายในการรักษาป้อมค่ายไม่ให้ถูก “ตีแตก”

สนามเลือกตั้งนราธิวาส  ดินแดนปลายด้ามขวาน จึงเป็น “สนามสัประยุทธ์” ในสนามของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่…

“ดุเดือดเลือดพล่าน” ที่สุด!!!