‘เรืองไกร’ส่งหลักฐานเพิ่มให้‘กกต.’
ฟัน‘พิธา’พ้นหน.พรรค
ปมถือหุ้นไอทีวีขัดข้อบังคับก้าวไกล
‘ปิยบุตร’เตือนเลิกใช้มุขเดิมเตะสกัด
ระวังเจอมวลชนลุกต่อต้านทั่วปท.
ปลุกปชช.กาบัตรเกิน10ล้านเสียง
“เรืองไกร” หอบข้อบังคับพรรคก้าวไกลยื่นร้องกกต.สอบเพิ่มปม“พิธา” ถือหุ้นไอทีวี ส่อขัดข้อบังคับพรรค ขาดคุณสมบัตินั่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ รวมถึงจะกระทบการรับรองส่งผู้สมัคร 400 เขต เป็นโมฆะด้วยหรือไม่ ด้าน “ปิยบุตร” ซัดมุขเดิม เป็นนิติสงคราม ปลุกมวลชนคนหนุนก้าวไกลอย่ากลัวช่วยกันเลือกก้าวไกลให้ได้มากกว่า10ล้านเสียง
เมื่อวันที่ 11พฤษภาคม มีความเคลื่อนไหวหลังนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล พร้อมเปิดเผยว่า ได้นำข้อบังคับของพรรคก้าวไกลมายื่นเพิ่มเติม และจับประเด็นว่านายพิธาจะพ้นจากสมาชิก และหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการแก้ไขลงในราชกิจจานุเบกษา ปี 2563 ข้อบังคับพรรคในข้อ 12,21,37 ซึ่งในข้อ 12 ระบุว่าสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ดังนั้น เมื่อระบุเช่นนี้ มาตรา 98 (3) ก็จะทำให้พ้นสมาชิกหรือไม่ และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งหัวหน้าพรรคต้องขาดจากความเป็นหัวหน้าพรรคโดยสิ้นสุดเฉพาะตัว รวมถึงกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36
นายเรืองไกรยังตั้งข้อสังเกตให้กกต. ตรวจสอบกรณีที่ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายว่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ส. รวมถึงเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าพรรคไม่ได้ ซึ่งผลที่ตามมาในการสมัครเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3-7 เมษายน นายพิธาลงนามรับรองการสมัครส.ส. เกือบ 400 เขตและส.ส. บัญชีรายชื่อ จึงขอให้กกต. ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการยื่นบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครส.ส. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้กกต. ดำเนินกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้านายพิธาผิดจริง และได้ไปเซ็นรับรองการสมัครส.ส. ของพรรค การสมัครจะเป็นโมฆะใช่หรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ให้กกต.ตรวจสอบว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องถอดสมการว่าการเป็นหัวหน้าพรรคพ้นไปหรือไม่ เพราะในข้อบังคับเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน แล้วนายพิธาก็ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า รู้เรื่องนี้มานานแล้ว พรรคเคยมาปรึกษาตน แต่ไม่ได้ยกประเด็นนี้มาปรึกษา ถึงอย่างไรได้ให้ความรู้เรื่องกฎหมายไป ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง
ในเรื่องนี้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวว่า เบื้องต้นนายพิธายื่นเรื่องการถือหุ้นไอทีวี มาแล้ว 40,000 กว่าหุ้น ไม่แน่ใจว่า ยื่นเพิ่มเติม หรือเข้ารับตำแหน่งส.ส.ซึ่งยื่นเพิ่มเติมได้ นายพิธาคงเข้าใจว่า ไม่ใช่หุ้นของตัวเอง แต่ตัวนายพิธาเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าเขามีก็ยื่นเพิ่มเติมได้ ก็ถูกต้อง เราก็ตรวจสอบความมีอยู่จริง ส่วนกรณีถือครองหุ้นแล้ว จะขาดคุณสมบัติไหม เป็นหน้าที่ กกต.ต้องวินิจฉัย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีความเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม โพสต์เนื้อหาเรื่อง “การเมืองแห่งความหวังจะชนะความกลัว! ‘ปิยบุตร’ เตือนนักร้องงัดมุกเก่าหวังทำลายก้าวไกล เล่นพิเรนทร์แบบเดิม ระวังจะเจอพลังมวลชนของจริง ปลุกประชาชนสู้กลับด้วยความหวัง เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายทะลุ 10 ล้านเสียง โดยนายปิยบุตร ซึ่งเป็นผู้นำคาราวานสายอีสานมิตรภาพ จัดเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงในจ.สระบุรี ได้กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า กระแสพรรคก้าวไกลขึ้นสูงมาก คาราวานก้าวไกลทั้ง 5 สายตั้งแต่เหนือจดใต้ ประชาชนต้อนรับดีมาก เมื่อกระแสขึ้นสูงแบบนี้ เราต้องคิดใหญ่ฝันใหญ่ ไม่คิดแค่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องมี ส.ส. มากเป็นอันดับ 1 เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อกระแสสูงนักร้องเรียนจึงขยันทำงาน เป็นมุกเดิมที่ 4 ปีที่แล้วก็ทำ ตอนนี้ก็ทำซ้ำอีก เปิดไพ่ประเภทตัดสิทธิ ยุบพรรค หรือให้เราพ้นตำแหน่ง
นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า นี่คือนิติสงคราม ทำลายเราโดยใช้กฎหมาย ดังนั้น วิธีต่อสู้ของเราคือต้องยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ต่อ ไม่กลัวไม่เกรงไม่ถอย เพราะถ้าหยุด ถ้าหงอ ถ้าหมอบ แสดงว่าอาวุธของพวกเขาใช้สำเร็จ แต่ถ้าพวกเขาทำแล้วเราไม่ตาย เรากลับมามีชีวิตใหม่ แถมไปไกลกว่าเดิม มีคนสนับสนุนมากกว่าเดิม แบบนี้เรียกกระสุนด้าน
“ไม่ต้องกังวล จะร้องอีกกี่คดี จะฉายหนังม้วนเก่าอีกกี่รอบ เราต้องสู้ด้วยพลังของประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ให้รู้ไป ว่าถ้าเล่นพิเรนทร์แบบเดิม คุณจะเห็นพลังอันไพศาลของมวลชนพรรคก้าวไกลทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจดใต้ เจอของจริงแน่นอน” นายปิยบุตรประกาศ
และว่า นี่คือการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่มคนที่จะอยู่กับอดีต กับกลุ่มที่หวังอยากเห็นอนาคตใหม่ ประเทศนี้จะดีกว่านี้ได้ หวังว่าจะไม่มีรัฐประหารอีกต่อไป หวังว่าจะสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่เกิดจนตาย จึงขอให้เลือกส.ส.ก้าวไกลเข้าไปให้มากที่สุด ให้คะแนนทั่วประเทศมากกว่า 10ล้านเสียง เป็นเกราะคุ้มกันจากนักร้องและจากนิติสงครามและถ้ารักพรรคก้าวไกล ก็เลือกพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี