เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีเมื่อ 22 พ.ค.66 ได้ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กระทำการชี้นำพรรคก้าวไกล เข้าข่ายขัดมาตรา 28 และมาตรา 29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560
โดย นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นายปิยบุตรได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร ตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด พร้อมอธิบายเหตุผลมากมาย ซึ่งต่อมาว่าที่ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลต่างออกมาให้สัมภาษณ์และหรือโพสต์ข้อความแสดงความเห็นเพื่อยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ลงในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย อาทิ นายรังสิมันต์ โรม , น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล , นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
"การที่ว่าที่ ส.ส.คนใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของ ส.ส.ทั้ง 500 คน ที่ประชาชนเลือกตั้งเข้าไป ไปเลือกกันเองว่าท่านใดจะมีความเหมาะสม เพราะทุกคนน่าจะมีวิจารณญานตัดสินใจได้เอง ไม่จำต้องมีใครมาชี้นำ แต่นายปิยบุตรโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ลักษณะดังกล่าว ทำให้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากพยายามชี้นำความคิดและการกระทำของเหล่าว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ให้ต้องช่วยกันผลักดันหรือกดดันให้พรรคร่วมต่างๆ ยินยอมให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น"
นอกจากนี้ วันที่ 25 พ.ค.66 น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยังได้ออกมาโพสต์สำทับถึงข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า “ก้าวไกลต้องการเป็น #ประธานสภา เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้าในสังคม” อีกด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล กลับมีพฤติการณ์หรือกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกับการชี้นำของบุคคลทั้งสอง จึงต้องนำพยานหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมให้ กกต.เพื่อนำไปตรวจสอบ และวินิจฉัยประกอบคำร้องเดิมที่เคยชี้เบาะแสไว้แล้ว หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปที่ร้อง ก็สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92(3) ได้
- 006