"สมชาย" แฉตอนนี้ส.ว.โดนล่าแม่มดจากคนบางกลุ่มแชร์ทั้งทะเบียนรถ-บ้านเลขที่ทั้ง"ขู่-เคลม-เคลียร์"ผ่านทางโซเซียล บางรายถูกบุกไปล้อมถึงบ้านบังคับให้เลือกนายกฯ ขณะที่บางคนไปล้อมถึงในรพ. ขนาดออกไปวิ่งไปซื้อของยังโดนกดดัน ซัดแบบนี้เรียกว่าโจราธิปไตยหรือไม่ เผยสถานการณ์ล่าสุดมีส.ว.ลงชื่อหนุนพิธาแค่ 6 คน ส่วนกลุ่มเสียงข้างมากมีประมาณ 10 คน ไม่ถึง 20 เสียงเหมือนที่เคลม

30 พ.ค.66 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ทาง FM 105 ผ่านรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองไทย เมื่อวันที่  29 พ.ค.ที่ผ่านมาถึงสถานการณ์ทางการเมืองตอนหนึ่งว่า  ตนได้สำรวจแล้วว่า ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวใต้น้ำ ที่ผมเรียกว่าการ "ขู่-เคลม-เคลียร์ "เป็นการกระทำเหมือนที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โดน นั่นคือ การแชร์ทะเบียนบ้าน ทะเบียนรถ เพื่อเป็นการส่งต่อและตามล่าแม่มด และคนกลุ่มนั้นใช้คำว่า ไปตามล่า ส.ว.กันดีกว่า ถูกขู่ไปทุกคน แม้แต่ ส.ว.ที่อยู่ต่างจังหวัดก็โดน ขู่ทั้งในโซเชียล และการขู่ว่าจะไปเผาโรงสี ขู่ถึง ลูก-หลาน ก็ยังมี

นายสมชาย กล่าวว่า มี สว.บางคนเล่าให้ฟังว่า บ้านอยู่ตามทุ่งนาเพราะท่านมาจากปราชญ์ชาวบ้าน อยู่สองคนกับภรรยาแล้วก็มีแม่บ้าน ลูกไปเรียนต่างจังหวัดหมด ปรากฏว่า ถูกไปล้อมบ้าน ตนจะแฉกันตรงๆ เลย แล้วไปขู่บังคับว่าจะเลือกมั้ย ทำให้ ส.ว.คนนั้น ตอบกลุ่มคนที่มาล้อมเพียงว่า ไม่มาตามประชาธิปไตย ผมเลือกเสียงข้างมากแน่นอน ปรากฏว่า ในโซเชียลมีการโพสต์เลยว่า ส.ว.คนนั้นเลือกพิธาเป็นนายก

"ส.ว.ท่านนั้นก็ต้องมายืนยันว่า ผมไม่เคยพูดเลยว่า เลือกพิธาเป็นนายก ก่อนระบุต่อว่า ถ้าวันหนึ่งจะมีแข่งระหว่างคุณพิธากับคุณอุ๊งอิ๊งหรือใครก็ตาม เขาก็จะเลือกตามเสียงข้างมาก”นายสมชาย ระบุ

และว่า นอกจากนี้ ส.ว.บางคน ถูกล้อมในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะออกไปเดิน ไปวิ่ง ซื้อของ ถูกชาวบ้านไปล้อมหมด และไปขู่เขาท่ามกลางวงล้อม สุดท้ายยังบังคับ เขียนชื่อเลือกพิธาเป็นนายก วันรุ่งขึ้นเอาคนไปล้อม ใช้วิธีเอาดอกไม้ไปมอบให้ที่โรงพยาบาล แล้วก็ไปบอกว่า นี่คือคนดีของจังหวัด นี่คือ ส.ว.ประชาธิปไตย ซึ่ง ส.ว.ท่านนั้นบอกว่า ถ้าไม่ทำก็อยู่ไม่รอด ต้องเอาตัวรอด การใช้อำนาจไปข่มขู่คนอื่นแบบนี้ รู้สึกเป็นเผด็จการไหม อาจต้องเรียกใหม่ว่า เผด็จการธิปไตย หรือ โจราธิปไตย หรือไม่ก็ อนาธิปไตย

"นี่คือตัวอย่างที่ ส.ว.สองท่านนี้โดน มี ส.ว.หลายคนโทรมาเล่าให้ผมเยอะเต็มไปหมด แล้วก็มีขบวนการที่ให้นักข่าว ซึ่งไม่ทราบว่านักข่าวจริงหรือปลอมโทรกดดัน โทรมาเป็นร้อยสาย พร้อมกับส่งทีมเจรจามาขอพบ ทั้งรองหัวหน้า เลขา จนตนต้องประกาศว่า อย่ามาเจรจากับผมเสียเวลา มีคนเสนอให้ผมเป็นหัวหน้าชุดเล็กเจรจา ผมบอกว่าไม่ใช่หัวหน้าชุดเล็กของใคร ผมเจรจาแทนใครไม่ได้ แต่ผมขอแค่คนที่จะเป็นนายกฯ ต้องซื่อสัตย์สุจริต มีวิสัยทัศน์ สร้างแรงบันดาลใจ รอบรู้  และต้องทำให้บ้านเมืองสงบสุข ผมชัดเจนว่าเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตรา 112 หมวด 1 หมวด 2 อย่าไปยุ่งกับพระราชลชอำนาจได้หรือไม่ เพราะคนไทยเขาจงรักภักดี ขอแค่นี้ก็ไม่ทำ แต่กลับไปทำเอ็มโอยู"ลับ-ลวง-พราง" ซึ่งก็เหมือนกับคำปรารถ ไม่มีผลบังคับอะไรเลย ฉะนั้นตอนนี้มีส.ว.ที่ไปลงชื่อสนับสนุนมีแค่ 6 คน ที่เหลือกลุ่มสอง เป็นเสียงข้างมากมีประมาณ 10 คน ไม่ถึง 20 คนอย่างที่เคลมกัน"นายสมชายระบุ