‘เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’

พท.หวานเจี๊ยบ

‘ชลน่าน’ให้คำมั่นไม่ทิ้งพิธา

8 พรรคตั้งกก.เปลี่ยนผ่าน

ผุด7คณะลุยแก้ปัญหาปชช.

‘พิธา’ย้ำจับมือกันแน่นปึ้ก

‘บิ๊กตู่’ซัดก.ก.ล้วงลูกขรก.

8 พรรคร่วมรัฐบาลเคาะตั้งคกก.ประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล 1 คณะใหญ่-ตั้ง 7 คณะทำงานแก้ปัญหาปชช. นัดถกใหม่ 6 มิถุนายนนี้ “พิธา”ยันจับมือสามัคคีปึ้ก แจงปม  “เก้าอี้ปธ.สภาฯ” เรื่องระหว่าง “ก้าวไกล-เพื่อไทย” คาดรู้เรื่องหลัง “กกต.” ประกาศรับรองสส. ลั่นไม่เคยละลาบละล้วง ระบบราชการอ้างเขาเชิญพรรคการเมืองเอง “ชลน่าน”ยันไร้ปัญหาเอาตาม

“ว่าที่นายกฯคนที่30’ ‘วันนอร์’ ขออย่าผลักปชช.ทิ้งทำผิดหวัง

ขณะที่‘เสรีพิศุทธ์’ประกาศหนุน‘ชลน่าน’เหมาะสมนั่ง‘ประธานสภาฯ’เป็นส.ส.7สมัย ยังไม่ฟังธง‘พิธา’รอดปมถือหุ้นไอทีวีหรือไม่ ‘ประชาชาติ’หนุน‘ก้าวไกล’ตั้งรบ.มั่นใจดีลปธ.สภาฯ สองพรรค ตกลงกันได้ด้าน‘บิ๊กตู่’เผยนักลงทุนกังวลโฉมหน้ารัฐบาล เมินดีลลับงดฟัง-งดดูโซเชียลเตือน‘ก้าวไกล’ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ควรเรียกหน่วยราชการมาให้ข้อมูล

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ทำการพรรคประชาชาติ(ปช.)ได้มีการนัดประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล นำโดย พรรคก้างไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่เพื่อพูดคุยแนวทางและแผนงานการทำงานร่วมกันหลังการลงนามเอ็มโอยูว่าจะมีแนวทางในการลงรายละเอียดของเอ็มโอยูอย่างไรให้เป็นรูปธรรม รวมถึงการจัดตั้งทีมเปลี่ยนผ่านรัฐบาลว่าจะมีใครเป็นผู้รับผิดชอบ

โดยการประชุมหารือ 8 พรรคร่วม จะจัดขึ้นที่พรรคประชาชาติ เวลา 14.30 น.เพื่อเป็นการให้เกียรตินายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นผู้มีอาวุโสสุด โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

‘พิธา’ยันถก8พรรคไม่คุยเก้าอี้ปธ.สภาฯ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่าวันนี้ตั้งใจมาร่วมประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านเพื่อต้องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยคิดว่ามีคำถามที่ประชาชนต้องการคำตอบหลายเรื่อง อาทิ เรื่องภัยแล้ง เรื่องอุทกภัย เรื่องเรือดำน้ำ และเรื่องการประชุมสหประชาชาติครั้งแรกในรัฐบาลชุดใหม่ อยากหารือเรื่องกระบวนการการทำงานจึงอยากนัดประชุมทุก 1-2สัปดาห์โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง เมื่อถามว่าวาระที่จะประชุมวันนี้จะมีการหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาหรือไม่นายพิธา ยืนยันว่าไม่มี

ลั่นไม่ได้ละลาบละล้วงระบบราชการ

เมื่อถามต่อว่าการตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจะเป็นการละลาบละล้วงข้าราชการปัจจุบันที่ทำงานให้รัฐบาลรักษาการณ์หรือไม่ นายพิธากล่าวย้ำว่าไม่มีการละลาบละล้วงคณะทำงาน จะเป็นผู้พูดคุยกับข้าราชการ แต่หากข้าราชการอยากพูดคุยกับพรรคการเมืองก็เป็นสิทธิของเขา พร้อมย้ำด้วยว่า เราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ

นายพิธายังกล่าวอีกว่าในการเดินสายพูดคุยหน่วยงานราชการเพราะเป็นคนเชิญเราเอง คาดว่าเป็นการเชิญในฐานะพรรคการเมืองที่อาจมีความกังวลใจอยู่หลายเรื่องที่ค้างวาระในคณะรัฐมนตรีเดิมที่ต้องผลักดัน แต่การพบแต่ละครั้งไม่ได้เข้าไปสั่งซึ่งวันนี้จะย้ำในที่ประชุมถึงแนวทางการทำงานเรื่องนี้ให้ระวังมากขึ้นด้วย โดยจะบอกปฏิบัติตามหลักการทำงานสากลว่าสามารถทำได้แค่ไหนอย่างไร เพื่อทำให้ประชาชนมีความหวังและให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด

‘ชลน่าน’ย้ำเก้าอี้ปธ.สภาคุยเฉพาะ‘พท.-ก.ก.’

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวก่อนประชุม8พรรคร่วมรัฐบาลถึงกรอบวาระการประชุมว่าเท่าที่ดูจากที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลได้มอบให้8พรรคมี 4 วาระซึ่งในการประชุมไม่ได้กำหนดระเบียบวาระเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯไว้แต่มีวาระที่4คือวาระอื่นๆถ้าเพื่อนสมาชิก หรือพรรคร่วมคนอื่นๆมีความประสงค์ที่จะเสนอ จนนำเป็นข้อเสนอเพื่อนำขึ้นมาพิจารณาได้ ในที่ประชุมก็จะมีกระบวนการในการพิจารณาหรือไม่อย่างไร

“เพราะข้อเสนอที่พรรค พท.ส่งไป ที่ส่งไปให้ทางคณะกรรมการที่จะพูดคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างพรรค พท.และพรรคก้าวไกล ที่คงจะต้องมีการพูดคุยกันเป็นเรื่องเฉพาะไป ทั้งนี้ การพูดคุยถึงลักษณะการทำงานร่วมกัน คงไม่มีข้อสรุปในการพูดคุยแค่ครั้งเดียว เราต้องหาข้อสรุปที่ดี และเหมาะสมที่สุดในการทำงานร่วมกัน”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำ

ระบุถก8พรรคไร้แบ่งเค้กโควตารมต.

เมื่อถามว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องการแบ่งโควตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เพราะเป็นไปตามวาระการประชุม โดยการพูดคุยการทำงานในลักษณะของบุคคลน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราวางแนวทางในการปรึกษาหารือเรื่องการจัดทำนโยบายร่วมกันแล้ว เมื่อได้ภารกิจแล้วคงจะต้องมีการมาปรึกษาหารือกันอีกครั้ง

‘ทวี’คุย8พรรคเปลี่ยนผ่านตั้งรบ.ใหม่

ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่าจะคุยการเปลี่ยนผ่านไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะประชาชนกว่า 72% เลือกให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ วาระการประชุมวันนี้คงจะมาคุยเรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลใหม่ ในการประชุมพรรคก้าวไกลมาใช้สถานที่พรรคประชาชาตินำเอ็มโอยู23ข้อมาลงรายละเอียดว่าทำอย่างไรจะแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพราะใน 23 ข้อ เอาเป็นหัวข้อสำคัญที่พรรคการเมืองไปหาเสียง ส่วนเรื่องอื่นๆ อยู่ที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะนำเสนอ

มั่นใจดีลปธ.สภาฯตกลงกันได้

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าเชื่อว่าพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย จะมาคุยกัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ ถ้าทั้ง 2 พรรคตกลงกันได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ในการเลือกประธานสภาฯและนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและจริยธรรมไม่มีเรื่องอายุมากหรือน้อย ทั้งนี้ส่วนการเลือกประธานสภาฯปกติพรรคอันดับ1เป็นประธาน พรรคอันดับ2และ3 เป็นรองประธาน

หนุนก.ก.ตั้งีบ.ไม่‘ส้มหล่น’ถึงลุงตู่”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังรอ“ส้มหล่น”พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าประชาชนไม่ได้อยู่รับใช้รัฐบาล รัฐบาลต้องรับใช้ประชาชน ไม่มีส้มหล่นแต่พรรคส้มควรเป็นรัฐบาล

ส่วนสิ่งที่พรรคประชาชาติอยากจะทำเป็นอันดับแรกเมื่อเป็นรัฐบาลนั้นพ.ต.อ.ทวีเห็นว่าเราต้องแก้ปัญหาของประชาชน ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน การเอารัดเอาเปรียบ ปัญหาภาคใต้ เราต้องแก้ปัญหา พบว่ามีความเหลื่อมล้ำ ที่รัฐบาลสร้างรัฐรวมศูนย์เพราะไม่ไว้ในหน่วยงานในพื้นที่ ไม่ไว้ในหน่วยงานราชการ การศึกษามีปัญหา การศึกษาชาตินิยมเกินไป การสัมปทานผูกขาดและปัญหายาเสพติด จึงเห็นว่าจะต้องทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

‘เสรีพิศุทธ์’หนุน‘ชลน่าน’เหมาะนั่งปธ.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความเหมาะสมของตำแหน่งประธานสภาว่าหากดูชื่อตอนนี้ของพรรคก้าวไกล มีชื่อนายณัฐวุุฒิ บัวประทุม กับ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส่วนพรรคเพื่อไทย เป็นชื่อนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้ง2ฝ่าย ต้องตกลงกัน แต่ในข้อเท็จจริงประธานสภาฯจะอายุน้อย หรือมากไม่สำคัญ แต่ต้องมีประสบการณ์ ถ้าคนไม่มีประสบการณ์เป็นไม่ได้ หากเป็นส.ส.มาแค่สมัยเดียวคงลำบาก ส่วนตัวจึงมองว่านพ.ชลน่าน เหมาะสม เพราะเป็น ส.ส.มา 7 สมัยแล้ว

“เจ้าหน้าที่สภาฯเค้าอยากให้ผมเป็นประธานสภาฯนะบอกจะได้จัดการ ส.ส.ได้เพราะผมมีความเด็ดขาด ผมบอกผมเป็นไม่ได้ ผมเป็นแค่สมัยเดียวเองประสบการณ์ยังไม่พอ ยังไม่เก๋าพอ นี้ก็มาเทียบ 3 คนนี้ ส.ส.ใหม่ของก้าวไกล หมอชลน่าน เป็น ส.ส.มา 7 สมัยแล้ว เคยเป็นรัฐมนตรีแล้ว เคยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน อันไหนเก๋ากว่ากัน มันก็ที่จะคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์จริงๆ ไม่ใช่ใครก็ได้ ไม่งั้นก็เชิญใครมาก็ได้ถูกมะ ผมยังถอยเลย ผมยังไม่ยอมเป็นเลย”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำ

ไม่ฟังธง‘พิธา’รอดหรือไม่ปมหุ้นไอทีวี

ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลถูกยื่นร้องเรื่องถือหุ้นสื่ออยู่นั้นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าตนไม่ได้เห็นหลักฐานฟังแต่ข่าวจึงไม่รู้พยานหลักฐานชัดเจนแค่ไหน ถ้าเอาพยานหลักฐานมากองตรงนี้และเอาข้อกฎหมายมาดู ตนตอบได้เลย รอดหรือไม่รอดเมื่อถามว่าหากนายพิธาไม่รอดจริงๆและพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทิศทางของพรรคเสรีรวมไทยจะเป็นอย่างไร มีโอกาสตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคอันดับ 2 หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า”ผมเป็นมิตรกับทุกคน ยกเว้นเผด็จการ”

มติ8พรรคตั้ง7คกก.ช่วงเปลี่ยนผ่าน

เวลา14.30น. ที่พรรคประชาชาติ ย่านสรงประภา ได้มีการประชุมแกนนำ 8 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ เพื่อหารือถึงแนวทางและแผนงานการทำงานหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) เพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เป็นประธาน

เวลา16.15น.นายพิธา แถลงภายหลังประชุมว่าการประชุมมีข้อสรุปคือหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรคร่วมกันมีมติจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านโดยประกอบด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธานคณะกรรมการและมีตัวแทนจากพรรคก้าวไกลคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัวแทนจากพรรคเสรีรวมไทย นายวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนจากพรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยรวมพลัง นายวสวรรธน์ พวงพรศรี และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ โดยคณะทำงานจะประชุมต่อไป ในการกำหนดวาระการประชุม ในวันอังคารที่ 6มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ

ตั้ง7คณะทำงานแก้ปัญหาประชาชน

นอกจากนั้นยังตั้งคณะทำงานอีก 7คณะ เพื่อตอบสนองกับปัญหาของประชาชน ประกอบด้วย 1.คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล และพลังงาน 2.คณะทำงานเกี่ยวกับภัยแล้ง เอลนีโญ3.คณะทำงานเกี่ยวกับ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4.คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5.คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อและ PM 2.5 6.คณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจปากท้องและเอสเอ็มอี และ 7.คณะทำงานเกี่ยวกับเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด โดยคณะทำงานจะประกอบไปด้วยตัวแทนแต่ละพรรคในประเด็นนั้นๆ และจะมีการประชุมต่อเนื่องและแจ้งความคืบหน้าต่อคณะกรรมการประสานงานฯต่อไป ฃ

‘พิธา’ยืนยันจับมือสามัคคีปึ๊ก

โดยคณะทำงานต่างๆ จะนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันของทุกพรรค ในการแก้ไขปัญหาของประเทศในประเด็นต่างๆ เพื่อที่จะกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกันเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และนำไปปฏิบัติในฐานะฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป ยืนยันการทำงานของเราเป็นไปได้ด้วยดี และจะสามัคคีกันเพื่อทำงานแก้ไขปัญหาประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

“ยืนยันว่าการทำงานเป็นไปด้วยดี เราจะสามัคคีกัน เพื่อที่จะตั้งใจทำงาน ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนให้มากสุดเท่าที่เป็นไปได้” นายพิธา กล่าว

ย้ำปธ.สภาฯ‘ก.ก.-พท.ร่วมพิจารณา

นายพิธากล่าวอีกว่า ในการจัดสรรตำแหน่งในฝ่ายบริหารจะเกิดขึ้นหลังการทำงานร่วมกันโดยยึดวาระของการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน โดยยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรค์ในการจัดตั้งรัฐบาล พวกเราวันนี้พูดคุยในจุดประสงค์เดียวกันว่าสิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประชาชน

หวังกกต.รับรองไม่นาน/ตั้งรบ.โดยเร็ว

“ขณะนี้กกต.ได้มีการประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือเพียงการรับรอง ส.ส. ซึ่งประชาชนต่างก็หวังว่ากกต.จะใช้เวลาไม่นานในการรับรอง ส.ส.ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นได้โดยเร็ว เพื่อให้พวกเราเข้าไปบริหารผลักดันวาระต่างๆเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป”นายพิธา กล่าว

เจรจา ส.ว.เป็นไปในทิศทางที่ดี

เมื่อถามถึงกรณีการเจรจากับ ส.ว.เพื่อหาเสียงโหวตนายพิธาเป็นนายกฯนั้น นายพิธา กล่าวว่าเห็นแต่พาดหัว ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าเกิดอะไร แต่ของเรามั่นใจว่า ไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใดแน่นอน เป็นการพูดคุยกัน เพื่อรักษาระบบของประเทศนี้ให้ได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นการรักษาระบบของรัฐสภา หาทางออกบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่มีอะไร ที่ผ่านมาคณะเจรจามีการพูดคุย เป็นไปทิศทางที่ดี

“ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่มีความสั่นคลอนอะไร แต่สิ่งที่ทำน้อยไป และเพิ่งทำวันนี้ คือ เอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าสื่อเห็นด้วย และให้ความร่วมมือ ถ้ามีคำตอบดี ๆ มันน่าจะเป็นการเสนอข่าวสื่อสร้างสรรค์”นายพิธา กล่าว

พท.ลั่นหนุน’พิธา’นายกฯคนที่30

ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมนายพิธาถึงประเด็นนี้ว่า ยืนยันตามนายพิธา ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ว่า คณะกรรมการประสานงานฯ มีการหารือเบื้องต้น มีข้อตกลงร่วมกันชัดเจนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯทั้ง 2 พรรคจะพิจารณาร่วมกัน ไม่คำนึงว่าเป็นโควตาของพรรคใด พรรคหนึ่ง และจะไม่เกิดเป็นปัญหาอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันทั้ง 8 พรรค ไม่ว่าก้าวไกล หรือเพื่อไทย ไม่เป็นประเด็นให้เกิดความขัดแย้ง

ย้ำปธ.สภาฯไม่เป็นอุปสรรคตั้งรบ.

“ตำแหน่งประธานสภาฯไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล และเลือกนายกฯโดยจะมุ่งเน้นประโยชน์สุขต่อประชาชน ที่มุ่งหวังรัฐบาลประชาธิปไตย และทำให้เร็วที่สุด หมายความว่า ถ้า กกต.ประกาศรับรอง ส.ส. จะมีข้อยุติตรงนั้น เตรียมเข้าสู่การเลือกที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘วันนอร์’ลั่นไม่อยากให้ปชช.ผิดหวัง

ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า วันนี้เวลา และความหวังของประชาชนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้เวลา และความหวังของประชาชน สำเร็จด้วยความเรียบร้อยตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่อยากให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปทำเรื่องนี้ให้ประชาชนผิดหวัง ตนอยากให้ทุกคนมองเห็นว่าความหวังของประชาชนเป็นสิ่งที่มีพลัง ถ้าเราไม่สนใจเรื่องนี้แล้วผลักความหวังของประชาชนออกไป พลังประชาชนจะมากเพียงพอที่อาจทำให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้

“ขอให้กกต. เร่งรับรองส.ส. เพื่อให้เกิดการนับหนึ่งในกระบวนการเลือกประธานสภาฯ และนายกฯ โดยเร็วที่สุด ผมไม่ได้กดดันกกต. แต่กกต.ต้องทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ล่าช้า ถ้ากกต.ไม่รับรองส.ส. ทุกอย่างก็นับหนึ่งไม่ได้ ความเชื่อมั่นในการลงทุน และความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว

เสื้อแดงอีสานหนุน‘ก้าวไกล’จัดตั้งรบ

ที่ศูนย์ประสานงานเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่นผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน ได้ประชุมร่วมกับแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงกล่าวว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงได้แสดงออกที่ชัดเจนในการสนับสนุนการเมืองพรรคที่ยึดมั่นอุมดการณ์ในระบอบประชาธิปไตยแม้พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.มาลำดับที่2และไม่ได้แลนด์สไลด์ตามที่ประกาศ โดยพรรคก้าวไกล เป็นอันดับ 1 มีส.ส.มากกว่าเพื่อไทย10 ที่นั่งส่วนตัวน้อมรับให้เกียรติพรรคอันดับ1จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่ระยะนี้ท่าทีต่างๆเริ่มชัดเจนขึ้น คนหนุ่มไฟแรงควรที่จะฟังเสียง ส.ส.และส.ว.ด้วยกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส.ส.ทุกคนก็มาจากการเลือกตั้งด้วยกันขอให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าววันนี้พรรคเพื่อไทย ถอย1ก้าวนั้นมากเพียงพอแล้ว เป้าหมายเราคือแลนด์สไลด์แต่เมื่อมาเป็นอันดับ2ทุกคนสู้กันมาเหน็ดเหนื่อยและพรรคอันดับ1คือพรรคที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตยขอให้จับมือกันทำงานและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ทุกคนล้วนเป็นความหวังและสิ่งที่ทุกคาดหวัง แต่ดูจากนโยบายต่างๆและความชัดเจนที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นได้ในหลายมุมมอง

ลั่นมืออาชีพบริหารไม่ใช่มือใหม่หัดขับ

จากากรลงพื้นที่พูดคุยพบว่าคนอีสานส่วนใหญ่ต้องการมืออาชีพมาบริหารประเทศ ไม่ใช่ให้ใครมาลองหัดขับ อย่ามาโฆษณาเกินจริง ขอให้เร่งสร้างศรัทธา ก่อนจะมาประกาศแนวทางต่างๆแบบก้าวไปโกหกไปเพราะไม่ใช่เพื่อไทยแน่นอนที่จะทำแบบนั้นจะมาเร่งแก้ม.112แต่เพื่อไทยชัดเจนในการแก้ปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่การเลือกตั้งครั้งต่อไปเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์สถานเดียวเพื่อให้มีเสียงข้างมากและจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเสร็จสรรพตามเจตนารมณ์และแนวนโยบายของพรรคที่ต้องการแก้ไขให้กับประชาชน

ยี้โผ‘พิธา1’-หนุน‘ชลน่าน’ปธ.สภา

ผศ.พรรณวดีกล่าวว่าไม่รู้ว่าโผรัฐบาล“พิธา1”ที่กำลังพูดถึงอยู่นั้นเป็นโผที่หลุดมาจากใคร แต่ถ้าเป็นจริงเป็นเรื่องที่คนเสื้อแดงรับไม่ได้ ส่วนที่พรรคเพื่อไทย เสนอนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ส่วนตัวและคนเสื้อแดงภาคอีสานนั้นเห็นด้วยและสนับสนุนให้นพ.ชลน่าน ซึ่งมีวุฒิภาวะและทำงานทางการเมืองที่อัดแน่นด้วยประสบการณ์ถือว่าเหมาะสมแล้ว

ส่วนการที่พรรคก้าวไกลเสนอบุคคลมาเป็นประธานรัฐสภาโดยมีการเปิดตัวมาบ้างแล้ว ยอมรับว่ายังคงขาดประสบการณ์อีกเยอะ การที่ก้าวไกลจะดึงดันต่อไป ขอให้ถอยคนละก้าวและเร่งสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในในสภาให้ได้เพราะพรรคเพื่อไทย ได้รับวางไว้จากคนไทยทั้งประเทศเช่นกันคนเสื้อแดงอีสานน้อมรับมติของพรรค เพราะทุกคนสู้กันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยทำงานทางการเมือในระดับพื้นที่เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยเต็มใบซึ่งแม้จะเป็นเพื่อนต่างวัย ก็ต้องเป็นเพื่อนที่จริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน

‘บิ๊กตู่’เผยนักลงทุนกังวลโฉมหน้ารบ.

เวลา12.05 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)กรณีสื่อมวลชนถามว่านักลงทุนที่นายกรัฐมนตรีได้เคยไปเจรจามาหลังการเลือกตั้งมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ ว่าเขาก็กังวลเหมือนกันว่าจะออกมารูปแบบไหนอย่างไรมีหลายอย่างที่ออกมาพูดเยอะแยะไปหมดว่าจะทำตรงโน้นตรงนี้ซึ่งก็ต้องทบทวนอีกที ตนก็กังวลในเรื่องนี้เพราะหลายๆอย่าง รัฐบาลนี้ที่ทำมาคือการแก้ปัญหาจากการลงทุนภายนอกและการลงทุนภายในก็อยู่ในวงจรของเราอยู่แล้ว ดังนั้นการดึงนักลงทุนในต่างประเทศเข้ามาก็จะสามารถดึงรายได้เข้ามา หากต่างประเทศเข้ามาลงทุนน้อยเกินไป ก็จะเป็นภาระอยู่เหมือนกันที่เค้าไปพบปะเยี่ยมเยียนกันนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถพูดคุยได้เพราะเขาไม่ใช่ส่วนราชการเมื่อถามย้ำว่า การให้ความมั่นใจกับนักลงทุนในระหว่างที่ยังไม่ตั้งรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องให้ความสนใจตรงนี้ด้วย ถ้ามันเสียหายขึ้นมาก็พ้นหน้าที่ของตนไปแล้ว เพราะตนได้ทำไว้แล้ว

ติงก.ก.ไม่สมควรเรียกรชก.ให้ข้อมูล

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล(ทรานซิชั่นทีม)เพื่อรับงานต่อจากรัฐบาลสามารถที่จะขอข้อมูลกับส่วนราชการได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“มันไม่ควร มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆส่งมอบซึ่งผมก็ย้ำไปหลายครั้งแล้ว”

เมินดีลลับงดฟัง-งดดูโซเชียลงานล้น

เมื่อถามว่าได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องดีลลับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า“ผมไม่รู้เรื่อง ไม่ฟังๆไม่เปิดโซเชียลไม่เปิด”เมื่อถามว่าไม่ได้ฟังไม่ได้ดูอะไรเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า“ไม่ฟังไม่ดู จะดูทำไมล่ะงานเยอะแยะไม่มีเวลาว่างที่จะไปทำอะไรเท่าไหร่หรอก ไม่ใช่ไม่มีงานนะ หลายคนบอกนายกฯไม่มีงานวันนี้อยู่ที่ทำเนียบฯไปดูแฟ้มที่อยู่บนโต๊ะสิ ส่วนราชการก็ทำงานทุกหน่วย แฟ้มเอกสารมา50-60 แฟ้มทุกวันให้รู้ว่าการเป็นรัฐบาลเขาทำงานอะไรกันบ้าง ลงพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนติดตามความก้าวหน้า ขณะเดียวกันต้องรันงานเอกสารให้จบด้วย ไม่เช่นนั้นไปไม่ได้สักอันกระทรวงทุกกระทรวงมีรายงานเสนอมาให้พิจารณาตั้งเยอะแยะเว้นแต่เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการใหม่ทำไม่ได้ตามกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะทำอะไรก็ต้องขอเขา โครงการที่จะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้

เมื่อถามว่า ในส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่อังกฤษพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าลาในตอนแรกซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน จริงๆเขาไปเกี่ยวกับเรื่องการประชุมของสาธารณสุขด้วยก็คงแวะไปพักผ่อนอะไรของท่านก็แล้วแต่ มีสิทธิ์อยู่แล้วลาพักผ่อนได้

ยันไม่รู้สึกเหมือนมีนายกฯซ้อน

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯรู้สึกเหมือนมีนายกฯซ้อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าไม่รู้สึกๆๆๆ

เมื่อถามว่ามองอย่างไรก็การที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายเสมือนเป็นนายกฯแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับการโหวตในสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“ไม่ได้มองครับ ผมไม่ได้มองและไม่ได้ไปสร้างความขัดแย้งกับใคร ผมบอกแล้วไงเข้าใจไหม กติกาประชาธิปไตยอย่างไรก็ว่ากันไป”

เมื่อถามอีกว่าเป็นห่วงสถานการณ์อะไรหรือไม่ในตอนนี้และถามว่านายกฯ ยังสู้ใช่หรือไม่ และจะจับมือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯสู้กับสถานการณ์ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด พร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

‘ลุงป้อม’ปัดเอี่ยว’แป๊ะ’โผล่ร่วม’หนู-นิด’

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเดินทางมาเข้าร่วมประชุม ครม.อย่างยิ้มแย้ม อารมณ์ดีภายหลังประชุมครม.พล.ประวิตรกล่าวถึงผลการแข่งขันฟุตบอลระหว่างเลสเตอร์ซิตี้ กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ว่ารู้สึกเสียใจเสียดายแทนคนไทยทั้งประเทศที่สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ แม้จะชนะแต่อีกทีมก็ชนะทำให้เราตกชั้น

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.มีภาพเดินทางไปชมฟุตบอลร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตรตอบว่า จะไปรู้ได้อย่างไร ไม่ทราบ ต้องไปถามท่านเอง เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันไปตามกติกาพร้อมปฎิเสธตอบคำถามดีลลับระหว่างพรรคการเมือง

โยนถาม‘บิ๊กตู่’รวมเสียงตั้งรบ.แข่ง?

เมื่อถามว่าจะมีโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติว่าจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรวมคะแนนเสียงไปต่อรองหรือไม่พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า“ไปถามตู่ ดู”

เมื่อถามว่าได้คุยกับบิ๊กตู่แล้วหรือยังเพราะถ้ารวมเสียงกัน2พรรคการเมืองก็จะได้รับคะแนนเยอะเพื่อไปต่อรองได้ พล.อ.ประวิตร ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม

สุชาติไม่ถึงขั้นรทสช.-พปชร.รวมเสียงสู้

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะรวมเสียงกันสู้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยังมองถึงมิตินั้นไม่ได้ ยังไม่ถึงขั้นนั้น เป็นเรื่องพรรคที่ได้อันดับ1 และ 2 ไปคุยกันเอง เราอยู่อันดับ 4 และอันดับ 5 จะไปคุยอะไร เราต้องยอมรับกติกาสังคม

เมื่อถามว่า เป็นการไปรวมกันเพื่อต่อรองพรรคหลักหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่าตอบแทนไม่ได้ คิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น ให้เขาว่ากันไปในสิทธิความชอบธรรมของเขาก่อน

เมื่อถามย้ำว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดแบบนี้แสดงว่ามีช่องทางตั้งรัฐบาลหรือเปล่า นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มองแบบนั้น แต่เป็นการให้กำลังใจมากกว่า แต่ไม่ใช่ให้ความหวัง เพราะบางคนเป็น ส.ส.ใหม่ก็ยังมีไฟอยู่เราก็ต้องให้กำลังใจ

‘ธนกร’ปัดไม่รู้ดีลลับลุ้นอันดับ1ตั้งให้ได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์การเมืองที่มีกระแสข่าวการดีลลับจับขั้วตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องดีลลับนั้นไม่ทราบ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ทำอะไร มีการหารือเรื่องการทำงานในพรรคมากกว่าไม่ได้พบปะกับใคร ได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรคอยู่บ่อยๆ เป็นการคุยเรื่องอนาคตมากกว่าว่าจะปรับส่วนไหนบ้างเพื่อให้พรรคเป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้น เราไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองอะไร อยู่นิ่งๆให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งไป

ย้ำ‘บิ๊กตู่’ไม่รอส้มหล่น/ไร้สัญญาณสลับขั้ว

เมื่อถามว่านายกฯมีความหวังที่จะรอส้มหล่นหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คงไม่ นายกฯตอบเมื่อวันที่ 29 พ.ค.แล้ว อยู่เฉยๆ ทำงานทุกวันจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ดูแล้วคงใช้เวลา พร้อมระบุว่าไม่ได้ยินสัญญาณพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบันจะย้ายขั้วและคิดว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน มีความสนิทสนมและเป็นกัลยาณมิตรของนายกรัฐมนตรี และมีการพูดคุยกันตลอดไม่มีสัญญาณอะไร

“ผมพร้อมเป็นฝ่ายค้านและห่วงรัฐบาลใหม่หากตั้งไปแล้วแต่มีเรื่องหุ้นสื่อหากไปดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็น่าเป็นห่วง บางครั้งหลายฝ่ายพูดเลยจุดไปหน่อยว่าถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะเกิดความขัดแย้ง แต่วันนี้บ้านเมืองมาไปไกลแล้วอย่าให้ไปถึงขั้นนั้นเลย ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย เมื่อเกิดปัญหาควรแก้และหารือพูดจากันมากกว่า”นายธนกร ย้ำ

‘เฉลิมชัย’ย้ำขอวางมือไม่นั่งเลขาฯปชป.

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่ ต้องรอให้ตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จก่อนหรือไม่ว่ามีการกำหนดวันแล้วคือ13 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายภายในระยะเวลา 60 วัน ตามข้อบังคับพรรค เมื่อถามว่าเลขาธิการพรรคยังเป็นคนเดิมหรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า“ไม่ ผมหยุดอยู่แล้ว”เมื่อถามว่าการหยุดบทบาทแต่ยังให้คำปรึกษาใช่หรือไม่นายเฉลิมชัยกล่าวว่าถ้าเขามาปรึกษาก็ปรึกษาได้ ถ้าไม่มาปรึกษาตนก็อยู่บ้าน ส่วนหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเป็นคนรุ่นใหม่ใช่หรือไม่ ก็ต้องให้กรรมการและที่ประชุมใหญ่เลือกแล้วกัน

เมื่อถามว่าพรรคปชป.พร้อมร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ต้องเป็นมติของพรรค ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งเท่านั้นเมื่อถามอีกว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพรรคปชป.ไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายเฉลิมชัยกล่าวว่า“ไม่ใช่ อย่าไปเชื่อข่าวลือ”