อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว ยื่นรายชื่อพยานปากเอกให้ข้อมูลมัด“พิธา”ถือหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัตินั่งนายกฯย้ำหาก กกต.รับรองส.ส.ก่อนปัญหาจบ ก็ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
6 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ กกต. ขอให้เชิญนายนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 17 คลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นพยานกรณีที่ตนได้ยื่นให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้นบริษัทไอทีวี
นายนพรุจ กล่าวว่า การร้องขอให้กกต.ตรวจสอบการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา เกิดจากนายนิกม์ เป็นผู้ให้สัมภาษณ์คนแรกเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายนิกม์เคยเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และได้ถือหุ้นไอทีวีเช่นเดียวกับนายพิธา ซึ่งตอนนั้นพรรคอนาคตใหม่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิ์นายธนาธร ซึ่งขณะนั้นนายนิกม์ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่นายพิธา ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.โดยที่ขณะนั้น นายพิธายังไม่ได้มีการขายหุ้น
“ดังนั้นวันนี้จึงจำเป็นที่ต้องเอานายนิกม์เข้ามาเป็นพยานบุคคล เพราะถือเป็นพยานปากเอก ผมมั่นใจว่านายนิกม์ พร้อมที่จะมาให้ข้อมูลต่อ กกต.ในฐานะพยาน หรือหากไม่สะดวก กกต.สามารถเชิญสื่อมวลชนที่นายนิกม์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาให้ถ้อยคำได้” นายนพรุจ กล่าว
นายนพรุจ กล่าวว่า หากมีกกต.มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.อย่างเป็นทางการ รวมถึงการรับรองนายพิธา ด้วยนั้น ก็ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯ และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี