"ส.ว.สมชาย"ชี้ชัด! "พิธา"ขายหุ้นไอทีวีตอนนี้ ไม่ทำให้ผิดกลายเป็นถูก ทางกฎหมายถือว่ากระทำสำเร็จตั้งแต่ส่งใบสมัครส.ส.ให้"กกต." ฟันเปรี้ยงไร้เป็นอื่น-สู้ได้มุมเดียว ไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ระบุได้แบ่งมรดกหุ้นไอทีวีให้แก่ทายาทอื่นโดยสิ้นเชิงแล้ว ว่า ประเด็นดังกล่าวไม่สามารถทำให้ความผิดกลายเป็นถูกได้ เพราะการถือครองหุ้นสื่อ ที่เป็นคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ของผู้สมัคร ส.ส.รวมถึงแคนดิเดตนายกฯ นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่นายพิธา ส่งใบสมัครต่อ กกต.เมื่อช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น ทางกฎหมาย หรือนิตินัย ถือว่าเป็นข้อยุติแล้ว ทั้งนี้ ตนไม่ขอวิจารณ์ตามที่มีการตั้งคำถามว่า นายพิธาขายหรือโอนหุ้นทำไม ทั้งนี้ เขาต้องรับผิดชอบ
“ผมเห็นคุณพิธาอธิบายผ่านเฟซบุ๊กแล้ว เป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากยอมรับการต่อสู้ว่าไอทีวีเป็นสื่อมวลชนหรือไม่ ตามประเด็นที่มีผู้ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี การไม่ถือครองหุ้นสื่อไว้ถือเป็นผลดีกับตัวเองในอนาคต เพราะคุณพิธายังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ในครั้งถัดไป” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สำหรับการต่อสู้ในคำร้องของนายพิธานั้นมีมุมเดียว คือ ไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าการต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวต้องพิจารณาด้วยการตรวจสอบงบการเงินและการแสดงบัญชี ที่ยื่นต่อกรมสรรพากร ที่ทำได้ง่ายและย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่ 2550 หรือปี 2562 ที่นายพิธายื่นลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ทั้งนี้ การตรวจสอบไม่เฉพาะที่ใช้คลื่นความถี่เท่านั้น แต่ต้องพิจารณาอื่นๆ ด้วย เช่น ผลิตรายการอื่นๆ หรือไม่ เพราะขณะนี้งบการเงินของไอทีวีนั้นมีความเคลื่อนไหว มีกำไร ขณะที่การต่อสู้เรื่องคดีไอทีวี ที่มีคดีกับ สปน.นั้น ซึ่งค้างในชั้นศาลปกครองสูงสุดนั้น ตนมองว่าเป็นความประสงค์ที่จะทำหรือประกอบกิจการต่อ
“ในรายละเอียดของเรื่องคดีนี้ ต้องพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งผูกพันทุกองค์กร รวมถึงองค์กรอิสระด้วย ส่วนที่มีหลายฝ่ายยกคำวินิจฉัยของศาลฏีกาในคดีของหลายคนมาต่อสู้นั้น ในประเด็นดังกล่าวคำตัดสินมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น ซึ่งต่างจากศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันกับทุกองค์กร และจาก 4 คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเป็นแนวทางเดียวกัน คือ การถือหุ้นเพียงหุ้นเดียวเท่ากับว่าครอบครองหุ้นสื่อฯ” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายพิธาไม่ยอมชี้แจงกับสื่อที่ตั้งคำถามเรื่องการโอนหรือขายหุ้นทันทีที่ถูกตั้งคำถามเมื่อ 5 มิ.ย.ที่ถูกมองว่ามีเจตนาไม่สุจริต นายสมชาย กล่าวว่า “ผมไม่ขอวิจารณ์ เรื่องนี้ว่านายพิธาจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ สังคมต้องพิจารณาเอง”
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี