วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'จตุพร'เตือนปมหุ้น'พิธา'เสี่ยงแตกแแยกครั้งใหญ่-ยึดอำนาจ ชี้ช่องถอดชนวนรุนแรง

'จตุพร'เตือนปมหุ้น'พิธา'เสี่ยงแตกแแยกครั้งใหญ่-ยึดอำนาจ ชี้ช่องถอดชนวนรุนแรง

วันพุธ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 23.14 น.
Tag : จตุพร ทนายนกเขา ประชานิยม ค่าแรงขั้นต่ำ 600 เลือกตั้ง ยุบสภา เพื่อไทย ทักษิณกลับบ้าน
  •  

“จตุพร” ส่งสัญญาณปมถือหุ้นสื่อบานปลายกลายเป็น“ชนวนพิธา”ก่อแตกแยกรุนแรงครั้งใหญ่ ลามเปิดช่องยึดอำนาจอ้างปกป้องสถาบัน เตือน หน.ก้าวไกลถอดชนวนรุนแรงด้วยตัวเอง แนะประกาศความจริง ยอมรับคุณสมบัติขัดข้อห้ามกฎหมาย ติงอย่าหวังนำอารมณ์มวลชนโหมเผชิญหน้า เชื่อสถานการณ์ยิ่งย่ำแย่กว่าที่คิดหวังไว้

เมื่อ 7 มิ.ย.2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "บ่วง!!" โดยประเมินว่า สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อไอทีวี จะกลายเป็น “ชนวนพิธา” อาจนำประเทศไปติดบ่วงการยึดอำนาจซ้ำซาก


อีกทั้งเชื่อว่า “ชนวนพิธา”จะทำให้สังคมเกิดความแตกแยกรุนแรงครั้งใหญ่ เนื่องจากประชาชนฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกลใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสินคดีการถือหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นกติกาคุณสมบัติจึงควรใช้กฎหมายมากำหนดความชี้ขาด

“ดังนั้น นายพิธา ควรยอมรับความจริงกับคุณสมบัติสมัคร ส.ส.ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งเท่ากับเป็นการถอดชนวนความแตกแยกรุนแรงด้วยตัวเอง”

นายจตุพร กล่าวว่า การยึดอำนาจแต่ละครั้งในอดีตส่วนใหญ่มาจากสาเหตุหลัก 4 ประการคือ 1.ความแตกแยก 2. ทุจริต 3. การแทรกแซงองค์กรอิสระหรือหน่วยงานรัฐ และ 4. หมิ่นสถาบัน สิ่งสำคัญในครั้งนี้การถือหุ้นสื่อของนายพิธา อาจเป็นจุดตั้งต้นทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น แล้วลุกลามไปเปิดประตูให้มีการยึดอำนาจด้วยการอ้างการหมิ่นสถาบัน จึงต้องออกมาปกป้อง

รวมทั้ง เห็นว่า ในกรณีการถือหุ้นนั้น นายพิธา มีสิทธิสู้คดี แต่การสู้ต้องยอมรับผลของคดีด้วย เพราะตัวเองได้ตัดสินใจเข้าไปเล่นในกติกามาตั้งแต่ต้นแล้ว เมื่อพลาดต้องยอมรับว่าพลาด อย่างไรก็ตาม การถือหุ้นสื่อ ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่กฎหมายห้ามนักการเมืองถือ ดังนั้น เมื่อตัดสินใจเล่นเกมแล้วต้องยอมรับชะตากรรมตามกฎหมาย

“เรื่องนี้จะนำพาไปสู่ความแตกแยกใหญ่ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจรับรอง ส.ส.เบื้องต้น ก็คงส่งเรื่องไปศาล รธน. และศาลคงใช้หลักการเดียวกัน โดยสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ซึ่งปลายทางหนีไม่พ้น เพราะเส้นทางเป็นเช่นนี้ ส่วนศาลจะวินิจฉัยผลลัพธ์อย่างไรก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งว่า จะลามไปกระทบ ส.ส.ที่ได้รับรองไปหรือไม่”

นายจตุพร กล่าวว่า หาก กกต.แจกใบเหลือง แดง ส้ม หรือดำว่าที่ ส.ส.เกิน 25 คนแล้ว จะเหลือ ส.ส.ไม่ถึงเกณฑ์ 95% หรือ 475 คนจาก 500 คน ก็ไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ จึงอยู่ที่ กกต.จะคิดอ่านกันอย่างไร แต่ทุกอย่างต้องแล้วเสร็จก่อน 13 ก.ค.นี้ ดังนั้น หลังจากกลางเดือน มิ.ย.นี้ กกต. คงทยอยรับรอง ส.ส. แต่เรื่องนายพิธา ยากที่จะได้ไปถึงวันเปิดประชุมสภาครั้งแรก เพื่อเริ่มขั้นตอนในลำดับถัดไป ดังนั้น นายพิธา คงต้องทำใจให้ได้

พร้อมทั้ง กล่าวว่า เมื่อนายพิธา ติดบ่วงการถือหุ้นสื่อแล้ว ย่อมเกิดเหตุใหญ่กับตำแหน่งประธานสภา ซึ่งอาจไม่ใช่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ต้องการจะเป็นตำแหน่งนี้เสียแล้ว แต่อาจเป็น ส.สมศักดิ์ หรือ ส.สุชาติ ที่ทั้งสองคนย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ ในสถานการณ์ประเทศเผชิญหน้ากับความแตกแยกรุนแรง

"ถ้ามีการแหวกขั้ว ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะตั้งรัฐบาลได้แล้ว พรรค 141 เสียงต้องย้ายขั้วไปหาฝ่าย 188 เสียงเพื่อตั้งรัฐบาลขึ้นมาแทนที่ ถึงที่สุดความขัดแย้งต้องเกิดขึ้นมากหรือน้อยแตกต่างกันไป เพราะจุดเริ่มมาจากคุณสมบัติของนายพิธา หากพรรคก้าวไกลถูกทิ้งไว้เป็นฝ่ายค้านแล้ว สถานการณ์ทางการเมืองจะลุกลามขึ้นไปอีก”

นายจตุพร เชื่อว่า การแตกแยกครั้งนี้จะลุกลามครั้งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสบายตัวที่สุด ถ้าเลือกทางรับผิดชอบลาออกจากนายกฯ และรัฐบาลรักษาการเพื่อรับผิดชอบมติ ครม.ออก พรก.เลื่อนการอุ้มหาย ซึ่งศาล รธน.วินิจฉัยว่า ขัด รธน.

อีกทั้งเห็นว่า เมื่อเกิดการยึดอำนาจ ข้ออ้างการกระทบต่อสถาบันกษัตริย์ จะนำมาใช้เป็นเหตุในการยึดอำนาจ แต่จะทำให้คนอีกฝ่ายหนึ่งทนไม่ได้ก็ออกมาเผชิญหน้า ดังนั้น ใครจะคิดอย่างไรย่อมหนีไม่พ้นการเผชิญหน้าความรุนแรง

“หากนายพิธา ยอมรับความจริงเสียก่อน มันก็จบแค่นายพิธา ถ้ายอมรับไม่ได้ก็จะเป็นชนวนพิธา ทำให้เกิดการลุกลามขึ้นในสังคม จึงเป็นสถานการณ์เปราะบางมาก ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นการประชุมสภาก็ไม่ได้ประชุม และอาจรุนแรงลามถึงขั้นเลือกประธานสภาและเลือกนายกฯ ไม่ได้ด้วย”

นายจตุพร กล่าวว่า การเสียสละตนเองเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อตนเองกินแดนเข้าไปสู่ข้อห้ามทางกฎหมาย ก็ต้องยอมรับความจริง และต้องกล้าประกาศออกมา แต่ถ้ามีความเชื่อว่า จะมีมวลชนออกมาต่อสู้ แต่จะกลายเป็นว่า ไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ ดังนั้น สถานการณ์ในอนาคตจึงย่อมมาจากเหตุการณ์ชนวนพิธาเป็นสิ่งกำหนดความรุนแรงขึ้น

นอกจากนี้ เน้นว่า หากคิดไม่ยอมรับความจริงกันแล้ว จะไม่มีทางได้เริ่มต้นแบบปกติ และใครที่นั่งแบ่งกระทรวง ท้ายที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย อย่างไรก็ตาม ถ้า 312 เสียง กับ 188 เสียง และ ส.ว. อีกทั้ง ศาล รธน. กับ กกต. ถ้าทั้งหมดนี้ยึดมั่นในหลักศักดิ์ศรีเป็นคนจริง ประเทศก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องอยู่กันแบบนี้

“ถึงที่สุดประเทศนี้ไม่มีคนจริงสักคน แต่มีคนโหลยโท่ยไปทำในสิ่งที่แย่ ดังนั้น ทุกอย่างทางการเมืองจึงอยู่ที่คน แม้มีระบบที่ดี แต่คนเฮงซวยแล้ว ก็จะมีปัญหาอีก การจะมาจากแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง ถ้าชั่วก็เป็นเหมือนกัน และประเทศย่อมฉิบหายไม่แตกต่างกัน”

นายจตุพร หวังว่า นายพิธา จะเสนอความเป็นจริง ออกมายอมรับการฝ่าฝืนกติกาข้อห้ามสมัคร ส.ส. ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับตัวเอง แต่ถ้าคิดว่า จะให้มีสงครามแล้วเกิดประโยชน์กว่าก็เดินหน้าตามตั้งใจ ซึ่งอยู่ที่ต้องคิดกันเอาเอง
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ ‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ
  • อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน!! ‘นพดล’ขอทุกฝ่ายพิจารณาปม\'ทักษิณ ชั้น 14\'ตามข้อเท็จจริง-กม. อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน!! ‘นพดล’ขอทุกฝ่ายพิจารณาปม'ทักษิณ ชั้น 14'ตามข้อเท็จจริง-กม.
  • ‘นิพนธ์’ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ชี้บทบาทท้องถิ่นคือรากฐานพัฒนาประเทศ ‘นิพนธ์’ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ชี้บทบาทท้องถิ่นคือรากฐานพัฒนาประเทศ
  • ฝนถล่มไม่กระทบ‘เลือกตั้งเทศบาล68’ กกต.เร่งสอบซื้อเสียง‘กาฬสินธุ์’หัวละ 3 พันบาท ฝนถล่มไม่กระทบ‘เลือกตั้งเทศบาล68’ กกต.เร่งสอบซื้อเสียง‘กาฬสินธุ์’หัวละ 3 พันบาท
  • ร้องทุจริต‘เลือกตั้งเทศบาล’แล้ว 352 เรื่อง ‘กกต.’หวังประชาชนใช้สิทธิ์ 70% ร้องทุจริต‘เลือกตั้งเทศบาล’แล้ว 352 เรื่อง ‘กกต.’หวังประชาชนใช้สิทธิ์ 70%
  • \'อิทธิพร’แจงเรียกสอบ55สว. หลักฐานมัดแน่น จะผิดจะถูกอยู่ที่ศาลตัดสิน 'อิทธิพร’แจงเรียกสอบ55สว. หลักฐานมัดแน่น จะผิดจะถูกอยู่ที่ศาลตัดสิน
  •  

Breaking News

'ขอนแก่น'คึกคัก! ปชช.แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น คาดยอดทะลุ 70%

'เมย์ วาสนา'เผยเหตุผลส่งพวงหรีด ร่วมอาลัยในงานศพคุณพ่อ'ดิว อริสรา'

‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ

เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved