ไม่ยกเก้าอี้ปธ.สภาฯให้‘ก.ก.’
เพื่อไทยทบโต๊ะ
ต้องแคร์แฟนคลับ10ล้านเสียง
‘ประยุทธ์’ทยอยเก็บของ
‘บิ๊กป้อม’สยบตั้งรบ.แข่ง
บินไปอังกฤษแค่ดูแข่งม้า
‘อุ๊งอิ๊ง’ติดเชื้อโควิดอีกราย
“บิ๊กตู่”ทยอยเก็บของออกจากทำเนียบฯ “ลุงป้อม”สยบข่าวตั้งรัฐบาลแข่ง บินไปดูแข่งม้าที่อังกฤษ “พิธา”ป่วยโควิด ลุ้นหายทันประชุม 8 พรรคร่วมฯ 26 มิถุนายนขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” ติดโควิด งดร่วมงานกับพรรค“เพื่อไทย”จัดสัมมนา สส. เปิดโอกาสให้ถกปมเก้าอี้ ประธานสภาฯ ในที่สุด เสียงส่วนใหญ่ ค้านประเคนเก้าอี้ ประธานสภาฯให้“ก้าวไกล”ผู้บริหารพรรคต้องแคร์แฟนคลับ 10 ล้านเสียงด้วย ไร้เงา“สุชาติ”ร่วมประชุม อ้างผ่าฟันคุด“ชลน่าน” มองไม่เห็นพปชร.เสนอ‘สุชาติ’นั่งประธานสภาฯลั่นไม่โง่ให้เขาทำร้ายต่อ‘ภูมิธรรม’ยันยังไม่เคาะประธานสภาฯ‘อดิศร’ลั่นไม่ยอมพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส
เมื่อวันที่ 21มิถุนายน2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า นายกฯเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00น.โดยไม่มีวาระงานอย่างเป็นทางการ มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รอให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการจับตาความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการเก็บของจากทำเนียบฯแล้วหรือไม่นั้น ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า คณะทำงานได้ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปบ้างแล้ว โดยในส่วนของพระพุทธรูป ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำมาบูชาที่ห้องทำงาน ได้ทยอยนำกลับไปยังบ้านพักบ้างแล้วบางส่วน สำหรับเอกสารสำคัญต่างๆ ในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ได้ทยอยทำลายและบางส่วนได้เก็บกลับไป เพื่อเตรียมส่งคืนห้องทำงานให้กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) วันที่ 22มิ.ย.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นัดพบ สส.ทั้ง 36คน ที่รัฐสภา เพื่อรายงานตัวที่อาคารรัฐสภา เวลา 11.30น.
ปลามังกรของ’บิ๊กป้อม’ยังอยู่ที่เดิม
มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังคงปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ขณะที่ตึกบัญชาการ1 ที่มีห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรีและรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ได้ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวออกบ้างแล้ว สำหรับห้องทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีการนำปลามังกรมาเลี้ยงไว้ มีรายงานว่า ปลามังกรยังคงอยู่เช่นเดิม
ลุงป้อมดูแข่งม้าอังกฤษ/สยบตั้งรบ.แข่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีกำหนดการเดินทางไปประเทศอังกฤษ ช่วงดึกวันที่ 20มิ.ย.66และมีกำหนดการเดินทางกลับในวันที่ 25 มิ.ย.นั้น ท่ามกลางการจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมือง จับขั้วตั้งรัฐบาลแข่งพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และยังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตร ไปดูการแข่งม้าที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นกำหนดการที่วางแผนไว้นานแล้ว
‘พิธา’ป่วยโควิด แต่อาการไม่รุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลังจากเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการไข้เพียงเล็กน้อย มีอาการไอ ซึ่งปกติ นายพิธา จะมีแพทย์ประจำตัว แต่เนื่องจากอาการป่วยไม่รุนแรง จึงอาจจะไม่ได้ปรึกษาแพทย์ตลอดเวลา ส่วนสถานที่กักตัวยังไม่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็นที่บ้าน เนื่องจากอยู่ใกล้โรงพยาบาล ทำให้เดินทางได้สะดวก อาการป่วยของ นายพิธา จะหายทันก่อนถึงวันประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 26มิถุนายนนี้หรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ แต่ยืนยันว่าอาการขณะนี้ไม่รุนแรง
‘อุ๊งอิ๊ง’งงติดโควิดตรวจทุกวันไม่เจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ว่า ติดโควิด เมื่อวานนี้(20 มิ.ย.66) ล่าสุด วันนี้ (21 มิ.ย.66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพผลตรวจATK ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว@ingshin21พร้อมข้อความระบุว่า...เอ๊าแม่ ไม่ต้องตามกระแสก็ได้นะคะ ลูกยังเล็ก #เกมส์ซะงั้น เจ็บคอตั้งแต่วันอาทิตย์ จิ้มทุกวันไม่เจอ เจอเช้านี้ งงเลย อะไรก็ได้ ขอให้ 2จิ๋วที่บ้านไม่ติดพอ’ ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ติดโควิดเป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ตาม ในเย็นวันนี้น.ส.แพทองธาร มีกำหนดขึ้นบรรยายในการสัมมนา ส.ส. พรรค พท. มีรร.เอสซีปาร์ค แต่ต้องงดภารกิจเนื่องจากตรวจพบโควิดก่อน
‘ชลน่าน’ชิง‘ถอนตัว’ถ้าถูกเสนอชื่อ
เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าสัมมนาสส.พรรค ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองสส.ครบทั้ง 500คนแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภาฯ ว่า วันนี้เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับสส.141ของพรรค พท.ทั้งสส.บัญชีรายชื่อและสส.เขต เพื่อไปทำหน้าที่ในสภาฯ การเป็นสส.ของพี่น้องประชาชนในการประสานงานในสภาฯ และพื้นที่ มั่นใจว่าครั้งนี้เราเป็นรัฐบาล ฉะนั้นบทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นเรื่องในสภาฯ หรือติดตามนโยบายต่างๆ ที่ลงสู่การปฏิบัติ จะมีการพูดคุยกันในวันนี้ เมื่อถามว่า การเปิดโอกาสให้สส.ได้พูดคุยถึงเรื่องประธานสภาฯ หรือไม่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า หลักๆจะมี 2เรื่อง โดยจะมีเรื่องดังกล่าวด้วย ซึ่งหลังเลือกตั้งเรายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ฉะนั้นวันนี้ใครมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับการถอดบทเรียนหลังเลือกตั้งก็จะสามารถนำมาพูดคุยกันได้ เชื่อว่าน่าจะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย ขอให้รอฟัง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรค พท. เป็นประธานสภาฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ผมมองยังไง ผมก็มองไม่เห็น” และกล่าวต่อว่า จริงอยู่ว่าการทำหน้าที่สมาชิกสภาฯ เป็นเอกสิทธิ์ ซึ่งเป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แต่เราอยู่ในฐานะที่เป็นองค์กรทางการเมือง เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นพรรคการเมืองย่อมมีความคิดเห็น โดยมีหลักสำคัญคือ หลักเสียงข้างมาก แต่เคารพเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นหลักที่เราใช้ขับเคลื่อนบริหารพรรคมาโดยตลอด ทั้งนี้ เราห้ามพรรคอื่นเสนอชื่อไม่ได้ เขาอาจเสนอได้ แต่การบริหารพรรคเราต้องเป็นไปตามความเห็นพรรค
“ยกตัวอย่างง่ายๆ ผมพูดตรงนี้ไว้เลยว่า หากมีการเสนอชื่อผม โดยที่ผมไม่รู้และมติพรรคเราชัดเจนว่าเราจะต้องสนับสนุนตามหลักการที่เราแถลงไว้ หากมีคนใดคนหนึ่งลุกขึ้นมาเสนอชื่อผมแข่งประธานสภาฯ ผมก็จะลุกขึ้นบอกว่า ผมขอถอนตัว” นพ.ชลน่าน กล่าว เมื่อถามว่า มองการปล่อยข่าวลักษณะนี้อย่างไรบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ไม่ได้มีประเด็นอะไร ในมิติทางการเมืองความเห็นความคิดและแนวทางที่มีความหลากหลายเป็นสีสันที่ดี แต่จะเป็นไปตามที่เขาเสนอหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ อย่างองค์กรทางการเมือง ต้องยึดหลักเสียงข้างมากให้มั่น
‘จาตุรนต์’ไม่การันตีพท.ไม่แตกแถว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการจัดปฐมนิเทศน์ส.ส.พรรคเพื่อไทยในวนัที่ 21มิถุนายน ว่า เป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ให้ สส.นำประสบการณ์เก่าแชร์ ให้กับ ส.ส.ใหม่ ส่วนกรณีที่มีข่าวระบุจะหารือถึงตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น ตนทราบว่าตามวาระเป็นการปฐมนิเทศน์ ส.ส. เพื่อให้การทำงานทำได้ดีขึ้น ส่วนจะแลกเปลี่ยนความเห็นการเมือง จัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะเป็นการพูดถึง ในระดับแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ให้ผู้ประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้รับฟัง ไม่ใช่การประชุมเพื่อหามติใดๆ
เมื่อถามถึงกรณีสส.เพื่อไทยไม่อยากยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคก้าวไกล นายจาตุรนต์ กล่าวว่าตนได้รับแจ้งจากแกนนำ ผู้ที่ไปหารือการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 3 วันก่อนว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าพรรคที่ได้ส.ส.อันดับ 1 ควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคอันดับ 2ขอตำแหน่งรองประธานสภาฯดังนั้นเชื่อว่าจะมีการหารือในแนวทางอีกครั้งเชื่อว่าพรรคการเมืองจะหารือเพื่อเป็นประโยชน์และส่งเสริมการจัดตั้งรัฐบาล จึงควรยึดเป็นเรื่องหลัก
เมื่อถามย้ำว่า การลงคะแนนในตำแหน่งประธานสภาฯ ของ สส.เพื่อไทยจะไม่แตกแถวใช่หรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า “ผมเป็น สส.คนหนึ่ง แต่ต้องพยายามช่วยกัน เพื่อให้ไปด้วยกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทางการเมืองแม้ว่า การลงมติจะเป็นเอกสิทธิ์ และลงมติลับ แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศอะไรกับประชาชนการดำเนินการควรไปในทิศทางเดียวกัน”
สส.อุดรย้ำเลือกปธ.สภาฯเป็นเอกสิทธิ์
นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ว่าที่สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจาก สส.ทุกพรรค รวมถึง สว.ด้วย เพราะต้องดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วยและที่ไม่ควรมองข้ามคือ การได้รับการยอมรับจากประชาชนด้วย ประธานสภาฯจึงควรมีวัยวุฒิและคุณวุฒิ ทั้งประสบการณ์4-5สมัยและมีบารมี การไปชี้ว่าพรรคไหนควรได้ตำแหน่งประธานสภา หรือชี้ว่าพรรคไหนได้ตำแหน่งนายกฯและพรรคไหนได้โควตากระทรวงไหนบ้างนั้น ไม่ถูกต้อง ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ส.ส.ก็ไม่ต้องไปลงมติเลือกตำแหน่งประธานสภาฯและนายกรัฐมนตรีในสภาฯแล้วสิ”
‘พท.’จัดสัมมนาเสริมศักยภาพส.ส.
ที่โรงแรม.เอสซีปาร์ค พรรคเพื่อไทย (พท.)ได้จัดประชุมโครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำ กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)และสส.พรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งสิ้น 141คน เข้าร่วมกิจกรรม
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในนามของพรรคต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ไว้ใจให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและเลือก สส.จากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณและให้กำลังใจ สส.ทุกท่านที่ทำงานอย่างหนักจนได้รับการเลือกตั้งมาจากพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของ ส.ส.อย่างยิ่ง เราเห็นตรงกันว่า การเป็นผู้แทนราษฎรมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อให้มีการตอบสนองการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเป็น สส.ในครั้งนี้ ทั้งในมิติของการเป็น สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหาร การทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะเกี่ยวพันทั้งการตรากฎหมาย การตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ไปจนถึงการทำหน้าที่สำคัญในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
แจงจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้า
จากนั้น พรรคได้เปิดเวที“เพื่อไทยเปิดใจเพื่ออนาคตไทย”รับฟังความคิดเห็นสส.ในประเด็นต่างๆ ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งความหวังและจุดมุ่งหมายในการเป็นสส.รวมถึงความเคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาล
โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวนำเปิดเวที พร้อมชี้แจงความคืบหน้าในการเจรจาร่วมรัฐบาลกับพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค รวมทั้งการเจรจากับพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้มีความคืบหน้าไปโดยลำดับ
‘อดิศร’ทุบเปรี้ยง!ปธ.สภาฯของพท.
ต่อมา บรรยากาศการจัดสัมมนาเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางการจับตาของสื่อมวลชนว่าจะมีการถกเถียงกันเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังมีกระแสข่าวไลน์หลุด ส.ส.พรรค พท.แสดงความไม่พอใจแกนนำพรรคที่ออกมาระบุจะยึดหลักการให้พรรคอันดับหนึ่งได้ตำแหน่งประธานสภาฯและพรรคอันดับสองได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯสองเก้าอี้
ผู้ที่แสดงตัวชัดเจนคือ นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่สส.บัญชีรายชื่อ แต่ก่อนการสัมมนา นายอดิศรได้ทักทายกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค จับมือพูดจากันด้วยดี พร้อมบอกสื่อมวลชนที่ยืนอยู่ว่า “สนิทกันดี เคยทำงานกระทรวงเดียวกันตอนอยู่ป่าก็อยู่ด้วยกัน”จากนั้นเวลา 10.00น.พรรคเปิดโอกาสให้ สส.ได้แสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อ “เพื่อไทยเปิดใจ เพื่ออนาคตไทย” โดย นายอดิศร เป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องประธานสภาฯ ตนไม่เห็นด้วยที่เรา 141 เสียง เขา 151เสียง แต่เราไปยอมเขาทุกเรื่อง พรรคก้าวไกลเขาควรได้เป็นฝ่ายบริหาร แต่จะหาวเอาเดือนเอาดาว เอาประธานสภาฯไปด้วย ตนว่ามันจะง่ายเกินไปหน่อย ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา“ผมยืนยันว่า ศักยภาพของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม ผมไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะ อย่าไปยอมให้เขาง่าย อย่าไปห่วงความรู้สึกเขา คุณจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรค พท.เรื่องประธานสภาฯถึงอย่างไรผมคิดว่า ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้รัฐบาลผสมเดินทางไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม การทำงานในทางการเมืองอย่าอ่อน แข็งต้องแข็ง เราต้องสรุปบทเรียน และพรรค พท.จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าทุกพรรค”นายอดิศร
ส่วนใหญ่ค้านยกปธ.สภาฯให้ก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย(พท.)หลังเปิดให้ สส.แสดงความคิดเห็น มี ส.ส. ลุกขึ้นแสดงความเห็นกว่า 10ราย มีเนื้อหาอภิปรายหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เสียงส่วนใหญ่กว่า 90เปอร์เซ็นต์ของสส.141คนของพรรค ต่างมีความเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวควรอยู่ที่พรรค พท.ไม่ควรยกให้พรรคก.ก.เนื่องจากเราได้สส.น้อยกว่าพรรคก.ก.เพียง10เสียง ฉะนั้น ควรแบ่งตำแหน่งประมุขให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อถ่วงดุลการทำงาน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกล่าวอ้างกระแสสังคม โดยเฉพาะแฟนคลับพรรคก.ก.แต่ต้องไม่ลืมความรู้สึกแฟนคลับพรรค พท.ซึ่งมีกว่า 10 ล้านเสียงเช่นกัน เมื่อเขาเลือกเรามาก็หวังให้เราได้ทำงานและมองว่า การที่ไปเจรจาอะไรมา ก่อนจะให้ข่าวก็ควรมาแจ้ง สส.รับทราบก่อน
โพลผิดพลาด-เปิดเวทีน้อยเลยแพ้ก.ก.
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความคิดเห็นถึงการเลือกตั้งที่ได้มาเพียง 141เสียง มองว่า การจัดรณรงค์หาเสียงค่อนข้างมีข้อผิดพลาด มีการแบ่งทีมปราศรัยน้อยเกินไป ไม่มีทีมปราศรัยไปช่วยอดีตผู้สมัคร สส.มากเท่าที่ควร บางพื้นที่ความนิยมค่อนข้างดีก็ส่งทีมปราศรัยไปย้ำความนิยม แต่พื้นที่ที่ความนิยมตามหลังคู่แข่ง กลับไม่ส่งทีมปราศรัยไปช่วย อีกทั้งมองว่า ผลสำรวจความนิยมก่อนลงคะแนนเสียงของพรรคไม่มีความแม่นยำ ทำให้การประเมินสถานการณ์ในการเลือกตั้งผิดพลาด การเปิดเวทีให้ สส.แสดงความคิดเห็นในวันนี้ ไม่มีข้อสรุปออกมา โดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ เพียงแค่เปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น
‘สุชาติ’ล่องหน-อ้างไปผ่าฟันคุดมา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า นายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่สส.บัญชีรายชื่อไม่ได้มาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ทั้งที่มีรายชื่อเป็นผู้บรรยายกิจกรรมในช่วงบ่ายที่แบ่ง สส.กันไปสัมมนาเป็นรายกลุ่ม ท่ามกลางกระแสข่าวที่จะได้รับการผลักดันจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อเป็นประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งคนใกล้ชิดให้เหตุผลว่า เพิ่งไปผ่าฟันคุดมา
‘วันนอร์’ลั่นรองปธ.คนที่2ต้องอันดับ3
เวลา 10.30น.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ นำ 8 สส.ของพรรค เข้ารายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรตำแหน่งต่างๆในรัฐบาลว่า พรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน เนื่องจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สบาย จึงต้องรอก่อน ในส่วนพรรคประชาชาติเราไม่มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีตามที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ส่วนจะได้ตำแหน่งใดขอให้เป็นการพิจารณาร่วมกันว่า ตำแหน่งใดเหมาะสม ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะควบ 2ตำแหน่ง ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ที่พูดคุยกันใน 8พรรคร่วมรัฐบาล มีการพูดถึงเพียงตำแหน่งประธานสภาฯโดยมอบหมายให้พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยไปตกลงกัน ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่1 ตามที่ปฏิบัติกันมาปกติจะเป็นของพรรคอันดับสองและรองประธานสภาฯคนที่2 จะเป็นของพรรคอันดับที่3”
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่เนื่องจากมีประเด็นกฎหมายที่สังคมยังกังวล นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คงไม่มีความขัดแย้งอย่างใด ซึ่งการประชุมใดสภาฯจะมีการอภิปรายและลงมติเสียงข้างมาก ซึ่งต้องปฏิบัติตามนั้น ส่วนจะมีการโต้แย้งอย่างใดก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเสียงข้างมากชนะ ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ซึ่งการมีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ใช่เรื่องแตกแยก แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นของแต่ละพรรค
‘เฉลิมชัย’ยันไม่มีล็อกหน.พรรคคนใหม่
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ ชุดรักษาการ ว่า การประชุมกก.บก.นช่วงบ่ายวันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นการเตรียมการต่างๆ และกำหนดหลักเกณฑ์ องค์ประชุมร่วม และคณะกรรมการดำเนินการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค
เมื่อถามว่าขณะนี้มีผู้ที่สนใจจะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ คนใหม่บ้างแล้วหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่เคยคุยกับใคร และที่เป็นข่าวออกไปว่ามีการทาบทามคนนั้นคนนี้ หรือมีการล็อกตัวคนนั้นคนนี้ ตนบอกได้เลยว่า ไม่จริง ไม่อยากให้ข่าวอย่างนี้ออกมา เพราะเหมือนกับจะไปทำร้ายพรรคอีก จึงไม่มีประโยชน์อะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่า ทุกคนมีความเห็นตรงกัน คือต้องมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคฯ คนต่อไปควรเป็นคนหน้าใหม่หรือเก่านั้น ต้องให้องค์ประชุมในการประชุมใหญ่ฯเป็นผู้กำหนด วันนี้เราเพิ่งเริ่มมีการรับรองสส.ซึ่งองค์ประชุมส่วนใหญ่เป็นสส.จึงต้องฟังสส.ว่า เขาต้องการเห็นภาพพรรคเป็นอย่างไร
ซัดเพ้อเจ้อหอบสส.หนุน8พรรคตั้งรบ.
ต่อข้อถามถึงข่าวที่ว่าพรรคเสรีรวมไทยอ้างว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะไปเติมเสียงให้กับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เพ้อเจ้อ ไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าเอาสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาพูด และพรรคฯยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันทั้งนั้น เราให้เกียรติพรรคที่ได้รับการเลือกตั้ง และไม่ได้ขัดขวางหรือสนับสนุน ตนก็ส่งกำลังใจไป “อย่าลืมว่าการดำเนินการต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เราอยู่ในนิติรัฐ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่รับกฎหมาย ก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้ แต่เชื่อว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครขัดขวาง หากคุณเรียกร้องประชาธิปไตย ก็อย่าทำตัวเป็นอันธพาลการเมือง”นายเฉลิมชัย กล่าว
‘หญิงหน่อย’กัดฟันนั่งหัวหน้าทสท.ต่อ
เวลา11.30น.ที่รัฐสภา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมสส.ของพรรค 5คน เดินทางเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณีจะลาออกจากสส.และหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้คนอื่น ว่า เคยพูดบนเวทีหลายครั้งถึงการมีเจตจำนง ตั้งใจสร้างพรรคนี้เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นของประชาชน ไม่ใช่พรรคของใคร หรือนายทุนคนใด แต่ต้องการทำหน้าที่เป็นนั่งร้านเสาเข็มและสะพานเชื่อมโยงให้คนเข้าพรรค ให้เป็นสถาบันการเมือง จากนั้นตนจะไปอยู่กับประชาชน โดยมีกลไกที่เข้มแข็งของพรรคในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่เนื่องจากเป็นการตั้งพรรคครั้งแรกจำเป็นต้องมีคนนำ โดยเฉพาะคนที่อยู่มานานอย่างตน การประชุมยุทธศาสตร์พรรควันที่ 19มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงความประสงค์ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ แต่มีเสียงคัดค้านว่า สถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง คณะผู้บริหารพรรคและสส.ขอให้มีการพูดคุยกันก่อน โดยให้ดูจากห้วงเวลาที่เหมาะสม ควรช่วยกันประคับประคองให้มีรัฐบาลประชาธิปไตย โดยใช้ประสบการณ์ของตนช่วย ดังนั้นตนจึงต้องมารายงานตัวเป็นสส.แล้วจึงคอยมาคุยอีกครั้ง ตอนนี้ยังต้องเป็นสส.ไปก่อน ยังไม่รู้ว่าจะเป็นนานเท่าไหร่ ยืนยันว่าไม่ยึดติดตำแหน่ง ไม่ทราบว่าจะลาออกเมื่อไหร่
ตกลงปธ.สภาไม่ได้ฝ่ายปชต.จบแน่นอน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวที่พรรคต้องการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น ยืนยันพรรคไม่มีปัญหาใด พยายามเสียสละให้การตั้งรัฐบาลราบรื่น ไม่มีเงื่อนไขใด ไม่เรียกร้องกระทรวงใด สเต็ปแรกขณะนี้ต้องเลือกประธานสภาฯและนายกฯให้ได้เสียก่อน โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาฯถ้าไม่ลงตัวใน8พรรคการตั้งรัฐบาลจะยากเย็น เมื่อถามว่า ถ้าตำแหน่งประธานสภาฯไม่ลงตัว จะเป็นฉนวนการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่สิ่งที่กลัวที่สุด คือไม่อยากเห็นการชุมนุม การสูญเสีย เพราะจะเป็นข้ออ้างที่จะนำสู่การทำรัฐประหาร ดังนั้น 2พรรคใหญ่ต้องรู้ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯมีความสำคัญ ขอให้พรรคที่หนึ่งและพรรคที่สองไปคุยกันให้จบ เสียสละเพื่อส่วนร่วม ตกลงกันให้ได้ ตนขอให้กำลังใจ ถ้าโหวตแข่งกันเมื่อไหร่ ฝ่ายประชาธิปไตยจบแน่นอน
สส.รับหนังสือรับรอง2วัน259คน
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.อย่างเป็นทางการ ครบ 500คน โดยสำนักงาน กกต.เปิดให้ ส.ส.ใหม่เข้ารับหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานสำคัญ ในการไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร เป็นวันที่สอง
ทั้งนี้ตลอดทั้งวัน มี ส.ส.ทยอยมาเข้ารับหนังสือรับรอง เพื่อนำไปรายงานตัวที่สภาฯโดยวันนี้มี สส.มารับหนังสือรับรองแล้ว 167คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 34คนและสส.แบบแบ่งเขต 133คน หากรวมกับเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน มี สส.รับหนังสือรับรองไปแล้ว รวม 259คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 48 คน ยังขาดอีก 52 คน ส่วน สส.แบบแบ่งเขต 211คน ยังขาดอีก 189คน โดยสามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองที่ กกต.ด้วยตัวเองหรือมอบหมาย ได้จนถึงวันที่ 24มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น.
ยอดส.ส.รายงานตัว2วันรวม86คน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงภาพรวมการรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ชุดที่ 26 เป็นวันที่2 สรุปยอดมี ส.ส.มารายงานตัวในวันที่สอง รวมทั้งสิ้น 55 คน จากพรรคเพื่อไทย 9 คน พรรคพลังประชารัฐ 13 คน พรรคภูมิใจไทย 2 คน และพรรคประชาธิปัตย์ 11 คน พรรคประชาชาติ 9 คน พรรคไทยสร้างไทย 6 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง 1 คน พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน
ทั้งนี้ เมื่อรวมยอด 2 วัน(20-21มิ.ย.) มี ส.ส.มารายงานตัวรวมแล้ว 86 คน จากทั้งหมด 500 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี