ก.ก.นัด8พรรคร่วมถก29มิ.ย.
ผวาเกมพลิก
ประเมินสถานการณ์จัดตั้งรบ.
28มิ.ย.เคลียร์พท.ปมปธ.
‘ชวน’เชื่อไร้ปัญหาเก้าอี้ปธ.
สภาแจ้งประชุมนัดแรก3ก.ค.
เลือกเก้าอี้ประธานสภาฯ4ก.ค.
กกต.เผยสส.รับหนังสือรับรอง 4 วัน 444 คน เริ่มทยอยพิจารณาคำร้อง แย้มมีร้องเรียนเพิ่มจาก 82 คน อุบตอบรายละเอียด ย้ำหากพ้น 24 มิถุนายนนี้ ยังรับได้ที่ชั้น 5“สว.เสรี”ซัดกลับ“ก้าวไกล”ปั่นราคาการเมือง โมเมหา สว.หนุน“พิธา”นั่งนายกฯ “วันชัย”ปูดปริศนาธรรม“ฟันโชะ 312 แพ้ศึก เสร็จขั้วเดิมดีลสภาฯ สูง 200 เสียง”ช่วยดัน“อนุทิน”ปัดข่าวซีกรัฐบาลเดิมเสนอชื่อประธานสภาแข่ง เผย“ภท.”ยังไม่ได้รับการประสาน ย้ำจุดยืนเดิมกติกาประชาธิปไตย
เชื่อไทมไลน์ตั้งรัฐบาลตามปฏิทิน พูดติดตลกไม่มีของให้ต้องเก็บบนห้องทำงาน‘ชวน’ยํ้าประธานสภาต้องเป็นกลาง ไม่มีผลต่อการบรรจุวาระ ชี้พรรคอันดับ1ควรได้ พรรษามากน้อยไม่สำคัญ ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ สนง.สภาฯแจ้งเปิดประชุมนัดแรกรัฐพิธี 3ก.ค- เลือกปธ.สภา4ก.ค.
เมื่อวันที่ 23มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. ลงมาตรวจเยี่ยมและดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการแจกหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งให้กับ สส.พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีผู้มารับหนังสือรับรองแล้ว 444คน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากสส.คนไหนที่ไม่ได้มารับรองหนังสืออย่างเป็นทางการภายในวันที่ 24มิ.ย.ยังมารับภายหลังได้ที่ชั้น5 สำนักงาน กกต.
ส่วนการทำงานจากนี้กกต.ยังต้องทำงานตามหน้าที่ตามปกติ ซึ่งในส่วนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนคัดค้านผลการเลือกตั้งนั้น อยู่ที่สำนักงานฯหรือคณะกรรมการสืบสวนว่า ทำการสืบสวนและทำความเห็นมาได้มากน้อยแค่ไหนและทยอยส่งเรื่องเข้ามา ส่วนหลังประกาศรับรองส.ส.นั้น ก็มีคนร้องเรียนมาเพิ่มจาก 82 คน แต่ว่า ยังไม่ได้เปิดดูในรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อถามถึงการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ นายแสวง กล่าวว่า เป็นการเลือกตั้ง สว.ที่จะครบวาระในเดือนพ.ค.2567
สว.ฉะ‘ก้าวไกล’ปั่นราคาหนุนพิธ’นายกฯ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิดวุฒิสภา (สว.) ใรฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมือง วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่พรรคก้าวไกลเผยถึงทิศทางที่ดีที่ สว.จะสนับสนุนนายกฯของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า เป็นการปั่นราคาการเมือง หรือปั่นหุ้นทางการเมือง เพราะจากที่ตนรับทราบ สว.ที่เคยประกาศสนับสนุนนายกฯของเสียงข้างมาก ประมาณ 20คนนั้น ส่วนใหญ่ไม่เคยเอ่ยชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล แม้จะมีคนที่เอ่ยถึงชื่อแต่ทราบว่า เขาถอยแล้ว ในกมธ.การพัฒนาการเมือง ยังมีประเด็นที่ตรวจสอบเกี่ยวกับคุณสมบัติ นายพิธา ซึ่งผมยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานเพื่อขอข้อมูล โดยเป็นประเด็นเกี่ยวกับหนี้สินและทรัพย์สินที่สอดคล้องกับปมคุณสมบัติ
ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า “ฝ่าย312ชนะเลือกตั้งขาดลอย แต่แพ้คะแนนโหวต อีกฝ่าย188 แพ้เลือกตั้งราบคาบ แต่ชนะคะแนนโหวต ต่างฝ่ายต่างแพ้ ต่างฝ่ายต่างชนะ จะมีใครยอมใครมั้ยเนี่ย ตอนนี้มีคนกำลังจะทำให้ฝ่ายที่ดูว่า แพ้กลับมาชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผมรู้นะแต่อุบไว้ก่อน ขอนั่งสมาธินิ่งๆอยู่วัดไก่เตี้ย’และก่อนหน้านั้น ยังระบุว่า“รู้แล้วจะหนาว เกมนี้มันหลายชั้นจริงๆ พลิกไปพลิกมา ล็อคถล่มแผ่นดินทลาย คอยดูเถอะ”
คาดเสียง200สว.ไม่เอา’พิธา’นายกฯ
อย่างไรก็ดี นายวันชัย ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 22มิถุนายนที่ผ่านมา ต่อประเด็นการเมืองตอนหนึ่งว่า ซีกหนึ่งได้ 312เสียง ชนะเลือกตั้ง แต่แพ้คะแนนโหวต ที่ต้องการ 376เสียง โดยตัวเลขทางคณิตศาสตร์ ฝากหนึ่งชนะเลือกตั้ง แต่แพ้คะแนนโหวต ส่วนอีกฝ่ายแพ้เลือกตั้งราบคาบ แต่ชนะคะแนนโหวต แปลว่า อีกฝ่ายได้ 188-190เสียง ยอมบวกกับ200 จากฝั่งวุฒิสภา แปลว่า ฝ่ายหนึ่งแพ้เลือกตั้ง แต่ชนะคะแนนโหวต อีกฝ่ายชนะเลือกตั้ง แพ้คะแนนโหวต ทั้งนี้ตนนั่งคิดเอาเอง ที่ว่าฝ่ายหนึ่งชนะศึกแต่แพ้สงคราม
เป็นแค่’ปริศนาธรรม’ให้คิดกันเล่นๆ
“312 ที่ได้มานั้น แทงหวยยังไม่โดนเลย ฝ่ายหนึ่งชนะเลือกตั้งได้ 312เสียง แห่รอบโบสถ์ เตรียมนำนาคเข้าโบสถ์ แต่กุญแจโบสถ์มีรหัส376 เข้าไม่ได้ แต่กลุ่มอำนาจเดิมมี 190 ไม่ได้แห่นาคเลย พรวดถึงประตูโบสถ์ บวก200 เข้าโบสถ์ได้เลย แต่อาจจะทำพิธีกรรมไม่ได้ ขานนาคไม่ได้ กฎหมาย งบประมาณ พิธีกรรม ต้องใช้250ขึ้น แต่เข้าโบสถ์ได้ คนที่รอหน้าโบสถ์ ทนตากแดด เปียกฝน อย่าง หมดชลน่าน ศรีแก้ว ก็เปียกฝน ตากแดดอยู่หน้าโบสถ์ แต่คนที่อยู่ในโบสถ์ บวชได้ก็ต้องถูกจับสึก ตัวเลข190 ขาดอีก60 จะได้ 250 ผมคิดแบบหยาบๆ ตั้งรัฐบาลใช้เงินหมื่น-สองหมื่นล้านนั้นเด็กๆ คะแนนที่เหลือ60 เอาไปคนละ100 ล้าน ก็ใช้แค่ 6,000ล้านบาท ผมคิดแบบนี้อาจจะผิดก็ได้ ผมขอกราบอภัย ส.ส.” นายวันชัย ให้สัมภาษณ์และทิ้งท้ายว่า เป็นปริศนาธรรมเท่านั้น
‘จาตุรนต์’ปิดตาย‘ฟรีโหวตประธานสภา
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความถึงเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า“เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ผมได้รับแจ้งจากแกนนำพรรคว่าเพื่อไทยเห็นว่าตำแหน่งประธานสภาให้เป็นของพรรคที่มีจำนวนสส.เป็นอันดับหนึ่งและให้พรรคอันดับสองได้รองประธานสภาฯสองคน ผู้นำระดับสูงของทั้งสองพรรคเห็นร่วมกันว่า เรื่องตำแหน่งประธานสภานี้จะให้วิธีพูดจาหารือกันเป็นการภายใน โดยตัวแทนของสองพรรค ผมจึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องพูดถึงเรื่องนี้
แต่ขณะนี้ เรื่องนี้ได้เป็นประเด็นสาธารณะไปแล้ว ผมจึงจะขอแสดงความเห็นที่หวังว่า จะเป็นประโยชน์บ้าง ในระบบรัฐสภาการเลือกประธานสภานั้น เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำไปสู่การเลือกนายกฯเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป การเลือกประธานสภามีผลสำคัญต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแยกกันไม่ออก ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคการเมือง 8พรรคที่กำลังร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลต่างประกาศต่อประชาชนว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการและมีนโยบายที่จะสร้างประชาธิปไตย เช่น การให้มี สสร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นต้น ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า ประชาชนไม่ยอมรับพรรคการเมืองที่นำโดยผู้ที่เป็นผู้นำในการทำรัฐประหาร และสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น การที่พรรคการเมือง 8 พรรคร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นการทำภารกิจอันชอบธรรมตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
เมื่อมีความเห็นที่แตกต่างในเรื่องตำแหน่งประธานสภาขึ้น ผมก็ยังเห็นเหมือนอย่างที่เคยแสดงความเห็นมาก่อนหน้านี้ว่า ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภานี้ จะต้องไม่ปล่อยเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังทำอยู่ หากการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคการเมือง 8พรรคไม่ประสบผลสำเร็จ ก็มีความเสี่ยงที่พรรคการเมืองที่นำโดยผู้นำของคณะรัฐประหารในอดีตจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและสืบอำนาจต่อไปได้ หรือหากมีการย้ายขั้วสลับข้างเกิดขึ้น ก็จะเป็นความเสียหายต่อฝ่ายประชาธิปไตยอย่างมาก ผมจึงหวังว่าในการหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาที่จะมีขึ้นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะสามารถหาทางออกที่ดีได้โดยไม่มีการแข่งกันเองในสภาและไม่ปล่อยให้ฟรีโหวต เมื่อประชาชนมอบหมายภารกิจที่สำคัญเช่นนี้แล้ว เราควรต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ร่วมกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จให้จงได้ ไม่ปล่อยให้เรื่องตำแหน่งประธานสภามาเป็นอุปสรรค เพื่อให้ความหวังของประชาชนปรากฏเป็นจริง”
‘เศรษฐา’จี้เร่งตั้งรบ.แก้ปัญหาให้ปชช.
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรค เพื่อร่วมประชุมด้านเศรษฐกิจ โดยให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนจะล่าช้าทำให้เศรษฐกิจล่าช้าไปด้วย จะส่งผลต่อการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า หากมีการล่าช้าไป คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะทำให้การลงทุนชะลอ นโยบายหลักๆ ที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจก็ถูกพักไป ซึ่งคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ อย่างที่ตนเรียกร้องมาตลอดว่าอยากให้รีบจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ได้คุยกับพรรคพวกที่คุยในวงเศรษฐกิจทราบว่า ยอดขายหลายยอดล่วง ซึ่งตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะตกไปเยอะโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่น่าเห็นใจ ทั้งนี้ เป็นห่วงพี่น้องประชาชน เรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องรอง แต่ทุกวันนี้มีแต่เรื่องการเมืองทั้งนั้น จึงขอเรียกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว
เบรกสว.บางคนชอบเสี้ยมให้พลิกขั้ว
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรกรณีที่ สว.บางคนออกมา ระบุว่า ขณะนี้มีคนพยายามที่จะทำให้ฝ่ายที่แพ้กลับมาชนะ นายเศรษฐา นิ่งสักครู่ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่า “สั้นๆ นะครับ ผมชอบสอเสือที่สร้าง ไม่ชอบสอเสือที่เสี้ยม”ถามอีกว่า การออกมาโพสต์ลักษณะเช่นนี้จะมีนัยยะที่เป็นอุปสรรคต่อการทำให้ได้นายกฯช้าหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า“จุดยืนของผมชัดเจนครับ อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะป็นห่วงพี่น้องประชาชนจริงๆ ครับ”
ถามย้ำว่า มองอย่างไรกับการที่มีความพยายามบอกว่า ส.ว.ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พยายามเจรจาด้วย เปลี่ยนใจจะไม่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ก.ก.เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่ได้ยิน ไม่ทราบครับ แต่อยากให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และอยากให้มีการโหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ ครับ”
‘อนุทิน’เคลียร์ปมซีกเก่าแข่งชิงปธ.สภา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า วันที่ 24มิ.ย. นัดสมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับเลือกตั้ง ไปรับหนังสือที่ กกต.จากนั้นวันที่ 25มิ.ย.จะมีการประชุมเพื่อปฐมนิเทศ สส.ใหม่ ที่พรรคภูมิใจไทยและจะไปรายงานตัวต่อสภาวันที่ 26มิ.ย.เมื่อถามว่า ในการปฐมนิเทศจะพูดถึงเรื่องทิศทางโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้เป็นวาระ เป็นการนัดพบกันก่อน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ สส.ได้มาพบกัน
ส่วนกรณีมีข่าวเรื่องโหวตประธานสภาฯ ในส่วนของซีกรัฐบาลเดิมอาจจะเสนอชื่อขึ้นมาแข่งด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า มีด้วยหรือ ตนไม่ได้รับการประสานอะไรทั้งสิ้นและในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังเหมือนเดิม ให้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย เมื่อถามย้ำว่า หากมีการเสนอชื่อ 2คน จะทำอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งคิดไปก่อน ทั้งนี้ การเมืองทุกอย่างอะไรก็ตามเป็นประโยชน์กับประเทศและเป็นประโยชน์กับประชาชน นั่นคือทิศทางที่พรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาให้ไปในแนวทางนั้น เราทำอย่างนี้มาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องใหม่
‘ภท.’ไม่มีดีลตั้งรบ.แข่งกับ8พรรค
ส่วนที่การเมืองจับจ้องพรรคภูมิใจไทยว่า จะเป็นพรรคตัวแปรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จ้องทุกทีเลย ไม่ต้องจ้องหรอก พรรคภูมิใจไทยทำตามมารยาททางการเมืองตลอด ตั้งแต่เลือกตั้งมาจนถึงวันนี้ก็ทำตามที่ตนพูดมาตลอดว่า เราเคารพมารยาททางการเมืองและทำตามมารยาทที่ดีทางการเมือง เมื่อถามว่า หากทางการเมืองมีการเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า มันยังไม่มี เมื่อถามย้ำว่า หากมีเพื่อให้ไปเติมเสียง จะได้ไม่ต้องใช้เสียง สว.หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มันจะมีได้อย่างไร หลังจากการเลือกตั้งผู้สื่อข่าวก็ได้ไปถามหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งท่านก็บอกว่า ขณะนี้ไม่จำเป็นและไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พรรคภูมิใจไทย มันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลมีการพูดคุยกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่พูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เก็บของบนห้องทำงานตึกบัญชาการ1และที่กระทรวงสาธารณสุขแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวติดตลกว่า“ไม่มี เดินเข้ามามีกล่องไม้จิ้มฟันอันเดียว ยังใช้ไม่หมดเลย”
‘ชวน’ยํ้าประธานสภาต้องเป็นกลาง
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารายงานตัว ส.ส.ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาที่ยังตกลงกันไม่ได้ระหว่าง พรรคเพื่อไทย (พท.) และ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ ว่า คงไม่น่ามีปัญหาอะไร อาจเป็นประสบการณ์ที่บางฝ่ายอาจไม่เคยเจอ โดยทั่วไปแล้วพรรคที่มีเสียงข้างมากก็จะได้ตำแหน่งประธานสภาและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลที่เป็นเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย มักเป็นคนละฝ่ายกัน จึงไม่ค่อยมีปัญหา สมัยพรรคความหวังใหม่ได้ 125เสียง ส่วนพรรค ปชป.ได้ 123เสียง แต่เป็นคนละฝ่าย จึงไม่มีใครแย่งตำแหน่งกัน ดังนั้นพรรคความหวังใหม่จึงได้ทั้งประธานสภาและนายกฯ แต่ครั้งนี้พรรคที่ได้คะแนนอันดับ1และ2 ร่วมรัฐบาลเดียวกัน จึงทำให้เกิดปัญหาว่าต่างฝ่ายต่างก็อยากเป็นประธานสภา
ไม่มีผลต่อการเสนอกม.-ญัตติต่างๆ
นายชวนกล่าวด้วยว่า ส่วนความวิตกกังวลว่าหากใครเป็นประธานสภาแล้วจะได้เปรียบ ทำให้การเสนอกฎหมายและญัตติต่างๆ เรื่องนั้นไม่มีผล เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ประธานสภาต้องเป็นกลาง และ จากประสบการณ์ 55ปีของตน ไม่ว่าประธานสภาจะมาจากที่ไหนโดยทั่วไปจะเป็นกลาง มีเพียง 2 คนที่เคยมีปัญหาอันเนื่องมาจากรัฐบาลสั่งให้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่ปัจจุบันเห็นว่า จะทำได้ แม้กระทั่งการนำกฎหมายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขึ้นมาพิจารณาก่อนก็ทำไม่ได้ ยกเว้นเป็นมติที่ประชุม ถ้าเปรียบเทียบว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้านแล้วกฎหมายของพวกตัวเองเสนอยาก ต่อไปนี้เป็นรัฐบาลก็จะได้ชดเชย โดยทั่วไปแล้วใครเป็นรัฐบาลสามารถเสนอกฎหมายเป็นร้อยฉบับได้และสภาต้องพิจารณาตามที่รัฐบาลขอ ดังนั้นไม่แปลกที่เราจะเห็นว่ากฎหมายของฝั่งรัฐบาลจะผ่านการพิจารณาทุกเรื่อง แต่กฎหมายฝ่ายค้าน อาจไม่ได้พิจารณาเลย เพราะหากรัฐบาลเสนอมาเรื่องด่วนมา เราก็ต้องพิจารณาเรื่องด่วนก่อน
รุ่นใหม่-รุ่นเก่าก็ต้องให้ความร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้สังคมถกเถียงกันว่า ประธานสภาควรเป็นคนรุ่นใหม่ บางคนก็บอกว่าควรเป็นคนรุ่นเก่ามีประสบการณ์และดูที่พรรษา นายชวน กล่าวว่า คิดว่าใครก็ตามเข้ามาเราก็ต้องช่วยกัน ให้ความร่วมมือกับประธานสภาให้สามารถทำงานไปได้ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการรักษาระบบฝ่ายนิติบัญญัติให้มีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินงานไปได้ ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือเก่า ทุกฝ่ายก็คงจะให้ความร่วมมือ เมื่อถามว่า ตามมารยาทมีการเสนอชื่อประธานสภาข้ามพรรคกันได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่ที่ประชุม อย่างในสมัยที่แล้ว พรรค ปชป.ได้อันดับ4 โดยทั่วไปประธานสภาก็ควรเป็นของพรรคที่ได้อันดับ 1 ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ในสมัยที่แล้วต้องเรียนว่า ตนไม่ได้คิดจะเป็นประธานสภาในครั้งที่แล้ว แต่เมื่อพรรคได้ลงมติร่วมรัฐบาลก็ได้ขอให้ตนรับตำแหน่ง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่คิดสัดส่วนในโควตา ขอยืนยันว่าใครมาเป็นประธานสภาก็ตาม เราก็ต้องช่วยสนับสนุนเพื่อให้งานของสภาไปได้ตามกระบวนการของระบบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา” นายชวนกล่าว
‘สุชาติ’ปัด‘พีระพันธุ์’เตรียมลาออก
นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมารายงานตัวส.ส.ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นแค่ข่าวลือหรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในพรรคแต่หวังดี ตนจึงขอปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า เรามีผู้แทน 36 คน ถือว่าไม่น้อย ก็ต้องทำพรรคให้แข็งแรงต่อไป เมื่อถามถึงแนวทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุชาติ กล่าวว่า เรารอดูความชัดเจนว่าพรรคไหนจะเสนอประธานท่านไหน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมีความสามัคคีต้องหารือกันภายในพรรค เพื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะตำแหน่งประธานสภาฯเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดสตาร์ทในการเริ่มประชุมสภาฯ
รวมเสียงได้มากมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการร่วมมือกันของพรรคอีกฝ่ายเพื่อผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการตั้งรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญใครที่รวมเสียงได้มากกว่าเป็นรัฐบาล ส่วนใครจะรวมใครตนไม่ได้อยู่ในวง ซึ่งหลายสูตรเป็นสมการได้หมด เราอยู่ในรัฐธรรมนูญเดียวกันต้องยึดมั่นกฎหมายมากกว่า เมื่อถามว่า พรรคซีก181เสียง อาจรวมเสียง สว. 200เสียง พลิกมาชนะ มองว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า มองว่าสูตรการตั้งรัฐบาลมีหลายสูตรอยู่ที่จะออกแบบอย่างไร ตนไม่กล้าพูดขนาดนั้น ต้องให้พรรคที่ตั้งกันอยู่ ตั้งให้ได้ก่อนเมื่อถามถึงการชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องไปถามเขา แต่จากประสบการณ์คิดว่า ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติสำคัญมาก ผู้แทน 500คน ใครจะมาเป็นประมุขก็ต้องเหมาะสม ต้องเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป และส.ส.500คน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับคะแนนโหวต เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อประธานสภาฯ แข่งด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติคงมีมารยาทพอ คงไม่ถึงขนาดนั้น
หนุน’สุชาติ ตันเจริญ’เหมาะนั่งปธ.
เมื่อถามว่า นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีความเหมาะสมเป็นประธานสภาฯหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกัน จังหวัดติดกัน ท่านมีคุณวุฒิ วัยวุฒิสูง เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ตนพูดในนามส่วนตัว ก็ต้องยอมรับท่าน เพราะตนเข้ามาเป็นผู้แทนหลังท่าน เมื่อถามถึงสูตรการตั้งรัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพล.อ.ประวิตร วางมือทางการเมือง แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล นายสุชาติ กล่าวว่า การคิดสูตรต่างๆ ขึ้นอยู่กับรวมใครได้มากกว่าก็ตั้งรัฐบาล ซึ่งสูตรต่างๆก็เป็นแค่กระแส แต่ความจริงไม่ใช่ เราต้องดูปัจจุบัน
อยู่ฝั่ง40ล้านคน/ไม่เอา’พิธา’นายกฯ
เมื่อถามว่าหากโหวตเลือกนายกฯ จะสนับสนุนพล.อ.ประวิตร หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสุชาติ กล่าวว่า ตนจะไปโหวต นายพิธาได้อย่างไร อยู่คนละมุมกันแบบสุดโต่ง เราต้องยอมรับคนมาใช้สิทธิ 40 ล้านคน จะให้ตนไปอยู่ซีก 14ล้านคนก็คงจะไม่ใช่ คนอีก 27 ล้านคน จะไม่โกรธตนหรือ เพราะตนอยู่ใน 27 ล้านคน
จี้ปาร์ตี้ลิสต์รทสช.ลาออกไม่ป้อง‘บิ๊กตู่’
นายสนธิญา สวัสดี ออกมาตอบโต้ นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้เก็บข้าวของออกจากบ้านพักกองทัพบกไปอยู่บ้านตัวเอง ว่า การออกมาทวงถามเรื่องบ้านพัก รวมถึง ค่าน้ำ ค่าไฟของ พลเอกประยุทธ์ นางสาวตรีชฎาให้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากค่าน้ำค่าไฟ พล.อ.ประยุทธ์ จ่ายเองมาตั้งนานแล้ว นางสาวตรีชฎาอยากโกหก อย่าพูดเท็จ ขณะที่ เรื่องบ้านพักในค่ายทหารเป็นการใช้สิทธิ์ของอดีต ผบ. ทบ.เคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชน ไม่ได้แตกต่างกับประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่เคยเป็นประธานาธิบดีเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีระบบการป้องกันคุ้มครองรักษาความปลอดภัยปกป้องอดีตผู้นำ พร้อมถามกลับว่าเมื่อรวมค่าน้ำค่าไฟ หรือถ้ารวมค่าเช่าบ้านไปด้วยจะถึงปีละ2แสนหรือไม่ ดีกว่ากับการที่อดีตนายกฯบางคนที่พวกท่านรู้จักได้ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติเป็นล้านๆบาท เช่น นโยบายจำนำข้าวที่พังไปต้องจ่ายหนี้กว่า 8แสนล้านบาท รัฐบาลต้องจ่ายหนี้ไปถึงปี2575 อีก 10ปี ปีละ 30,000ล้านบาท ที่ต้องจ่ายคืนธนาคารจากนโยบายที่ผิดพลาดของพรรคเพื่อไทย ทำไมถึงไม่ออกมาเรียกร้องบ้าง
“นี่คือสิ่งที่เกิดความเสียหายทั้งหมด ขอให้มองอย่างรอบคอบและอย่าคอยแซะ มองว่าเรื่องเล็กน้อยของพลเอกประยุทธ์ เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนตลอด 8 ปีที่ผ่านมาอย่างมากมาย ที่สำคัญไม่เคยทุจริต พลเอกประยุทธ์ซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใสไม่โกงและมีผลงานที่ชัดเจนต่างกับอดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่ปัจจุบันหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ขอให้มองตรงนั้น จะเป็นธรรมกับพลเอกประยุทธ์ด้วย เรียกร้องไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติว่า สส.บัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ที่ได้ตำแหน่งก็ได้มาจากประชาชนที่ศรัทธาในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนั้น เหตุใดไม่ออกมาปกป้องหรือให้ข้อมูลที่แท้จริงช่วย พล.อ.ประยุทธ์ บ้าง หากไม่ออกมาก็ขอเรียกร้องให้ลาออกไปเพื่อให้คนอื่นที่เขาต้องการปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่แทนดีกว่า’นายสนธิญา กล่าว
‘วิโรจน์’ซัดกลัวเอกสารลับถูกเปิดโปง
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขออยู่บ้านพรรคหลวงต่อเพื่อความปลอดภัย ว่า “การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันที่จะอยู่บ้านหลวง โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้กลัวใครมาทำร้ายหรอกครับ แต่อาจจะกลัวว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้ที่บ้านหลวงหลังนั้น ซึ่งอาจจะเป็นหลักฐานในการสมคบคิดอะไรบางอย่าง อาจจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ก็เป็นได้”
3ก.ค.ประชุมนัดแรก-เลือกปธ.4ก.ค.
เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงภาพรวมการรายงานตัว สส.ชุดที่ 26 เป็นวันที่4ที่บริเวณห้องสัมมนาชั้น บี1 มีสส.ทยอยเดินทางมารายงานตัวต่อเนื่องอาทินายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น สรุปยอดสส.มารายงานตัวตลอดทั้งวันรวม 14 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 4คน พรรคภูมิใจไทย 1คน พรรคพลังประชารัฐ 1คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 6คน พรรคประชาธิปัตย์ 1คนและพรรคเป็นธรรม 1คน รวม 4วัน (20-23 มิ.ย.) มีส.ส.มารายงานตัวแล้วรวมทั้งสิ้น 257คน ยังคงเหลือสส.ที่ยังไม่มารายงานตัวอีก 243คน
ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังเปิดให้ส.ส.มารายงานตัวในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30 น.-16.30น.อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า บรรดาส.ส.ได้รับแจ้งในเบื้องต้น ให้เตรียมเข้าร่วมรัฐพิธีวันที่ 3ก.ค.และประชุมสภาฯนัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ วันที่ 4 ก.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี