‘จตุพร’ฟันโช๊ะ! 4 ก.ค.วันแตกหัก เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ออกแบบให้ ‘สุชาติ’ เป็นประธานสภา หนุน ‘ประวิตร’ นายกฯ มั่นใจประชาชนเดือด ลงถนนชุมนุม
26 มิถุนายน 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “จบที่สภา...หรือถนน?” โดยระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่มีความจริงใจตรงไปตรงมากับประชาชนในการเลือกตำแหน่งประธานสภาแล้ว จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชนพากันลงสู่ถนนด้วยอารมณ์ไม่พอใจ
นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์ตั้งแต่ 4-13 ก.ค. นี้ สภากับมวลชนลงถนนจะสิ่งคู่กัน เพราะการเลือกประธานสภาวันที่ 4 ก.ค. และถัดไป 13 ก.ค. เลือกนายกฯ ดังนั้นจุดเริ่มต้นความวุ่นวายทางการเมืองย่อมมาจากสภา โดยขึ้นกับพรรคเพื่อไทยจะมีความตรงไปตรงมากับการโหวตลับเลือกประธานสภาหรือไม่? เป็นปัจจัยชี้ขาด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปอังกฤษ หอบสังขารเดินแต่ละก้าวได้ยากลำบากยังต้องเดินทางไกลอ้างไปดูม้าแข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกใจอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์ถึงการไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือเกี่ยวพันกับการเลือกประธานสภาและนายกฯ แต่ยังไม่ใครออกมายอมรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้
นายจตุพร กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภา ว่า นายสุชาติ ตันเจริญ ซึ่งย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่เพื่อไทยนั้น มีชื่อติดโผอันดับต้นๆ จะได้ตำแหน่งนี้ โดยเมื่อ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เขาแอบไปรายงานตัวเป็น ส.ส.ที่สภาหลังเลยเวลาปิดทำการแล้ว และพยายามไม่ให้สื่อมวลชนรู้ แล้วรีบเร่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินหนีไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าว จึงเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติ สะท้อนอาการทางใจที่หลบซ่อนอยู่
“สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ หากไม่มีลับลมคมนัยแล้ว นายสุชาติ หลบหน้าสื่อมวลชนทำไม ควรต้องเปิดใจให้สัมภาษณ์ในตำแหน่งประธานสภาให้ชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อหมดสิ้นความกังขาว่า ถ้ามีคนเสนอชื่อขึ้นมาแข่งขันกับพรรคก้าวไกลจะรับหรือไม่รับตำแหน่งนี้ ดังนั้น พฤติกรรมแอบๆ หลบๆ ซ่อนๆ ย่อมสะท้อนถึงความต้องการที่อยู่ภายในใจได้เป็นอย่างดี” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า พฤติกรรมหลบซ่อน ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้ผู้คน หากต้องการเป็นประธานสภาก็ควรบอกประชาชนตรงๆ ดังนั้นนายสุชาติ ที่มีชื่อในตำแหน่งประธานสภา ควรแสดงความสง่างาม จะรับหรือไม่รับ ต้องบอกออกมา ทั้งที่นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้บอกปัดไปแล้วว่า ถ้าถูกเสนอชื่อแข่งขันจะถอนตัวทันที เชื่อว่าในการโหวตลับเลือกประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ หากได้นายสุชาติ เป็นประธานสภา แล้วต่อมาวันที่ 13 ก.ค. พล.อ.ประวิตร จะถูกเลือกอย่างเปิดเผยให้เป็นนายกฯ โอกาสที่มวลชนไม่พอใจจะลงมาเต็มถนนย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน
“ขณะนี้ยากที่จะประเมินว่า หลังจาก 4 ก.ค.แล้ว มวลชนจะชุมนุมมากน้อยแค่ไหน หากมีประชาชนลุกลามมากขึ้น และปักหลักต่อเนื่องแล้ว วันที่ 13 ก.ค.จะได้เปิดสภาเพื่อเลือกนายกฯ หรือไม่ คงไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า ชนวนใหญ่เรียกมวลชนมาลงถนนย่อมมาจากการประชุมสภาในวันเลือกประธานสภา อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนตรงไปตรงมา โดยผู้บริหารพรรคกับสมาชิกพรรคตัดสินใจไปในทางเดียวกัน คนลงถนนอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่การเมืองช่วงนี้ เป็นการออกแบบให้พรรคเพื่อไทยเป็นปัญหา ดังนั้น จึงไม่มีความตรงไปตรงมากับประชาชน โดยเสียงสมาชิกพรรคยังต้องการให้ประธานสภาเป็นของเพื่อไทย สิ่งนี้คือ แรงจะกระตุ้นให้คนมาลงถนนมากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยสร้างปัญหาไม่ตรงไปตรงมาทางการเมืองแล้ว ย่อมทำให้เกิดความวุ่นวายตามมาด้วย จึงเท่ากับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งกับการเปิดประตูให้รัฐประหารได้ ดังนั้น 4 ก.ค. นี้ สภาจะก่อให้บ้านเมืองเข้าสู่จุดถอยหลังหรือไม่ และยังยากต่อการประเมินจำนวนประชาชนที่ออกมาลงถนนจะมากน้อยเพียงใดด้วย
“เพื่อไทยกลับไปกลับมาทางการเมืองเสมอจนยากจะเข้าใจได้ว่า เอาอย่างไรในตำแหน่งประธานสภา แต่ถ้านายสุชาติ ได้เป็นประธานสภา คงไม่แปลกใจ เพราะเสียงจากพรรคเพื่อไทยบางส่วนจำนวนมากต้องเทให้นายสุชาติแน่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าวันโหวตเลือกนายกฯ จะได้เข้าสภาหรือไม่ จึงอย่าประมาทกับการตัดสินใจของประชาชน ชนวนการโหวตเลือกประธานสภา จะเป็นจุดเริ่มดึงให้ประชาชนลงถนนจนนำไปสู่การโหวตเลือกนายกฯ แบบย้ายขั้วผิดคำสัญญา และไม่มีความจริงใจกับประชาชน หลังจากนั้น บ้านเมืองจะไม่มีความปกติได้เลย” นายจตุพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี