“ศิธา”แจง“สุดารัตน์”ป่วย แพทย์สั่งรักษาตัว เปรยไม่ได้หวังเพื่อนส.ส.ลาออกให้ตัวเอง เชื่อโหวตเป็นไปตามขั้นตอนรัฐสภา ยกนะโม 3 จบ เปรียบพิธีกรรมโหวตนายกฯ
เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่รัฐสภา น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเลื่อนโหวตนายกฯ ในวันนี้ออกไป ว่า สภากำหนดและแบ่งเวลาไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อเปิดโอกาสให้อภิปรายแล้วกระทั่วเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกันนี้ ก็จะเป็นการโหวต
น.ต.ศิธา กล่าวว่า กระบวนการประชาธิปไตย ตั้งแต่การเลือกตั้งจบสิ้นไปแล้ว แต่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้ตามปกติ เพราะมีการฝัง ส.ว.เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ เกิดนิติสงครามทั้งที่ 39 ล้านเสียงของประชาชนได้เลือกตั้งมาแล้ว แต่เมื่อจะเลือกนายกฯ กลับไปอยู่ที่ 250 ส.ว.และอาจไม่ถึง 376 เสียง อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งการเลือกตั้งในอดีตเคยมีพรรคได้ 377 เสียง แต่ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา ดังนั้น จึงเป็นการเขียนกติกาขึ้น และกลายเป็นว่าคนที่คุมกุญแจ ที่จะไขเข้าทำเนียบอยู่ที่ ส.ว.250 คน จึงกลายเป็นว่าคนที่ประชาชนเลือกมา กลับไม่มีความหมาย
น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า หากโหวตไม่ผ่าน ก็จะใช้จิ๊กซอว์ 8 พรรคเดิม แล้วเปลี่ยนตัวบุคคล โดยจุดยืนของตน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกนายกฯ หรือประธานรัฐสภา หาก 2 พรรค ตกลงกันได้เราก็พร้อมที่จะโหวตให้คนนั้น ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเป็นใคร เนื่องจากคะแนนเสียงของทั้งสองพรรคใกล้เคียงกัน และยังต้องขึ้นอยู่กับ ส.ว.อีกว่า จะโหวตให้หรือไม่ และถ้าไม่ตกลง ก็อยู่ว่ากระบวนการที่สามจะเป็นอย่างไร ก็กลายเป็นว่าจะต้องหยิบพรรคใดพรรคหนึ่งออก หรือเอาพรรคนั้นพรรคนี้เข้ามา สลับกันไปวุ่นวาย จนกว่า ส.ว.จะพึงพอใจและอนุมัติให้ผ่าน
“เปรียบเหมือนพิธีกรรมที่จะต้องมีการท่องนะโม 3 จบ จบที่ 1 คือ เป็น 8 พรรคร่วมและคุณพิธา จบที่ 2 เป็น 8 พรรคร่วม กับอีก 3 คนของพรรคเพื่อไทย แล้วจะไปถึงจบที่ 3 หรือไม่ ซึ่งจบที่ 3 นี้กลายเป็นว่า จะต้องหยิบพรรคใดพรรคหนึ่งออก โดยมีพรรคใดสมัครใจไปเป็นฝ่ายค้าน แล้วเอาพรรคอื่นเข้ามาแทน ถ้าเป็นแบบนี้ผมมองว่า ขั้วอำนาจเดิม ซึ่งมาจากการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร จะเข้ามายุ่งเหยิงกับประชาธิปไตย กับการแก้รัฐธรรมนูญ และเรื่องขององค์กรอิสระก็จะเข้ามาวุ่นวายอีก ดังนั้น หากเราไม่เล่นในเกมที่เขาเขียนไว้ เราก็ต้องเปลี่ยนเกมใหม่ เพื่อให้เขามาเล่นเกม ประชาธิปไตยบ้าง โดยให้ 2 พรรคจับมือกัน และยืนยันว่าจะไปด้วยกัน เพราะถึงอย่างไรคะแนนในสภาผู้แทนราษฏร ก็ยังเป็นเสียงข้างมากอยู่ดี และหากส.ว.จะโหวตเสียงข้างน้อยให้ไปเป็นรัฐบาล กลไกในการบริหารก็จะมีแค่ 10 กว่าเดือน ไม่ถึง 1 ปี กระทั่ง ส.ว.หมดวาระ และเขาคงคิดได้เองว่าแรงกดดันทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่เห็นว่าประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนเลือกรัฐบาลไม่ได้เสียทีก็ไปอยู่ที่คนลงคะแนน แต่ถ้าไปเล่นในเกมที่ว่า ดึงพรรคนั้นออก พรรคนี้ออก ก็จะกลายเป็นว่าช่องทางในการสืบทอดอำนาจไปอีก” น.ต.ศิธา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มองว่าการเลื่อนโหวตออกไปมีความจำเป็นหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของรัฐสภาและสมาชิกทั้งหมดว่าจะลงมติอย่างไร แต่ตนเชื่อว่า เมื่อรัฐสภามีการกำหนดขั้นตอนแล้วก็คงดำเนินการไปตามนั้น แต่ถ้าเลือกไม่ได้แล้วจะไปนัดกันใหม่ ในวันที่ 19 ก.ค.ก็แล้วแต่ ถือเป็นสิทธิ์ของรัฐสภา
เมื่อถามว่า มี ส.ว.กว่า 80% ที่ปิดสวิตช์ตัวเอง คิดว่าจะเป็นทางออกที่สง่างามของวุฒิสภาหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า ต้องแยกก่อนว่าปิดสวิตช์หมายถึงอะไร เพราะถ้าบอกว่าการปิดสวิตช์โดยการไม่ออกเสียง ก็คือการเพิ่มปริมาณ คะแนนกึ่งหนึ่งให้สูงขึ้นไป แต่ทำไมไม่เสนอว่า ส.ว.ไม่ต้องโหวต หรือให้โหวตแค่สภาผู้แทนราษฎร 500 คน แต่กลับมาบอกว่าปิดสวิตช์ด้วยการโหวตทั้ง 250 คน ด้วยคะแนนนึ่งหนึ่ง ก็ไม่ใช่การปิดสวิตช์แล้ว แต่เป็นการพูดเพื่อลดแรงเสียดทาน จากภาคประชาชนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกรุยาพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กำชับลูกพรรคอย่างไรหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ค่อยสบาย และช่วงนี้มีอาการเครียด จึงต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อเข้ารักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์ ที่ได้ขอเลื่อนมาหลายหนแล้ว จึงได้ขอลาออกและได้มีการเลื่อนลำดับ โดยเป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์ที่ให้เข้ารับการรักษา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวคิดหรือไม่ว่ากรณีการเลื่อนลำดับของ ส.ส.พรรค ทสท.เพื่อนสมาชิกพรรคจะลาออกให้ถึงลำดับของ น.ต.ศิธา ได้เป็น ส.ส. น.ต.ศิธา กล่าวว่า ไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น และไม่ใช่นิสัยของตนที่จะให้ใครมาลาออก เพื่อจะให้ตนได้ตำแหน่ง ลำดับบัญชีรายชื่อของพรรค ตนเองจะอยู่ลำดับที่เท่าไรก็ได้ และไม่ได้ต้องการที่จะให้ใครมาลาออกเพื่อตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสิ่งที่คนที่ได้เป็น ส.ส.อยากได้ตำแหน่ง แล้วไม่อยากเสียไป ก็ควรให้เขาเป็น ไม่ต้องมาลาออกให้ตน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี