‘พิธา’ระทึก!
คดีถือครองหุ้นสื่อ‘ไอทีวี’
กรรมการไต่สวนกกต.
พิจารณาสำนวนจบแล้ว
ปธ.กกต.มั่นใจชี้แจงได้
คำถามศาลคดีทุจริตฯ
กกต.พร้อมชี้แจงศาลอาญาคดีทุจริตฯที่สั่งให้ตอบ 8 ประเด็นปม “พิธา” มีลักษณะต้องห้ามสมัคร-กระบวนการจัดเลือกตั้ง ย้ำไม่หนักใจ ยันหลังปิดรับสมัครไม่มีหน่วยงานไหนรายงานพิธาถือหุ้นไอทีวีโดยมีผู้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบตอนหลัง 3 รายชี้ขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครสส. 5 พันคนเหมือนกันทุกคนส่วนคืบหน้าเอาผิดตามมาตร 151 กก.ไต่สวนพิจารณา เรื่องอยู่ที่สำนักงานฯแล้ว
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจง 8 ประเด็นเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเลือกตั้ง และกรณีมีมติว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งว่า เบื้องต้นทราบข่าวศาลฯให้กกต.ชี้แจง 8 ประเด็น แต่ขณะนี้หนังสือยังมาไม่ถึง อยู่ระหว่างกระบวนการสำนักงานฯว่า 8 ประเด็นนั้น กกต.จะตอบอะไรบ้าง แต่ขอให้มั่นใจว่ากกต.จะตอบครบทั้ง 8 ประเด็น และไม่คิดว่ามีอะไรหนักใจ ส่วนรายละเอียดรอสำนักงานฯเสนอขึ้นมา
ส่วนที่มีประเด็นคำถามว่ากกต.เคยได้รับทราบหรือมีการชี้แจงจาก นายพิธา เรื่องการถือหุ้นไอทีวี เมื่อครั้งนายพิธาเป็นส.ส.ปี 2562 หรือไม่นั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า กกต.ยังไม่ได้รับแจ้งอะไร จึงยังไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครส.ส. 5 พันคนด้วยกระบวนการเดียวกันคือ มีหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านต่างๆ และถ้าได้รับผลมาแล้วพบว่ามีลักษณะต้องห้ามก็จะพิจารณาไม่ประกาศชื่อ แต่ถ้าไม่มีลักษณะต้องห้ามก็จะประกาศชื่อ และมีกระบวนการที่ว่าเราประกาศชื่อไปแล้ว พบว่ามีลักษณะต้องห้ามก็จะถอนชื่อได้ ซึ่งก็ดำเนินการเหมือนทุกครั้ง สำหรับกรณีการถือหุ้นของนายพิธามีผู้มาร้องเรียนภายหลัง 3 ราย แต่ตอนที่ กกต. ตรวจคุณสมบัติไม่มีหน่วยงานไหนรายงานมาว่าพบนายพิธาถือหุ้น
นายอิทธิพรยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนเอาผิดนายพิธา กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังลงสมัครตามมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ซึ่งทราบว่าส่งเรื่องมาให้สำนักงานฯ ซึ่งเมื่องานของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนดำเนินการเสร็จแล้ว ก็จะส่งมายังส่วนกลางที่มีเลขาธิการ กกต. และก่อนส่งเรื่องมาให้กกต.พิจารณา ต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยและคดี ซึ่งทราบว่าขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงานแล้ว
ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยอง เขต 3 แทนนายนครชัย ขุนณรงค์ ส.ส.พรรคก้าวไกลว่าหลังมีประกาศกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งส.ส.ระยอง เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่างตามกฎหมาย เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาแล้ว กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครอย่างน้อยไม่เกิน 5 วัน ซึ่งวันที่ 11 สิงหาคมนี้ กกต.จะประชุมว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัครวันที่เท่าไหร่ โดยสำนักงานฯ จะเสนอให้ประกาศวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566 และวันรับสมัครคือ 15-19 สิงหาคม 2566 แต่ต้องยืนยันในการประชุมวันที่ 11 สิงหาคม
เมื่อถามว่า มีการตั้งกรรมการเพื่อเอาผิดมาตรา 151 กับนายนครชัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ได้พูดคุยแล้ว ที่ประชุมขอให้สำนักงานฯไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ส่วนเรื่องค่าชดใช้จัดการเลือกตั้งก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา สามารถใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ว่าด้วยการละเมิด สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง นายอิทธิพรกล่าวว่า นับจากวันที่ปิดรับคำร้องเรียน พบมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 350 เรื่อง ถือว่าน้อยกว่าปี 2562 ซึ่งมี 592 เรื่อง ขณะนี้ได้พิจารณาไปแล้วกว่า 50% โดยในระเบียบการสืบสวนไต่สวนของกกต.ได้ระบุระยะเวลาพิจารณาคำร้องว่าต้องเสร็จสิ้นถึงขั้นทำคำวินิจฉัยภายใน 1 ปี และเร็วๆนี้จะออกประกาศระยะเวลาดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง ซึ่งระบุไว้ชัดว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนปี 2566 มีหลายประเด็น ส่วนใหญ่ เป็นมาตรา 73 (1) ซึ่งเป็นเรื่องการซื้อเสียง ใส่ร้าย รวมถึงเรื่องหาเสียงหลอกลวง และเรื่องอื่นๆ เช่น ป้ายหาเสียง ซึ่งเป็นประเด็นไม่ต่างจากที่มีการร้องเรียนเมื่อปี 2562
วันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล(ก.ก.) เดินทางเข้าสภาเป็นครั้งแรก หลังศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายพิธา กล่าวถึงคดีถือหุ้นไอทีวี ว่า ศาลรัฐธรรมนูญและกกต.ยังไม่ได้ติดต่อมา ซึ่งยังรอชี้เเจงอยู่ ส่วนกรณีคดีแก้ไขมาตรา112 ที่เป็นการล้มล้างการปกครองและศาลรับเรื่องดังกล่าว ไว้แล้วนั้น นายพิธา ระบุได้มีการขยายเวลาเพื่อไปชี้แจง โดยให้ฝ่ายกฎหมายของพรรครับผิดชอบ ทั้งนี้ นายพิธา บอกว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เข้ามายังรัฐสภา นับจากศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่วันที่ 19กรกฎาคม จึงต้องการมากินของโปรดและอาหารที่ชอบ ก่อนจะเดินไปซื้อน้ำมะพร้าวกับไอศกรีม โดยปกติทอปปิ้งจะใส่ข้าวเหนียว แต่ว่าหมดจึงใส่ลอดช่องแทน โดยออกตัวว่า ไม่มีนัยทางการเมืองที่หมายถึงจะลอดช่องใดหรือไม่ จากนั้น นายพิธา ได้เป็นนั่งกินไอศกรีม พร้อมพูดคุยกับสื่อมวลชน