ยกฟ้องเทพเทือก
คดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก
เจ้าตัวเล็งฟ้องกลับ‘ปปช.’
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายืนยกฟ้อง 6 จำเลยในคดีฮั้วประมูลก่อสร้างโรงพักและแฟลตที่พัก “สุเทพ” ระบุมั่นใจมาตลอด วันนี้ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ชัดเจนแล้ว ภูมิใจในชีวิตเป็นนักการเมือง ไม่เคยทุจริต แม้ถูกรุมใส่ร้าย เผยเตรียมปรึกษาทีมกฎหมายฟ้องป.ป.ช.
เมื่อวันที่ 22สิงหาคม 2566 ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดีฮั้วประมูลก่อสร้างโรงพักและแฟลตที่พัก หมายเลขดำ อม.อธ.11/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ พร้อมพวก เป็นจำเลยที่ 1 - 6 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก หรือแฟลตตำรวจ จำนวน 396แห่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิเคราะห์เเล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 6 ราย ไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง ต่อมา ป.ป.ช.โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย
ต่อมา นายสุเทพ เดินทางมาถึงศาลฎีกา โดยเปิดเผยว่า ในศาลฎีกาชั้นต้น ศาลมีคำพิพากษาว่าไม่มีความผิด ตามที่ ป.ป.ช.กล่าวอ้าง เดิมที เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญามีคำพิพากษา ถือว่าคดีความสิ้นสุด แต่ว่ามีการแก้กฎหมายให้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งวันนี้จะเป็นศาลสุดท้ายแล้ว ต้องรอฟังว่าคำพิพากษาของศาลจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่มีความกังวลและมั่นใจ เนื่องจากที่พวกตนออกมาเดินขบวนเพราะต่อต้านการคอรัปชั่น ยืนยันว่าไม่ประพฤติปฏิบัติอะไรที่เป็นการทุจริตคอรัปชั่นแน่นอน แต่หากผลการพิจารณาคดีเป็นอย่างไรก็นึกถึงคำพระอย่างเดียวว่า “ตถตา มันเป็นอย่างนั้นเอง”
ด้าน นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เปิดเผยว่า คดีชั้นอุทธรณ์ของศาลฎีกาฯ ถือว่าเป็นชั้นสุดท้ายแล้ว ส่วนความมั่นใจนั้นทั้งทีมทนายและนายสุเทพ ก็มั่นใจ ไม่มีความกังวล ไม่มีความตื่นตระหนก เพราะกระบวนการต่างๆ ได้ผ่านมาหมดแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้นำเสนอต่อศาลไปหมดแล้วและได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ หลังรอคอย ป.ป.ช.สอบสวนมานานกว่า 10 ปี วันนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการ และในชั้นนี้ไม่มีการยื่นพยานเพิ่มเติมใดๆ เรายังคงเชื่อมั่นในความยุติธรรมตามที่ได้ต่อสู้มาตั้งแต่แรก
ต่อมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายืนยกฟ้องนายสุเทพ กับพวก 6คน
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองในขั้นอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาว่า ตนและจำเลยคนอื่นๆ ที่ถูกป.ป.ช. ฟ้อง ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด ใครที่เคยกล่าวหาสงสัยตนมาเป็น 10 ปี วันนี้ก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนแล้ว ตนขอใช้โอกาสนี้กราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ที่หวังดีทั้งหลาย คนที่เคารพนับถือที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวตนมาโดยตลอด และได้ให้กำลังใจ และที่มาให้กำลังใจที่นี่ในวันนี้ ตนขอกราบขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจ
“ผมมีความภาคภูมิใจในชีวิตที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยทำทุจริต ไม่เคยทำการคอร์รัปชั่นใดๆ แม้จะถูกรุมใส่ร้าย ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นงานตัวผมเอง ท้ายที่สุดกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็ได้ให้ความเป็นธรรมกับผม สมกับที่ผมเคารพในหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพในศาลยุติธรรม ผมจึงคิดว่ากรณีนี้ เป็นอุทาหรณ์ที่ผู้ใช้อำนาจทั้งหลาย ควรจะต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างยิ่งวันนี้ คือคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งดูข้อเท็จจริงดีทุกอย่าง แต่ก็ยังดำเนินคดีกับตน ทั้งที่ศาลฎีกา แถลงคดีอาญา ตัดสินแล้วว่าผมไม่มีความผิด ก็ยังยื่นอุทธรณ์อีก จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช. พิจารณาตนเอง สร้างความเสียหายให้กับผม ทำให้ตนเดือดร้อนมาเป็น 10 ปี เสียชื่อเสียเสียงไม่รู้เท่าไหร่” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่ามองไปถึงขั้นตอนการฟ้องร้องหรือเรียกร้องให้เกิดการเยียวยา ในความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เยียวยาหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเรียกร้อง แต่จะปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมาย ถ้ามีช่องทางที่จะดำเนินคดีกับป.ป.ช.ได้ จะดำเนินคดี ไม่ใช่ความโกรธเคืองแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ถูกทาบทาม จะหวนคืนสู่เส้นทางหนึ่งทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ครับ เมื่อตัดสินใจ ออกจากสส. มาเดินนำขบวน ตนก็ได้ประกาศกับพี่น้องประชาชนแล้ว ตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเองตนทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นไม่เอาชื่อเสียงความสำเร็จและผลพลอยได้โอนมาเป็นคะแนนเสียงของตัวเองในทางการเมือง ขนาดตนประกาศอย่างนี้และเลือกได้มา 2 ครั้งก็ยังมีคนมาด่าตนอยู่ทุกวัน แต่ก็ต้องอดทนพี่น้องประชาชนที่สนใจการเมืองหรือนักการเมืองดีๆก็ดูกรณีของตนและบอกตัวเองว่าให้อดทนดีที่สุด
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนานมีอะไรฝากถึงนักการเมืองที่ยังคงติดอยู่ในวังวนเกมการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ผมเรียนได้อย่างเดียวว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้น การมาเป็นนักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักสัมมาทิฏฐิ คือต้องมีความคิดความเห็นที่ถูกต้อง มาทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ไม่ใช่ทำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ของพวกพ้องหรือแม้แต่พรรคตัวเองถ้านักการเมืองยึดหลักนี้ จะเป็นนักการเมืองที่ควรค่าแก่การส่งเสริมประชาชนก็สามารถพึ่งพาได้ แต่ถ้านักการเมืองคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ละเลยผลประโยชน์ของชาติไม่คิดถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติโดยส่วนรวม นักการเมือง เหล่านั้นก็ไม่สมควรจะเป็นนักการเมืองที่เราให้ความสนใจ หรือไปยกย่องสรรเสริญมองว่าไม่สมควร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี