ป.ป.ช.ชี้มูล 2 อดีตผู้ว่าฯมุกดาหาร-อุบลราชธานี "ชาญวิทย์-สุรพล"ปมทุจริตจัดซื้อยาฆ่าแมลง พร้อมชี้มูล"อุทิศ ชูช่วย"อดีตนายกอบจ.สงขลา ทุจริตจ้างทำคู่มือเลือกตั้ง และอดีตนายกอบต.เชิงทะเล เอื้อเอกชนสร้างอาคารโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชาญวิทย์ วสยางกูร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมพวก กรณีดำเนินการออกประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) โดยมิชอบ และร่วมกันทุจริตการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ 2553 - 2555 จำนวน 10 ภัย หรือ 10 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 165,467,260 บาท โดยเล็งเห็นผลประโยชน์อันเกิดจากส่วนต่างของราคาที่กำหนดให้จัดซื้อและราคาตลาด ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย
และชี้มูลความผิดนายชาญวิทย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมพวก กรณีออกประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) โดยมิชอบ และร่วมกันทุจริตการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ 2554 - 2555 จำนวน 11 ภัย หรือ 11 ครั้ง วงเงิน 114,366,250 บาท ทั้งที่ไม่มีภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้นจริง โดยพบว่าไม่ได้เกิดการระบาดรุนแรงของโรคในพื้นที่ แต่เป็นการเกิดโรคพืชตามปกติของฤดูกาลเท่านั้น และการจัดซื้อสารเคมีมีการซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาที่จำหน่ายตามท้องตลาด ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 58,588,983 บาท
ซึ่ง ป.ป.ช.เห็นว่า การกระทําของนายชาญวิทย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 90 และมาตรา 91 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หรือข้อกล่าวหาตกไป ตามแต่พฤติการณ์แห่งกรณี
ส่วนการกระทำของกลุ่มเอกชนผู้ขายสารเคมี ที่มี นายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล เป็นตัวการ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ส่วนการกระทำของ น.ส.ชฎาพร ศุภสรรพตระกูล มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิด นายสุรพล สายพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมพวก กรณีทุจริตในการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ปีงบประมาณ 2555 โดยไม่มีภัยระบาดฉุกเฉินเกิดขึ้นจริง และเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มเอกชนผู้ประกอบการบางราย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการในปีงบประมาณ 2555 รวมทั้งสิ้น 539,245,050 บาท ซึ่ง ป.ป.ช.เห็นว่า 1.การกระทำของนายสุรพล มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 91 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
การกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ มีมูลความผิดทางอาญา และความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หรือข้อกล่าวหาตกไป ตามแต่พฤติการณ์แห่งกรณี ส่วนการกระทำของ นายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 149 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 และกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ
โดยทั้งหมด ป.ป.ช.ได้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ ส่งรายงานสํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคําวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว รวมทั้งให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และให้แจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของกลุ่มบริษัทเอกชนให้กรมบัญชีกลางดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช.ยังมีชี้มูลความผิด นายอุทิศ ชูช่วย เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมพวก กรณีจัดจ้างทําคู่มือการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาสําหรับประชาชน ในราคาสูงเกินจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับจ้าง เมื่อปี พ.ศ.2556 โดยเห็นว่าการกระทำของนายอุทิศ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79
2.ส่วน นายสํารวม รักษาพราหมณ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 ความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.เฉลียว จันทรัตน์ หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนการกระทำของห้างหุ้นส่วนจํากัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ นางสาวบุศย์แก้ว ศิริมุสิกะ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจํากัด ปานปั้น พาณิชย์ เซ็นเตอร์ และนางสมจิตร์ หรือ สรวรรณ ศิริมุสิกะ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
และยังมีมติชี้มูลความผิด นายมาแอ่น สำราญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล พร้อมพวก กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีละเว้นไม่ดำเนินการกับอาคารโครงการ New Nordic Phuket Water World ซอยเชิงทะเล 14 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเห็นว่า การกระทำของ นายมาแอ่น สำราญ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 266 (1) และตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 มาตรา 123/ และมีมูลความผิดฐานกระทำการ ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วน นายกรีฑายุทธ์ พิบูลย์ และนายรองฤทธิ์ ไชยหานาม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 266 (1) และตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 มาตรา 123/1 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง นายอรรถวิท กุมชพร มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 161 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 266 (1) และตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 โดยให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย และส่งเอกสารหลักฐานพร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ โดยมีข้อสังเกตว่า ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร เลขที่ 037/2560 ที่มีการตกแต่งแก้ไขทำขึ้นใหม่ย่อมเป็นเอกสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคารต้องดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปโดยถูกต้อง และมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ก่อสร้างโดยอาศัยใบอนุญาตดังกล่าวที่มิชอบด้วยกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีเป็นทางการ ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี