อัยการแจงคดี‘อิทธิพล คุณปลื้ม’
ไม่นับอายุความ
จี้ปปช.ออกหมายจับฉบับใหม่
ยึดตามพรป.ปปช.ฉบับปี2561
ต้องขอให้ศาลระบุในหมายเหตุ
ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปเมื่อใด
รองโฆษกอัยการเผย อธิบดีอัยการปราบทุจริตฯส่งหนังสือด่วนถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.ขอให้ศาลออกหมายจับ “อิทธิพลคุณปลื้ม”ฉบับใหม่ ชี้พ.ร.ป.ป.ป.ช.ปี 2561 ไม่ให้นับอายุความต้องให้ศาลทราบเเละระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับว่าหลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด
ความคืบหน้ากรณี นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรมถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลกระทำความผิดส่งอัยการฟ้อง เมื่อครั้งดำรงตำเเหน่งนายกเมืองพัทยา ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 เเละอัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอัยการไม่ถึง 1 เดือน และคดีจะขาดอายุความครบ 15 ปีในวันที่ 10 กันยายนนี้ โดยมีข่าวว่านายอิทธิพลได้หนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 7กันยายน 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา นายคำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง ขอให้ดำเนินการออกหมายจับใหม่ ถึง เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ความว่าสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือขอให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เพื่อขอออกหมายจับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม, นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ , นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย ,นายญัติพงค์อินทรัตน์ และนายเอกพงษ์ บุญชาย ผู้ต้องหาที่ 1-4 ,6 เนื่องจากผู้ต้องหาที่ 1,2,3,4,6 มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 10.00 น. และตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านได้แจ้งผลการดำเนินการขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค2 โดยแจ้งว่าศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1,2,3 และมีคำสั่งยกคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 4,6 นั้น
กรณีศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-3 นั้น พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 2พิจารณาแล้วเห็นว่า ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 7บัญญัติไว้ว่า “…ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไป ในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ…” ประกอบมาตรา 13 แห่ง พรบ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ศ. 2559 และตามหนังสือที่อ้างถึง (1) พนักงานอัยการ ได้แจ้งให้ท่านดำเนินการขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาโดยขอให้ท่านขอให้ศาลระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด ตามสำเนาตัวอย่างหมายจับที่พนักงานอัยการแนบไปพร้อมกับหนังสือที่อ้างถึง (1) แต่ปรากฎว่าตามสำเนาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2ที่ จ. 23-25/2566, ลงวันที่ 5 กันยายน 2566นั้น ศาลไม่ได้ระบุหมายเหตุดังกล่าวไว้แต่อย่างใด
ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 2 จึงขอให้ท่านดำเนินการขอออกหมายจับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ,นายพิเชษฐ์ อุทัยวัฒนานนท์ และ นายวิทยา ศิรินทร์รชัย ผู้ต้องหาที่ 1-3 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยขอให้ท่านขอให้ศาลระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด
สำหรับกรณีนายญัติพงค์อินทรัตน์ และนายเอกพงษ์ บุญชาย ผู้ต้แงหาที่ 5-6 ที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอออกหมายจับนั้นเนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดอายุความฟ้องร้องในวันที่ 8 กันยายน 2566 ดังนั้น จึงขอให้ท่านมีหนังสือแจ้ง นายญัติพงค์อินทรัตน์ และนายเอกพงษ์ บุญชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ให้มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 โดยให้พนักงานไต่สวนผู้ประสานงาน (นายอภิรัฐ คงเจริญ นำตัวผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ไปส่ง และยืนยันตัวผู้ถูกกล่าวหาต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในวันที่ 7 กันยายน เวลา 10.00 น. เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาที่ 4,6 เตรียมหลักประกันเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ในชั้นศาลด้วย
นายโกศลวัฒน์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีการถกเถียงกันเรื่องปัญหาอายุความ สะดุดหยุดลงหรือไม่หากมีการหลบหนี เพราะคดีนี้เกิดก่อนกฎหมายปราบปรามการทุจริตแก้ไข อัยการจึงเห็นว่าอำนาจในการออกหมายจับเป็นของศาล จึงควรดำเนินการให้ชัดเจนเสนอให้ศาลเพื่อโปรดพิจารณา จะได้เป็นแนวทางให้ผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่กันได้อย่างถูกต้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี