12 ก.ย.66 บนทวิตเตอร์ พรรคเพื่อไทย Pheu Thai Party ได้โพสต์ข้อมูลการชี้แจงของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมภาพกราฟฟิคชี้แจงนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet คือ นโยบายธงหลัก นโยบายหนึ่งของรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้ 2 หลักคิด ได้แก่
หลักคิดที่ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ : ด้วยกลไกของ Blockchain ที่สามารถเขียน contract กำหนดกรอบการใช้จ่ายเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ เพราะฉะนั้น หลักคิดของนโยบายนี้ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะอยู่ในจุดใดของประเทศก็ตาม
หลักคิดที่ 2 สร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย : เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคน ในอนาคตจะสามารถมีกระเป๋าเงิน 2 กระเป๋า 1) กระเป๋าเงินสด 2) กระเป๋าเงินดิจิทัล
ซึ่งจะสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานนี้รองรับ จนกระทั่งประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจดิจิทัลของโลกได้ เป็นโอกาสที่กำลังจะมาถึง และเราจะต้องคว้าให้ได้ผ่านโครงการนี้
แหล่งที่มาของงบประมาณ : ยึดมั่นในกรอบวินัยทางการเงินการคลังเป็นหลัก เราจะไม่มีการแตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนวายุภักษ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือกองทุนประกันตน
ในส่วนเหล่านี้เรารู้ถึงวัตถุประสงค์ของกองทุนและเม็ดเงินนั้นดี เราจะไม่มีกระบวนการเข้าไปแตะต้องมัน และเราไม่ได้เริ่มแม้แต่จะคิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวเน็ตเข้าไปตั้งประเด็นคำถามกลับไปยังพรรคเพื่อไทย และนายจุลพันธ์ แบบรัวๆคล้ายๆกันว่า ตอบคำถามหน่อย จะเอาเงินมาจากไหน,พิมพ์มาซะยาวแต่อ่านไม่เห็นว่าสรุปเอาเงินมาจากไหน, ทำไมถึงโฟกัสการแจกเงินที่กระตุ้นเยอะแต่ระยะสั้น ทำไมไม่โฟกัสที่ค่าแรง เงินเดือน พร้อมกดค่าครองชีพไม่ให้สูงขึ้นพร้อมกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น คนทำงานเดือดร้อนหมดของแพงมาก,ก็ยังไม่ตอบสักทีว่าเอางบมาจากไหน, สรุปแล้ว? แหล่งเงินมาจากไหนคะ ขอชัดๆ แบบ 4880 HD ไม่เกิน 2 บรรทัด ,แล้วเอาเงินจากไหน เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี