รบ.คลอดแพ็กเกจใหญ่แจกปชช.
‘เศรษฐา’จัดให้
ลดค่าไฟ-ลดดีเซล2.50บ./ลิตร
ตรึงก๊าซหุงต้ม423บาท
พักหนี้ให้เกษตรกรSME
จ่ายเงินเดือนขรก.2รอบ
ฟรีวีซ่า‘จีน-คาซัคสถาน’
“นายกฯเศรษฐา” แถลงผลมติ ครม.นัดแรก เคาะจัดแพ็กเกจใหญ่เอาใจประชาชน ลดค่าไฟ เหลือ 4.10 บาท-น้ำมันดีเซลต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร มีผลกันยายน-พักหนี้เกษตรกร-ธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี-ปรับจ่ายเงินเดือน ขรก.2 รอบ-ไฟเขียวฟรีวีซ่าให้ “จีน-คาซัคสถาน” มอบ “ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะฟังคณะกรรมการฟังความเห็นคําถามประชามติ ชงแก้รธน.ฉบับปชต. ยันไม่แตะหมวดกษัตริย์“พีระพันธุ์”ดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท-
เตรียมปรับลดเบนซินให้กลุ่มเปราะบางใช้ประกอบอาชีพ พร้อม ปรับลดค่าไฟลง30สต.ตรึงราคาก๊าซหุงต้มขนาดถัง15กก.เหลือ423บาท‘สุทิน’เอาฤกษ์เอาชัย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ แจง ตั้ง2 อดีตเลขาฯสมช.ในกห.แจงมีคุณสมบัติ ยันไม่มีคน ตระกูลชินวัตร
เมื่อเวลา 11.50น.วันที่ 13กันยายน2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติ ครบรอบ 72 พรรษาครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี2567 เพื่อให้สมพระเกียรติ แล้วขอให้ประชาชนมีส่วนร่วม เรื่องที่2 ช่วยแก้ไขความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญปี2560 มีมติเห็นชอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติโดยยึดเอาแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ และใช้เวทีรัฐสภาเป็นการหารือแนวทางรูปแบบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและประจำมติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน
ครม.เคาะแพ็กเก็จช่วยเหลือปชช.
เรื่องที่ 3 วีซ่าฟรีชั่วคราวคือยกเลิกการขอเข้าประเทศไทยของประเทศจีนและคาซัคสถาน ซึ่งการที่ให้คาซัคสถานเข้าฟรีวีซ่านั้นเนื่องจาก เพราะเป็นชาติที่อยู่ในเขตยุโรปที่มีสภาพอากาศฤดูหนาวรุนแรง และเป็นประเทศที่มีประชาชนจ่ายเงินเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25กันยายน ถึง 29 กุมภาพันธ์2567 เป็นต้นไป พร้อมยืนยันว่า เป็นการฟรีวีซ่าชั่วคราว การดำเนินการดังกล่าวได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นและการท่าอากาศยานเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกภาคส่วนพร้อมรองรับ เรื่องที่4 มีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์Power แห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย โดยจะเป็นการดึงศักยภาพของชาวไทยทุกคนออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้และโอกาสให้กับประชาชนคนไทย ที่รัฐบาลหาเสียงไป เพื่อเป็นการดึงศักยภาพและโอกาสให้กับประชาชนคนไทย เรื่องที่5 การพักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็กเป็นระยะเวลา 3ปี
นอกจากนี้ ยังมีมติให้เปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละ1รอบ เป็นเดือนละ2รอบที่คาดว่า จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1มกราคม2567เป็นต้นไป เพราะต้องแก้ไขระบบในอีกหลายอย่าง ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้พอสมควร เพราะการจ่ายเงินเดือนละ2รอบ จะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือคอยให้ถึงสิ้นเดือน
นอกจากนี้ จะลดค่าไฟฟ้า 4.10บาทต่อกิโลวัตต์ต่อ 1ชั่วโมง จาก 4.45 บาท ซึ่งเชื่อว่าเยอะกว่าที่ประชาชนคาดการณ์ไว้ โดยเริ่มต้นรอบบิลเดือนกันยายนเป็นต้นไป รวมถึงลดราคาค่าน้ำมันดีเซล ให้ต่ำกว่า 30บาทต่อลิตร คาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 20กันยายน-31ธันวาคม2566 ส่วนเบนซินได้มีการพูดคุยกัน แต่ต้องดูให้ดีถึงผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ ซึ่งเดี๋ยวจะมีมาตรการออกมา
นายกฯปธ.ซอฟต์เพาเวอร์-อุ๊งอิ๊งนั่งรอง
นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ถึงกรณีการผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ประกาศเมื่อตอนหาเสียงไว้ว่าซอฟต์เพาเวอร์เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยได้เล็งดำเนินการ โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ ซึ่งเราปูเรื่องรายได้ว่ารายได้ขั้นต่ำของผู้ที่เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนเงิน 2หมื่นบาทต่อเดือนและการสร้างตำแหน่งงานของแรงงานทักษะสูง20ล้านตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องใหญ่ นายกฯจึงสั่งให้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ซึ่งจะทำหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์เพาเวอร์ประเทศไทย ซึ่งมีนายกฯนั่งเป็นประธาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นรองประธาน นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นที่ปรึกษา และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ผู้ดำเนินการประสานงานคือ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ลดค่าไฟ4.45เหลือ4.10บ.ต่อหน่วย
นสพ.ชัย แถลงด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 เหลือ 4.10 บาทต่อหน่วย หรือลดลง 35 สตางค์ ขณะนี้การใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศรวม 540ล้านหน่วยต่อวัน จึงทำให้เกิดการประหยัดได้189 ล้านบาทต่อวัน ด้วยการชะลอการนำส่งภาระหนี้กับ กฟผ.นอกจากนี้ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากปัจจุบัน 32บาทต่อลิตร เหลือไม่เกิน 30บาทต่อลิตร จากการใช้น้ำมันดีเซลทั้งประเทศ 74 ล้านลิตรต่อวัน โดยเริ่มหลังวันที่ 20ก.ย.66 หรืออีก 12วัน การลดภาระน้ำมันดีเซล 148 ล้านบาท รวมทั้งสองส่วน ประหยัดต้นทุนหรือภาระประชาชน 300ล้านบาทต่อวัน
มอบ‘ภูมิธรรม’หัวโต๊ะทีมศึกษาแก้รธน.
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติแก้ปัญหาความเห็นต่างเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่ง ครม.มีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนจะแก้ไขอย่างไรให้เป็นไปตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ ที่พรรคเพื่อไทยเคยยื่นแก้ไขไปแล้วสองวาระ แต่ติดคําสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้เอากลับไปฟังความเห็นของประชาชน ดังนั้น ในรอบนี้จึงจะต้องมีการทำประชามติ ให้ประชาชนมีส่วนแสดงความเห็น ว่าประชามติควรมีคำถามอะไรบ้าง ไม่ใช่ว่าเราคิดเอง แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม เมื่อได้แนวทางแล้ว จึงจัดทำประชามติ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องมีข้อสังเกต ว่าการแก้ไขครั้งนี้ต้องมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และต้องไม่แก้หมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางแก้รัฐธรรมนูญที่จะถามความเห็นประชาชนก่อนตั้งเป็นคำถามประชามติ จะใช้วิธีการอย่างไร นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า นายกฯ แต่งตั้งให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการเชิญชวนตัวแทนประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นเพื่อให้ได้ความเห็นร่วมกันว่าควรตั้งประเด็นถามประชามติอย่างไร เพราะการทำประชามติแต่ละครั้งใช้งบหลายพันล้านบาท จึงต้องออกแบบให้ชัดเจนถามทีเดียวให้ได้เรื่อง ส่วนรายละเอียดจะคัดเลือกประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นอย่างไรยังไม่ทราบ แต่เรามีหลักการว่าให้ประชาชนมีส่วนร่วม เมื่อถามว่ามีกรอบระยะเวลาในการรวมความเห็นเพื่อตั้งคำถามประชามติหรือไม่ นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า นายกฯระบุให้ดำเนินการเร็วที่สุดโดยไม่ได้วางกรอบเวลาไว้
‘พีระพันธุ์’ย้ำมติ ครม.ช่วยปชช.
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานโพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการลดราคาพลังงานว่า วันนี้ในฐานะรมว.พลังงาน ตนได้เสนอเรื่องปรับลดราคาพลังงานต่อที่ประชุม ครม.ทันทีหลังเสร็จการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวาน โดยครม.รับทราบและเห็นชอบกับแนวทางของกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30บาท เบนซินเบื้องต้นจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบควบคุมค่าการตลาดไม่ให้เกิน 2บาทต่อลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารพลังงานอย่างจริงจัง ก็จะทำให้ราคาเบนซินลดลงได้ในระดับหนึ่ง และจะร่วมกับกระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดราคาเบนซินให้กลุ่มที่จำเป็นต้องใช้เบนซิน เพื่อการประกอบอาชีพที่เรียกว่ากลุ่มเปราะบาง เช่น มอเตอร์ไซด์รับจ้างและแท๊กซี่ โดยเร่งด่วนต่อไป ส่วนไฟฟ้าปรับลดจากหน่วยละ4.45บาทเหลือ 4.10 บาท โดยจะดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนอื่นต่อไปเพื่อหาทางปรับลดราคาค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกินหน่วยละ 4 บาท ส่วนก๊าซหุงต้มตามแนวโน้มตลาดโลกจะขึ้นทุกปลายปี เพราะเป็นฤดูหนาวทำให้ราคาก๊าซหุงต้มในประเทศไทยสูงตามไปด้วย แต่เราจะตรึงราคาไว้ที่ 423บาทสำหรับถังขนาด 15กิโลกรัม ราคาเดิมต่อไป
ลดภาษีน้ำมันดีเซลลง2.5บ/ลิตร
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.5บาทต่อลิตร เพื่อให้ระดับราคาน้ำมันอยู่ที่ 30บาทต่อลิตร (ปัจจุบัน31.99บาทต่อลิตร จะเหลือ 29.49 บาทต่อลิตร) เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยมีผลวันที่ 20กันยายน-31ธันวาคมนี้ ที่ประชุม ครม.ลดอัตราค่าไฟฟ้าลงจาก 4.45บาทต่อหน่วย เป็น 4.10บาทต่อหน่วย โดยใช้งบประมาณ 1.5หมื่นล้านบาท เพื่อยืดหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีผลทันบิลค่าไฟปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี2566
สุริยะ’ประสาน ทอท-ตม.รับฟรีวีซ่า
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่13 ก.ย. 2566 ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่า หรือเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่านั้น เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมได้ประสานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวก และลดความแออัด แก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกสนามบิน ทั้งนี้ ยืนยันว่า สนามบินต่างๆ ของ ทอท. อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินภูเก็ต มีความพร้อมที่จะรองรับผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในวันที่ 28 ก.ย. 2566 จะมีการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) โดยในวันที่ 29 ก.ย.นี้นั้น ตนจะลงพื้นที่ร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและคณะรัฐมนตรี ก่อนที่จะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อดูความพร้อมของสนามบินภูเก็ต รวมทั้งถนนที่อยู่ในความดูและรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) และโครงการทางพิเศษ (ทางด่วน) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ฯ ต่อไป
ดันนักท่องเที่ยวจีนเข้าเป้า5ล้านคน
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบยกเว้นการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานเป็นระยะเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งการยกเว้นการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยวจีนจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่มีอยู่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนถึงเป้าหมายที่ 5 ล้านคน ส่วนการยกเว้นการยื่นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวคาซัคสถานด้วยนั้น เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เมื่อถามว่า จะทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณไปเท่าใด น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า ไม่อยากให้ไปโฟกัสการจัดเก็บรายได้ที่สูญเสียไป แต่อยากให้โฟกัสรายได้ที่จะได้เข้าประเทศมากกว่า
’วิชาญ’ที่ปรึกษาฯ-เลขารมว.สธ.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีเรื่องแต่งตั้งข้าราชการฝ่ายการเมือง ที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ สธ.มติ ครม.เห็นชอบแล้ว โดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.เป็นที่ปรึกษา ส่วนเลขาฯ คือ น.ต.นพ.พลเทพ สุนทโร เป็นเลขาฯ ว่าการ สธ.ส่วนของท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ยังไม่เข้า ผู้สื่อข่าวถามกรณี ส.ส.พรรคก้าวไกลระบุว่า มีการหารือกับรมว.สาธารณสุข ถึงค่าเสี่ยงภัยโควิด-19ว่าเข้าวันนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้เข้า ที่เกี่ยวเนื่องค่าตอบแทนมีเฉพาะของเด็กแรกเกิดในเดือนก.ย.นี้ เมื่อถามถึงการแต่งตั้งอธิบดีกรมต่างๆ จะมีการเสนอเข้าเมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่มีการเสนอ โดยครม.มีการพิจารณาของกระทรวงเดียวกรณีแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง คือ ปลัดกระทรวงคลัง โดยต้องแต่งตั้งปลัดก่อน กระทรวงอื่นยังไม่เข้า ส่วนสธ.เสนอเดือนก.ย.แน่นอน
‘ไตรศุลี’เลขานุการมท.1
ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยได้แต่งตั้งให้ นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ สำหรับนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ เป็นอดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคภูมิใจไทย และอดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และอดีตรองโฆษกรัฐบาล ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
‘อนุทิน’ทำบุญ57ปีวัดราชบพิตรฯ
เวลา 07.00น.ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะผู้บริหาร ได้เดินทางมาทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 57 ปี โดยมีสมาชิกในครอบครัวและคนใกล้ชิดเข้าร่วม
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กราบสักการะพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ ก่อนตักบาตรพระสงฆ์ 41 รูป หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม นายอนุทิน เปิดเผยว่า “มาขอพรเนื่องในโอกาส วันคล้ายวันเกิด ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลบันดาล ให้คนไทยมีความสุขมีสุขภาพแข็งแรง ประเทศไทยไม่มีความขัดแย้ง ชาติไทยมีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง” จากนั้น นายอนุทิน เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในกระทรวงมหาดไทย ก่อนเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชุม ครม.ต่อไป
‘มหาดไทย’แบ่งงานลงตัว
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.มหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย มอบหมายอำนาจหน้าที่ให้ รมช.มหาดไทยปฏิบัติราชการแทน รมว.มหาดไทย ภายหลังจากที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566
โดยนายอนุทิน สั่งและปฏิบัติราชการ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมโยธาธิการและผังเมือง การประสานงานส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกำกับดูแลการประปานครหลวง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน และกำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และกำกับดูแลองค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย
ลุยคิกออฟจัดแถวผู้ว่าฯ18ก.ย.
“การมอบหมายอำนาจหน้าที่ในครั้งนี้ มุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทยตามพันธกิจ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้า โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รมว.มหาดไทย มีกำหนดมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดที่ทำงานใกล้ชิดพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ในวันจันทร์ที่ 18 ก.ย.นี้”โฆษกกระทรวงมหาดไทยย้ำ
ไฟเขียว2อดีตบิ๊กเลขาสมช.นั่งทีมงาน
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เดินถึงทำเนียบรัฐบาล โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย ก่อนเข้าร่วมประชุม ครม.จากนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ได้ขอพรให้งานสำเร็จราบรื่น ซึ่งทำเนียบฯ เป็นสถานที่หนึ่งที่ต้องเข้าทำงานเหมือนกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือว่าเวลา 07.50 น.เป็นฤกษ์ที่สะดวก เมื่อถามถึง กรณีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตี นโยบายของกองทัพที่ไม่มีความชัดเจน นายสุทิน กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับกองทัพได้เขียนไว้ชัดเจน ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียดที่กระทรวงกลาโหม เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องเขียนกว้างอยู่แล้ว และค่อยไปขยายความที่กระทรวง จนลงไปถึงเหล่าทัพอื่น หากจะให้เขียนครอบคลุมทุกเรื่องคงทำไม่ได้ รวมถึงการเข้าไปดูเรื่องงบลับ ซึ่งอยู่ในนโยบายเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงการบริหารงานด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้
เมื่อถามย้ำว่า มีนโยบายเรื่องใดที่ต้องทำทันทีภายหลังเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ นายสุทิน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะไปคุยรายละเอียด โดยจะต้องฟังผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่าสิ่งที่เราคิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ก็อาจจะไม่ใช่ ดังนั้นต้องฟังผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนำเหตุผลมาประกอบกับสิ่งที่เรารับรู้ แล้วค่อยผลักดันเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เมื่อถามอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องฟังความคิดเห็นของผู้บัญชาการเหล่าทัพด้วยหรือไม่นายสุทินกล่าวว่า ยืนยันว่าต้องฟังทุกส่วน คนทุกสาขาอาชีพไม่ใช่เฉพาะแต่กองทัพ เมื่อถามว่า การพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุทิน กล่าวว่า คณะเจรจาคงได้พูดคุยกัน ซึ่งเมื่อถึงเวลาอาจจะเห็นไม่ตรงกัน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอาจจะต้องมีการมาพูดคุยกันอีกครั้งแต่ทุกคนเห็นตรงกันว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำใหม่ทำให้ดี ส่วนจะดีอย่างไรต้องมาปรับจูนเข้าหากัน
เมื่อถามถึง บุคคลที่จะเข้ามาช่วยงานภายในกระทรวงกลาโหม นายสุทิน กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้ได้เสนอครม. เป็นวาระจร สำหรับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ที่มีชื่อ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการ อดีตเลขาฯสมช.เพราะมีคุณสมบัติและรู้เรื่องกองทัพ รวมถึงมีจิตใจที่อยากมาช่วยงานตน มีความรู้ และมีความสามารถ เข้าใจเรื่องระบบการบริหารของกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไม่ใช่เด็กฝากของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ท่านพักผ่อนแล้ว ไม่ควรมองว่าทุกคนที่ช่วยงานกองทัพเป็นลูกพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ ไปเสียหมด ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีคงจะเข้ามาอีกล็อต พร้อมกับของทุกกระทรวง
ไม่แต่งตั้งคนตระกูล’ชินวัตร’ร่วมงาน
เมื่อถามต่อ ถึงความชัดเจนกรณีการแต่งตั้งนายพายัพ ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย น้องชายอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา รมว. กลาโหมและนายพอพงษ์ ชินวัตร บุตรชาย นายพายัพ เป็น เลขานุการประจำตัวรมว.กลาโหม เป็นเอกสารปลอมหรือเอกสารที่ร่างไว้ แต่ยังไม่ได้เซ็น นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเอกสารที่ไม่รู้ที่มาที่ไปและตัว นายพายัพ ก็ไม่ทราบ เรื่องเหล่านี้ทำกันง่ายมากในปัจจุบัน ใครจะพิมพ์ก็ได้แล้วนำไปเผยแพร่ ยืนยันว่าตนไม่ทราบและทาง นายพายัพ ก็ไม่ได้พูดคุยกับตน มีแต่พูดแซวกันเล่นว่ามีอะไรก็จะปรึกษาและที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน นายพายัพก็พูดคุยกันมีอะไรก็แนะนำกัน ยืนยันว่าไม่มีคนนามสกุลชินวัตร อยู่ในคณะทำงาน
คปท.ยื่น3ข้ออย่าเลือกปฏิบัติ-นำ’แม้ว’เข้าคุก
ที่สำนักงาน กพ.ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดน นายพิชิต ไชยมงคล , นายสอและ กูมุดา,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่อง “เร่งสร้างความยุติธรรม ด้วยการนำตัว นช.ทักษิณ ชินวัตร เข้าคุก” ถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
เนื้อหาระบุว่า เครือข่าย คปท.เห็นว่า การจะสร้างความสมานฉันท์อย่างแท้จริง ประชาชนควรได้รับความเท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรมเสียก่อน อีกทั้งรัฐบาลของท่านประกาศในแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติธรรมของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเท่าเทียมแก่ประชาชน จึงเรียกร้องมายังรัฐบาลเพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักนิติธรรม นิติรัฐและหลักคุณธรรมในการบริหารประเทศ ดังนี้ 1. เร่งสร้างความยุติธรรมและทำให้กฎหมายมีความเท่าเทียมกันด้วยการสั่งการให้นำตัว นช.ทักษิณ กลับเข้าเรือนจำตามคำพิพากษาอันเป็นที่สุดและการขออภัยโทษที่ยังคงโทษต้องขังเด็ดขาดอีกเป็นเวลา 1ปี ซึ่งเท่ากับว่า ท่านต้องไม่เลือกปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษแก่ นช.เด็ดขาดทักษิณ 2.เร่งนำตัวผู้ต้องหาการเมืองอื่นที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ มารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมไทย 3.ให้ดำเนินการ ไต่สวน ตรวจสอบและลงโทษ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ ในลักษณะเร่งรีบผิดสังเกตในการร่วมกันนำตัวนักโทษเด็ดขาด นช.ทักษิณ ออกมาจากเรือนจำ เพื่อนำตัวมาไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 23สิงหาคม2566 ที่มีลักษณะการสมคบคิดหรือประพฤติมิชอบตามระเบียบราชทัณฑ์ตามที่ประชาชนได้มองเห็น จึงเรียนมาเพื่อให้รัฐบาลได้ดำเนินการโดยเร่งด่วน
นัดถกเคาะปธ.กมธ.อีกรอบ21ก.ย.
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2ในฐานะประธานในการจัดสรรโควตากรรมาธิการสามัญสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการว่า ยืนยันว่าจะต้องได้ข้อยุติในสัปดาห์หน้า โดยในวันนี้ได้ออกหนังสือเชิญประชุมในวันที่ 21ก.ย.เวลา 13.30น.จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคมาพูดคุยตกลงกันอีกครั้ง หากตกลงกันไม่ได้ตนจะใช้ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะไม่สามารถรอได้ เนื่องจากมีปัญหาของประชาชนที่อยากให้พิจารณา ดังนั้นหากไม่รับผิดชอบตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคม ตนต้องทำตามธรรมชาติ โดยอันดับแรกจะใช้วิธีการจับสลาก แต่หากยังไม่ยอมจะให้ลงมติกันในที่ประชุมในทุกคณะ แต่จะแย่กว่าเดิม จะเอาหรือไม่ ทั้งนี้ เราอยู่สภาฯมานาน ตามความเป็นจริงจะต้องมีกรรมาธิการ มีประธาน มาทำงานแล้ว ไม่ใช่ทอดเวลามันเนิ่นนานขนาดนี้ ดังนั้นขอให้พรรคที่มีปัญหาคิดให้ดี ไม่เช่นนั้นสิ่งที่จะได้ก็จะไม่ได้สักอย่าง ต้องคิดให้ดีว่า จะเอาอย่างไร ถ้าทำอย่างนี้ก็จะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลได้ สส.เพิ่มมาอีก1คน จะได้สัดส่วน ประธานกรรมาธิการเพิ่มอีก 1 คนหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีประกาศรับรองการเป็น สส.จาก กกต.ดังนั้น หากจนถึงวันที่ 21ก.ย.ยังไม่รับรองก็ต้องเดินหน้าตกลงเรื่องตำแหน่งประธาน เพราะรอไม่ได้ หากเดือนนี้และเดือนหน้ายังไม่ประกาศรับรอง จะให้รอไปถึงไหน อย่างไรก็ตาม หากรับรองก่อนวันพฤหัสบดี พรรคก้าวไกลก็จะได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพิ่มอีก 1ตำแหน่งตามหลักการ ขอย้ำว่าการตัดสินใจตรงนี้เป็นการทำตามหน้าที่ ซึ่งการตกลงกัน ถ้าได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ปล่อยไว้ก็ยังไม่ได้ต่อไปเรื่อยๆ จึงต้องหาข้อยุติ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถเดินหน้าทำงานได้ ดังนั้น จะทำตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาของส่วนรวม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี