"เสี่ยนิด"จัดให้อย่างไวตามคำขอ! ลดค่าไฟ-น้ำมันดีเซล-ฟรีวีซ่าจีน แถมเซอร์ไพรส์แบ่งจ่ายเงินเดือนขรก.2 รอบ
“มาแล้ว” กันแบบไวๆ กับ “มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1” นำโดย “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย นั่งหัวโต๊ะเป็นผู้เคาะนโยบาย โดยวันที่ 13 ก.ย. 2566 นี้เป็นการประชุม ครม. นัดแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องบอกว่ามีทั้งเรื่องเป็นไปตามที่ได้รับปากประชาขนไว้ว่าจะรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน และบางเรื่องก็ “เซอร์ไพรส์” ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะทำ โดยเมื่อประกาศออกมาก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย
- ลดค่าไฟ : ปัญหาค่าไฟฟ้าแพงเป็นสิ่งที่ประชาชนรวมถึงภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยแม้เดือน เม.ย. 2566 จะมีมติปรับลดค่าไฟฟ้าต่อหน่วย จากหน่วยละ 4.77 บาท ลงมาอยู่ที่ 4.70 บาท ในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2566 จากนั้นในเดือน ก.ค. 2566 ยังปรับลดจาก 4.70 บาท ลงมาอยู่ที่ 4.45 บาท ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 แต่ก็มีเสียงจากภาคเอกชนที่เชื่อว่าสามารถลดได้อีก และ “เสี่ยนิด” ก็ “จัดให้” ตั้งแต่การประชุม ครม. นัดแรก โดยค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะลดลงมาอยู่ที่ 4.10 บาท ตั้งแต่รอบบิลเดือน ก.ย. 2566 เป็นต้นไป
- ลดค่าน้ำมัน (ดีเซล) : น้ำมันดีเซลนั้นเป็นมากกว่าแค่เชื้อเพลิงขับเคลื่อนยานพาหนะ แต่เป็นเหมือนขุมพลังที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ในยานพาหนะสำหรับขนส่งสินค้าต่างๆ ตั้งแต่รถกระบะจนถึงรถบรรทุก ดังนั้นที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่ว่าชุดใดจึงมักพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อ “ตรึงราคา” น้ำมันดีเซล “ไม่ให้ทะลุเกิน 30 บาทต่อลิตร” เพราะหากราคาน้ำมันแพงย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและยาวเป็นลูกโซ่ไปยังภาคธุรกิจต่างๆ จนปลายสุดคือกระทบผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ย้อนไปในเดือน เม.ย. 2565 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร จากปัญหาราคาพลังงานโลกแพงขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลในขณะนั้นก็พยายามหาทางตรึงราคาไว้ไม่ให้สูงไปกว่านี้ แต่แล้วในเดือน พ.ค. 2566 มีข่าวว่า กระทรวงการคลัง จะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ซึ่งจะครบกำหนดในเดือน ก.ค. 2566
นั่นอาจทำให้ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นไปแตะ 37 บาทต่อลิตร สร้างความกังวลให้กับประชาชนอย่างมากในเวลานั้น กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. 2566 มีการใช้กลไกกองทุนน้ำมัน ตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร และล่าสุดกับ นายกฯ เศรษฐา ที่ควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง ประกาศจะลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2566 เป็นต้นไป
- ฟรีวีซ่า (ชั่วคราว) นักท่องเที่ยวจีน : การท่องเที่ยวถือเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยในปี 2562 อันเป็นปีสุดท้ายก่อนที่โลกจะเข้าสู่วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ในปีนั้นประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติราว 40 ล้านคน สร้างรายได้รวมประมาณ 3 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่มาก หากเปรียบเทียบข้อมูล 10 ปี โดย ในปี 2552 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทย 14 ล้านคน รายได้รวม 5.2 แสนล้านบาท พบเป็นชาวจีน 8.1 แสนคน ไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน 2.3 หมื่นล้านบาท แต่ในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน พบเป็นชาวจีน 11.1 ล้านคน ทำรายได้ให้ประเทศไทย 5.3 แสนล้านบาท
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของโลกและไทยอย่างรุนแรง ด้วยมาตรการควบคุมโรคจึงจำเป็นต้องปิดประเทศและลดกิจกรรมรวมกลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักที่สุดหนีไม่พ้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว กระทั่งในช่วงปลายปี 2564 เมื่อสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลไทยและอีกหลายประเทศจึงค่อยๆ กลับมาเปิดประเทศและลดความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโรคลง
ถึงกระนั้น ภาคการท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เนื่องจากจีนยังเป็นประเทศเดียวในโลกที่คงมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ตามแนวคิด “แผ่นดินปลอดโควิด (Zero-COVID)” ติดเชื้อไม่กี่รายก็อาจถูกบังคับกักตัวกันหมดทั้งพื้นที่ และคุมเข้มการเดินทางเข้า-ออกประเทศ กว่าที่แดนมังกรจะเปลี่ยนแนวคิดสู่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคและกลับมาเปิดประเทศให้การเดินทางทำได้ง่ายอีกครั้ง ก็ต้องรอกันถึงวันที่ 6 ก.พ. 2566 เลยทีเดียว
ในวันที่ 26 ส.ค. 2566 หรือ 4 วันหลังจากที่ประชุมร่วมของรัฐสภา ลงมติให้ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี นายกฯ เศรษฐา ได้ลงพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หารือกับภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และได้กล่าวถึงการยกเว้นวีซ่าให้จีน อินเดีย ส่วนรัสเซียเป็นตลาดใหญ่ เราจะขยายให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 90 วัน และคาซัคสถานก็จะเปิดตลาดด้วย จนล่าสุดในวันที่ 13 ก.ย. 2566 “เสี่ยนิด” ได้เปิดเผยหลังประชุม ครม. ว่า มีนโยบายฟรีวีซ่า (ชั่วคราว) สำหรับชาวจีนและชาวคาซัคสถาน ซึ่งเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2566 พูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายความมั่นคง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมรองรับ
“เพื่อไม่ให้มีการสับสน วีซ่าฟรีหมายความว่ายกเลิกการขอเดินทางเข้ามาประเทศไทยของประเทศจีนและประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้วเพียงแต่วันนี้ทำอย่างเป็นทางการ โดยแฝงประเทศคาซัคสถานมาด้วย เพราะเป็นชาติที่อยู่ในเขตยุโรปซึ่งมีภาวะฤดูหนาวที่รุนแรง และดูจากสถิติถือเป็นประเทศที่อยากเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ กราฟอยู่ในแนวขึ้นตลอด โดยทั้ง 2 ประเทศนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 เป็นการยกเว้นชั่วคราวเพื่อดูผลกระทบทั้งหลาย” เศรษฐา กล่าว
- เปลี่ยนระบบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 ครั้งต่อเดือน : เรื่องนี้ต้องบอกว่า “เซอร์ไพรส์” มาก จากเดิมที่ปกติเงินเดือนข้าราชการจะออกเดือนละ 1 ครั้ง ประมาณสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละเดือน (แต่ละเดือนจะไม่ตรงกัน เช่น ในปี 2566 เดือนกุมภาพันธ์เงินเดือนออกเร็วที่สุดในวันที่ 23 ขณะที่ช้าที่สุดคือเดือนมีนาคมกับเดือนสิงหาคม จะออกในวันที่ 28) แต่ในการประชุม ครม. นัดแรกอย่างเป็นทางการของนายกฯ เศรษฐา ซึ่งควบตำแหน่ง รมว.คลัง กระทรวงที่กำกับดูแล กรมบัญชีกลาง หน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่จ่ายเงินเดือนข้าราชการ
ก็มีการเปิดเผยว่า จะเปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็นการแบ่งจ่าย 2 ครั้งต่อเดือน โดยนายกฯ เศรษฐา ระบุว่า เราไม่เคยพูดคุยกัน ตนก็ไม่เคยแย้มถึงเรื่องนี้เลย แต่ก็ตระหนักดีว่าเรื่องกระแสเงินสดของทุกคนในประเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ จึงดำริให้เปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการจากเดือนละ 1 รอบเป็นเดือนละ 2 รอบ
“รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า (2567) เป็นต้นไป ซึ่งต้องมีการแก้ไขระบบอะไรหลายๆอย่างจึงทำเลยไม่ได้ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้เยอะพอสมควรถ้ามีการจ่ายเงิน 2 รอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องคอยให้ถึงสิ้นเดือนก็จะมีเงินแบ่งจ่ายออกมา” นายกฯ และ รมว. คลัง ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เช็คที่นี่!‘เศรษฐา’สรุปมติครม.กดปุ่มเคาะแพ็กเกจลดค่าไฟ-น้ำมัน-พักหนี้เกษตรกร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี