บ้านเมืองเราช่วงนี้การเมืองระอุเข้มข้น งานนี้รายการ "คนดังนั่งเคลียร์" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เลยขอเชิญ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช.ออกมาพูดถึงความคิดเห็นที่ประชาชนสงสัยว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีนัยแฝงหรือไม่ พร้อมเปรยถึง หมออ๋อง หรือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรคก้าวไกล อย่าเดินรอยตามนักการเมืองยุคเก่า เพื่อความหวังและความฝันของประชาชน แฟนๆ สามารถรับชมย้อนหลังเต็มๆ ได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น
คุณพิธาทำไมต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค และปฏิเสธเป็นผู้นำฝ่ายค้านล่ะคะ?
คุณพิธาถูกตัดสิทธิ์ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เมื่อคุณพิธาเป็น ส.ส.ไม่ได้ และรัฐธรรมนูญก็บัญญัติว่าผู้นำฝ่ายค้าน จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีตำแหน่งประธานสภา รองประธานสภา คณะรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นถ้าคุณพิธายังนั่งอยู่ ก็หมายความว่าเป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ แม้ว่าหมออ๋อง ลาออกก็ตาม สมมุตินะครับ การลาออกของคุณพิธาแสดงว่าต้องการเปิดช่องให้พรรคก้าวไกล ได้มีหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้เป็นฝ่ายค้าน เพียงแต่ว่าจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หมายความว่าถ้าเป็นผู้นำฝ่ายค้าน หมออ๋องสมาชิกพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นรองประธานสภาไม่ได้ จึงมีแนวความคิดว่าให้หมออ๋อง ถูกพรรคก้าวไกลขับออก ด้วยเสียงกรรมการพรรค บวก ส.ส. 3 ใน 4 ผมเห็นว่าเป็นแนวความคิดที่นำเสนอ แต่ผมไม่ได้ยินตัวพรรคก้าวไกลเองเขาพูดครับ แต่เป็นความคิดของคนภายนอกที่เสนอช่องทางนี้ครับ ซึ่งในความเห็นผมที่พิธาเขาประกาศก้องด้วยความสง่างาม ถ้าเขาเป็นคนตระบัดสัตย์ เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะฉะนั้นพรรคก้าวไกล ต้องเป็นพรรคในอนาคตในการเลือกตั้งครั้งหน้า เห็นได้อย่างชัดเจนเขาเติบโตตั้งแต่ปี 62 มาปี 66 เติบโตเกือบเท่าตัว เพราะฉะนั้นเขาต้องไม่คิดถึงวันนี้ ถ้าเขาใช้วิธีขับหมออ๋องออกด้วยวิธีใดก็ตาม เพื่อรักษาตำแหน่งรองสภาเอาไว้ และในขณะเดียวกันกลายมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ผมเองก็เห็นพรรคก้าวไกลไปเท่ากับพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นถ้าคุณยืนอย่างสง่างามตัวตรง ตามที่พิธาบอกว่าไม่ตระบัดสัตย์จนไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นอย่าไปอินังขังขอบกับตำแหน่งประธานสภา ต้องประกาศลาออก และทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน และตรวจสอบ และรอการเลือกตั้งครั้งหน้าถล่มทลาย และเขาจะแลนด์สไลด์ แต่ถ้าเขาเอารองประธานสภาใช้วิธีขับ ตัวเขาจะเท่าพรรคเพื่อไทย
แต่หมออ๋องตอนนี้ก็มีข่าวนะคะ เบิกงานเป็นล้านไปเที่ยวสิงคโปร์ หมออ๋องเป็นแบบนี้เหรอคะ?
แม้ว่าเขามีเจตนาอย่างไรก็ตาม เช่น เจตนาจะเปิดเผยโครงการในอดีต โดยเอาตัวเองเป็นการนำร่องตามที่มีการพยายามจะอธิบาย แต่ผมเองก็เห็นว่ามันไม่จำเป็นขนาดนั้น ทั้งหมดนั้นในการใช้จ่ายงบประมาณ พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มีอนาคตนะ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งอย่างต้องไม่เดินตามรอยนักการเมืองเดิม เพราะตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไปตามความหวัง และความฝันของประชาชน เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้สังคมไม่สบายใจ แม้ว่าจะบอกว่าเป็นอีกเจตนาหนึ่งในภายหลังก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่างบประมาณส่วนนั้นถูกใช้ไปครับ
- 006