‘ศรีสุวรรณ’ร้อง‘ป.ป.ช.’สอบ‘ก้าวไกล-หมออ๋อง’นิติกรรมอำพราง ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรง ชี้ความสง่างามหายไปทันที ไล่ขยี้แผลโฆษณาเบียร์ สัปดาห์หน้าหอบหลักฐานยื่น ป.ป.ช.เพิ่ม
2 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนพรรคก้าวไกล และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กรณีที่ประชุมร่วมพรรคก้าวไกลมีมติขับนายปดิพัทธ์ ออกจากสมาชิกภาพ เพื่อให้สมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ อันไม่เป็นไปตามนัยยะทางกฎหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เหตุจากการที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ สส. ก้าวไกลมีมติ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 ให้นายปดิพัทธ์ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ต่อไป และหัวหน้าพรรคก้าวไกลจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้ โดยให้เหตุผลในแถลงการณ์ที่แพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ว่า เพื่อให้พรรคก้าวไกลสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ ได้พร้อมกับโพสต์รูปภาพและข้อความว่า แยกกันเดิน เปลี่ยนประเทศด้วยกันนั้น กรณีอย่างนี้ถูกสังคมและโซเชียลตำหนิอย่างรุนแรงว่า เป็นก้าวไกลการละคร นิติกรรมอำพราง เสพติดอำนาจ แผนสมคบคิดกัน หรือเล่ห์ฉล หรือเป็นกลฉ้อฉลทางกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการแสดงออกให้เห็นธาตุแท้ของพรรคการเมืองที่มิได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ตรงไปตรงมาตามที่พรรคก้าวไกลได้เคยประกาศหรือหาเสียงไว้กับประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองดังกล่าวขึ้นมา
นอกจากนี้พฤติการณ์หรือการกระทำอาจขัดหรือแย้งต่ออุดมการณ์ของพรรคที่ได้จดทะเบียนไว้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อ 23 มิ.ย. 63 แต่กลับใช้วิธีการเยี่ยงนักการเมืองน้ำเน่าที่มุ่งกอดรัดอำนาจหรือตำแหน่งที่ตนมีหรือที่จะมีไว้อย่างไม่ละอาย และความผิดถึงขั้นขับสมาชิกออกจากพรรคนั้นไม่สอดคล้องกับข้อบังคับของพรรคก้าวไกล ข้อ 119 ประกอบข้อ 121 แต่อย่างใด
อีกทั้งกรณีดังกล่าวถูกสังคมตำหนิ ติเตียน และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดกันโดยมิได้ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอันเป็นข้อห้ามของมาตรฐานทางจริยธรรมฯที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ตาม มาตรา 219 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะไต่สวนและมีความเห็นได้โดยตรง
“ด้วยเหตุดังกล่าวองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมายื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลและนายปดิพัทธ์ เข้าข่ายกลฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพราง ถูกสังคมตำหนิอย่างแรง อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร หากเป็นการฝ่าฝืนขอให้วินิจฉัยส่งศาลฎีกาเพื่อพิพากษาลงโทษต่อไป” นายศรีสุวรรณ ระบุ
นายศรีสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่ผิดปกติของพรรคที่เคยหาเสียงว่าจะทำการเมืองแบบคนรุ่นใหม่แบบตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ แต่พฤติการณ์ของพรรคก้าวไกลและนายปดิพัทธ์ไม่ต่างจากพรรคการเมืองเดิมๆที่ผ่านมา ยังอยู่ในวังวนน้ำเน่าที่ชาวบ้านตั้งฉายาไว้ และอาจเป็นเรื่องของการใช้เล่ห์ฉลใช้มติเลี่ยงกฎหมาย อาจจะไม่ถูกต้องนัก พฤติกรรมแบบนั้นอาจสร้างความเสื่อมเสียให้กับสภาผู้แทนราษฎร ให้กับสส.และพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองต้นสังกัด แม้ว่าเรื่องดังกล่าวกฎหมายอาจจะเอื้อมไม่ถึง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะส่งผลต่อความสง่างามในการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ของนายปดิพัทธ์หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เชื่อว่าจะกระทบอย่างแรงและคงจะถูกการตีรวนในการทำหน้าที่ในสภาของ สส. พรรครัฐบาล หรือพรรคอื่นๆ ที่ตั้งป้อมว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
“เรื่องความสง่างามของพรรคก้าวไกลที่เคยหาเสียงที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้จะหายไปโดยทันที เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องได้อาจไม่เท่าเสียของหมออ๋องและพรรคก้าวไกล” นายศรีสุวรรณ ระบุ
นายศรีสุวรรณ ระบุด้วยว่า สัปดาห์หน้าตนจะนำพยานหลักฐานกรณีที่นายปดิพัทธ์โชว์กระป๋องเบียร์และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มายื่นเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งเคยได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบจริยธรรมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยหลักฐานที่สำคัญ คือ การที่นายปดิพัทธ์ไปยอมรับสารภาพต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งมีสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธาน และได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 50,000 บาท ถือเป็นการยอมรับความผิดของตัวเอง ทั้งนี้จะยื่นหลักฐานให้ป.ป.ช.เพื่อเป็นการยืนยัน ว่ากรณีการไปโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการผิดกฎหมายอย่างชัดเจน มีหลักฐานยืนยัน และเข้าข่ายที่เคยร้องความผิดตามประมวลจริยธรรม
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี