กกต.ใหม่ “ชาย นครชัย “ประกาศทำหน้าที่ยึดกม.เป็นหลักพิจารณาร้องทุจริตเลือกตั้ง ไม่หวั่นการเมืองกดดัน อ้างกินเดือนภาษีปชช. ไม่ใช่ของนักการเมือง ไม่สนทัวร์ลง
วันที่ 9 ตุลาคม 2566 นายชาย นครชัย กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ว่า ตั้งใจอยากเข้ามาทำอะไรให้ดีขึ้น ช่วงเลือกตั้งเห็นมีคนบ่นกันเยอะ คิดว่าติดขัดอะไรก็อยากเข้ามาช่วยผลักดันให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น ที่เห็นว่าเป็นปัญหาแรก ควรแก้ไขคือต้องพยายามทำความเข้าใจ เพราะข้อกฎหมายกำหนดว่าให้กกต.ดูแลเชิงนโนยบายและสำนักงานฯทำงานด้านธุรการ แต่คนจะเหมารวมว่า กกต. ดูแลทุกอย่าง ซึ่งความหมายไม่ใช่เช่นนั้น จึงอยากทำความเข้าใจในจุดนี้ และถ้าติดขัดอะไรก็จะได้ช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น คิดว่าทำแล้วทุกคนได้สิ่งที่ถูกใจ มีผลกับประเทศชาติในทางที่ดี ก็จะเป็นเรื่องดี
ส่วนที่งานการเลือกตั้งเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง ก็เห็นว่า การเมืองอยู่ที่คนคิด แต่ในฐานะเป็นกกต.เราก็ต้องทำตามข้อกฎหมาย จะทำนอกเหนือที่กฎหมายกำหนดไม่ได้ ถ้าการเมืองผลักดันอะไรมาแล้วเราทำอะไรที่มันไม่ใช่ ปัญหาที่ตามมาจะเกิดที่เรา จึงต้องดูว่ากฎหมายเขียนให้เราทำอะไร เพราะกฎหมายเขียนมาเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ เราจึงต้องทำเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศเป็นหลัก
เมื่อถามว่าไม่กลัวความกดดันจากการเมืองใช่หรือไม่ นายชาย กล่าวว่า เขาจะกดดันอะไรตน เราไม่ได้กินเงินเดือนเขา เงินเดือนรัฐบาลก็ไม่ใช่ แต่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน คิดว่าถ้าเขามีปัญหา แล้วมาคุยกัน และหาทางแก้ไขปัญหา เช่นกฎหมายนี้ใช้แล้วติดขัด ก็มาคุยกันเพื่อหาทางออกอาจจะแก้ไขกฎหมาย คิดว่าทุกทางเดินมีทางออก ขึ้นอยู่ว่าเราเลือกทางออกอย่างไรในการแก้ปัญหา เพื่อให้ทุกคนได้อยู่อย่างมีความสุข ไม่มีปัญหากัน
“ถ้าเราคิดตามกระแสก็จะหนักใจว่าทัวร์จะลงไหม แต่เราก็ไม่ได้เล่นโซเชียล ก็ไม่ได้แคร์อะไรเท่าไร แล้วบางเรื่องเขาก็ต้องดูด้วยว่าอะไรเหมาะ อะไรควร สังคมต้องอยู่กันด้วยความรอมชอม ไม่ใช่ทุกคนต่างมุ่งเป้าเอาของตัวเอง ทุกคนมีสิทธิ แต่สิทธิของคนอื่นเราไม่สนใจก็จะอยู่อย่างลำบาก และก็จะมีปัญหาไปเรื่อย ๆ เราต้องช่วยกันและทำให้เมืองไทยน่าอยู่” นายชาญ กล่าว พร้อมพูดติดตลกว่าไม่กลัวหรอกทัวร์ลง เพราะมีคนถามผมบ่อยว่าทำทัวร์หรือเปล่า
นายชาย ยังกล่าวว่าแม้จะมาจากกระทรวงวัฒนธรรม แต่ก็คิดว่ามาทำงานกกต.น่าจะได้เปรียบ เพราะอยู่งานวัฒนธรรมมาทำให้มีเครือข่ายเยอะ ได้รับฟังปัญหาและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นถิ่น แต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร เราก็จะได้นำมาปรับปรุงให้เข้าบริบทของคนไทยได้ในการทำงาน ส่วนข้อกฎหมาย เราศึกษาได้ และระเบียบกกต.มีอยู่ไม่เท่าไร เราก็ดูและพิจารณาไปตามข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ต้องมาร่วมพิจารณาเรื่องร้องเรียนร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งสส.ซึ่งอาจถูกฟ้องร้องตามมา ทั้งที่ไม่ได้ร่วมจัดการเลือกตั้งกับกกต.มา นายชาย กล่าวว่า ก็คงต้องไปเป็นหมู่คณะ เข้ามาแล้วก็ต้องช่วยกันทำให้ดี หลักของตนคิดว่าต้องว่าไปตามเนื้อผ้า ถ้าเขาทำถูกก็ว่าถูก ถ้าทำผิดก็ว่าผิด และกกต.ก็ต้องทำงานจริงจัง ถ้าผิดก็ต้องว่าผิด คนจะได้เข็ดหลาบ ไม่ทำเรื่องที่จะเกิดปัญหาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี