ไร้รอบคอบ ไม่ชัดเจน! ‘สว.เฉลิมชัย’เตือน‘นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น'ส่อขัดรัฐธรรมนูญ-วินัยเงินคลัง ชี้ช่องร้อง‘ป.ป.ช.’เอาผิด‘กกต.’ปล่อยละเลย
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานสรุปผลการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ประจำปี 2565 โดยนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต คนละ 10,000 บาท และมีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว แต่ได้รับคำตอบมาว่า ไม่ผิด เนื่องมาจากเป็นเงินงบประมาณของรัฐ ไม่ใช่เงินส่วนตัว ซึ่งการที่ กกต. ตอบแบบนี้ เป็นการติดกระดุมเม็ดแรกที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เนื่องจาก กกต. ไม่ได้นำกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนสูง จึงไม่รู้ว่า กกต.ให้หลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าหากใช้งบประมาณของรัฐแจกแล้วไม่มีความผิด และตอนนี้ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน และเห็นว่าน่าจะไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาว่า กกต. จงใจปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 และ 235 ได้
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยทำผิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่าย ปัจจุบันก็ยังไม่มีการชี้แจง สุ่มเสี่ยงขัดต่อการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องไม่บริหารโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกข่าวมาโดยตลอดว่าจะไม่ใช้งบประมาณ จะไม่กู้ แต่จะใช้มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ คือมอบหมายให้ธนาคารออมสินจ่ายงบประมาณไปก่อนในโครงการนี้ แต่โครงการดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในหน้าที่ อำนาจ และขอบเขตวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งธนาคารออมสินแต่อย่างใด และหาก บังคับผู้อำนวยการธนาคารออมสินมากๆ ท่านอาจจะลาออกได้ เนื่องจากท่านก็กลัวจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า นายกฯ ยังให้ข่าวอย่างต่อเนื่องว่าในวันที่ 1 ก.พ. 2567 เงินดิจิทัลจะเข้าสู่ระบบ และประชาชนทุกคนจะได้เงิน แต่จะเอาเงินมาจากไหน ในเมื่อปฏิทินงบประมาณปี 2567 จะออกในเดือน เม.ย. 2567 แสดงว่า ครม. ต้องใช้วิธีกู้เงินจากธนาคารของรัฐ หรือธนาคารออมสิน แต่เงินกู้ที่ได้มาก็ต้องเป็นเงินแผ่นดินเช่นกัน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และมีหลายหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบโครงการนี้ได้ ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่มีผู้ไปร้องแล้ว เช่นเดียวกับ ป.ป.ช. ก็ได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบโครงการนี้โดยตรง ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า สรุปแล้วโครงการเงินดิจิทัลมีข้อสงสัยมากมายคือ จะนำเงินงบประมาณมาจากไหน 5.6 แสนล้านบาท ทำไมไม่จ่ายเป็นเงินสดเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเหรียญดิจิทัลกลับไปกลับมา 6% อีก 33,600 ล้านบาท ค่าจ้างทำโปรแกรมบล็อกเชนอีกกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท กรณีดังกล่าวหากเกิดเงินเฟ้อ สินค้าแพงขึ้น หนี้สาธารณะจะเพิ่มอีกเท่าใด จริงหรือที่การแจกเงินจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุน 3 รอบ และได้ถามพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่าเห็นด้วย และการที่นายกฯเดินทางไป จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วปลุกระดมให้ชาวพิษณุโลกคัดค้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการเงินดิจิทัล ถือเป็นการพูดให้ประชาชนขัดแย้งแตกแยกกันเองหรือไม่ เหตุใดพรรคเพื่อไทยไม่คิดวิเคราะห์ผลกระทบและความเสี่ยงให้รอบคอบรอบด้านก่อนจะออกมาเป็นนโยบายหาเสียง เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
“ดังนั้น กกต. ต้องกำหนดกลไกความรับผิดชอบของพรรคการเมืองในการประกาศโฆษณานโยบายที่ไม่ได้วิเคราะห์ผลกระทบของความคุ้มค่าและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการแจกเงินดิจิทัล เป็นการสัญญาว่าจะให้อย่างเห็นได้ชัด เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า แต่ กกต.กลับตีความว่าไม่ผิด จึงหวังว่า กกต.คงไม่ปล่อยนโยบายแบบนี้ออกมาอีกในการเลือกตั้งอีก 4 ปีข้างหน้า แต่ผมไม่ได้ไม่ให้ทำ ท่านจะทำก็ทำไป แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย และรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม” นายเฉลิมชัย กล่าว ---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี