‘ประเสริฐ’โต้‘เรืองไกร’ปมถือครองที่ดินภ.บ.ท. 5 ชี้ได้สิทธิและสัมปทานจากกรมธนารักษ์โดยชอบตามกฎหมาย ด้าน‘สัมฤทธิ์'ยันที่ดินส.ป.ก.ได้มาถูกต้อง เป็นของ‘ภรรยา’รับมาจากพ่อ-แม่
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. 5 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรายชื่อของนายประเสริฐ ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ว่ามีที่ดิน ภ.บ.ท. 5 รวม 1 แปลงมูลค่า 300,000 บาท โดยไปแสดงไว้ในรายการที่ 9 ของรายการสิทธิและสัมปทานและยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ว่ามีที่ดิน ภ.บ.ท. 5 รวม 1 แปลง มูลค่า 3 แสนบาท โดยไปแสดงไว้ในรายการที่ 9 ของรายการสิทธิและสัมปทาน ไว้เช่นเดิม กรณีจึงควรตรวจสอบที่ดิน ภ.บ.ท. 5 แปลงดังกล่าวที่แจ้งไว้ว่า เป็นไปโดยชอบหรือไม่
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่าที่ตนเคยถูกร้องเรียนมาแล้ว ยืนยันว่าที่ดิน ภ.บ.ท. 5 แปลงดังกล่าวเป็นของภรรยา ซึ่งได้รับสิทธิและสัมปทานจากกรมธนารักษ์ ถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่ได้เป็นการกระทำผิดตามที่นายเรืองไกรระบุ
เมื่อถามว่า การที่นายเรืองไกร ร้องป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่อยากมองเช่นนั้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ด้านนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ส.ส.ที่นายเรืองไกรยื่นตรวจสอบถือครอง ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 สุ่มเสี่ยงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผิดมาตรฐานจริยธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นของภรรยา ที่ได้รับตกทอดมาจากบิดามารดา ซึ่งเป็นเกษตรกร โดยได้รับมาถูกต้องตามกฏหมายปฏิรูปที่ดินมาหลายสิบปีแล้ว และตนยินดีให้ตรวจสอบ ---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี