‘รวมไทยสร้างชาติ’หยอดยาหอม‘ถุงเท้าสารพัดสี’น่ารักดี ด้าน‘นายกฯ’ลุกตอบเองวันนี้ผูกไทสีส้ม-ถุงเท้าเขียว ก่อนแจงตอบสารพัดเรื่องเยือนต่างประเทศรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำ‘ปชป.’เกินใจจะทน แซวเจ็บชงหวานเจี๊ยบเหลือเกิน ฝากทีมงานหายาเบาหวานให้ทาน-นำยาฆ่ามดมาฉีดพ่นสภาด้วย ‘เศรษฐา’รับลูกเดี๋ยวไปตรวจน้ำตาล ยันเตรียมคุย ตร.บ่ายนี้ กำชับเข้มปราบพนันออนไลน์ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ

26 ตุลาคม 2566 เวลา 11.40 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยในช่วงกระทู้ถามสด ของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ถามเรื่องขอทราบประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากการที่นายกรัฐมนตรีไปเยือนต่างประเทศ ตั้งถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โดยนายอัครเดชอภิปรายว่า ระหว่างวันที่ 19-21ต.ค.ที่ผ่านมา นายกฯไปพบผู้นำ 7 ประเทศ โดยนายกฯประกาศเสมอว่าขอเป็นเซลล์แมนให้กับประเทศไทย ออกไปทำการค้าขายให้กับประเทศ ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนทั้งประเทศ ตนจึงขอตั้งคำถามในคำถามแรก แต่คงไม่ถามนายกฯว่าวันนี้ใส่ถุงเท้าสีอะไร เพราะว่าโซเชียลมีเดียก็ให้ความสนใจถุงเท้าของท่าน ก็เป็นความน่ารักส่วนตัวของท่าน

“ผมก็มองว่า ท่านใส่ถุงเท้าสีอะไรก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าท่านไม่ใส่ถุงเท้าเป็นเรื่องไม่ปกติมากกว่า แต่วันนี้ท่านมาตอบคำถามกระทู้ในสภาในโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็คงจะต้องสนใจเนื้อหาสาระที่นายกฯได้ไปทำให้กับพี่น้องคนไทยในการเยือนต่างประเทศที่ผ่านมา ผมจึงขอถามนายกฯว่าการที่ท่านออกไปเยือนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้อะไรบ้าง” นายอัครเดช กล่าว

ด้านนายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ยืนยันว่าตนให้เกียรติสภาฯเสมอ หากไม่ติดภารกิจจำเป็น ตนก็ จะพยายามมาตอบกระทู้ข้อสงสัย ที่ทางท่านสมาชิกหลายหลายท่านมีอยู่เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ วันนี้ตนใส่เนคไทสีส้ม ถุงเท้าสีเขียว

นายเศรษฐา ชี้แจงถึงการเดินทางเยือนต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาในหลายประเทศว่า  ได้พูดคุยถึงการค้าขาย สินค้าเกษตร คุยกับภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีความสนใจต้องการลงทุนในประเทศ รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติมในประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีประเด็นการหารือตอนที่เดินทางเยือนซาอุดีอาราเบียเพื่อขอให้ช่วยเจรจาในการปล่อยตัวประกันในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ในหลายประเทศที่เดินทางไป ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยพร้อมแล้ว เปิดแล้ว และเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาลงทุนในประเทศไทย

นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่า รัฐบาลที่ผ่านมาได้เจรจากับภาคเอกชนให้ลงทุนในการผลิตรถยนต์ อีวี ตนก็ไปสานต่อ เพื่อให้ลงทุนด้านซัพพลายเชน และลงทุนด้านอื่นๆ  เพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอีในประเทศด้วย ในด้านองค์ความรู้ ซึ่งทีมงานของตนจะดำเนินงานต่อไป ส่วนการเจรจาเอฟทีเอ ได้รับความช่วยเหลือจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.การต่างประเทศ ให้เร่งเจรจาและปิดดีลให้ได้ เพื่อให้สบายใจว่าในการลงทุนจะมีสนธิสัญญาและผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศ

นายเศรษฐา ยังกล่าวตอบคำถามถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางกลับประเทศหลังเผชิญเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอล ว่า ขณะนี้มีแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ 8,000 คน และอพยพออกมาได้ยังเหลืออีก 4,000 คน ทั้งนี้ พบปัญหาใหญ่ใน 4-5 วันที่ผ่านมา ว่านายจ้างเสนอเงินเพิ่มเพื่อให้แรงงานไทยอยู่ต่อ  ดังนั้นการแก้ปัญหา รัฐบาลจะใช้แผนซ้อนแผน คือ การหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานที่อพยพออกจากพื้นที่ โดยได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต่างประเทศที่ต้องการแรงงานไปทำงาน ซึ่งพบว่าได้ค่าแรงที่สูงเช่นกัน

นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่ามาตรการเยียวยาของรัฐบาล ตามที่ได้ข้อเสนอจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คือ การช่วยแรงงานที่เป็นหนี้สินซึ่งเกิดจากการจ่ายค่านายหน้าเพื่อให้ได้ไปทำงาน เฉลี่ย 1.5 แสนบาท ซึ่งจะหารือกับธกส. เพื่อให้สินเชื่อพิเศษเพื่อใช้หนี้ ผ่อนจ่ายระยะยาว 30 ปี ดอกเบี้ย 0.1%  ขณะที่กระทรวงแรงงานสร้างแรงจูงใจในการจ้างงานสำหรับแรงงานที่มาจากอิสราเอลเพราะถือว่าเป็นแรงงานคุณภาพ ซึ่งรัฐบาลพร้อมทำเต็มที่เพื่อนำแรงงานไทยกกลับมาให้เร็วที่สุด

“ยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่ เพื่อพาแรงงานกลับมาโดยเร็ว โดยไม่อยากให้คำนึงเรื่องเงิน มาก่อนเรื่องชีวิต และต้องเผชิญความเสี่ยง อย่างไรก็ดีจากเหตุที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงสภาพเศรษฐกิจ  และฐานะคนไทย ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการยกกระดับชีวิตตนไทยทุกคน” นายเศรฐา ชี้แจง

ต่อมาในเวลา 12.00 น. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นถามกระทู้ถามสด เรื่องแนวทางการปราบปรามพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ การหลอกขายสินค้าออนไลน์ ตั้งถามนายกฯ โดยได้กล่าวก่อนเริ่มถามกระทู้ว่า ฝากทีมงานคณะนายกฯ หายาเบาหวานให้นายกฯท่านด้วย เพราะนายอัครเดช ชงหวานเหลือเกิน นายกฯอย่าลืมทานยาเบาหวานด้วย และฝากเจ้าหน้าที่สภาฯเอายาฆ่ามดมาฉีดพ่นในสภาฯด้วย เพราะตนนั่งฟังอยู่มดขึ้นเลย

ทำให้นายเศรษฐา กล่าวตอบว่า “เพิ่งตรวจร่างกายไป ไม่ได้เป็นความหวานและความดัน ส่วนคำชมของนายอัครเดช นั้นผมจะไปตรวจว่าน้ำตาลขึ้นหรือไม่” จากนั้นนายเศรษฐาได้ตอบชี้แจงกระทู้นายชัยชนะว่า  ในวันนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่าย ตนจะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับให้จัดการเรื่องดังกล่าวอย่างเด็ดขาด รวมถึงการจับกุมผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในต่างประเทศมาดำเนินการ  โดยที่ผ่านมาได้ตั้งชุดและทีมที่ติดตามแก้ปัญหา  ผ่านกการตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (เอโอซี) เพื่อเป็นช่องทางการรับเรื่องและให้เกิดความร่วมมืออย่างครบวงจร

ทั้งนี้หลังจากถามกระทู้ถามสดนายชัยชนะ ยังได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่บริเวณหน้าห้องประชุมสภาฯอีกด้วย

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิงว่าไม่สามารถปราบปรามบัญชีม้าได้ว่า ในส่วนของบัญชีม้าหน่วยงานสามารถปราบปรามได้ แต่เนื่องจากบัญชีดังกล่าวเกิดอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้การปราบปรามที่ทำอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

-005