‘อุ๊งอิ๊ง’ลั่นนำ‘พท.’กลับเป็นพรรคอันดับหนึ่ง

ผงาดหัวหน้าพรรค

‘เศรษฐา’ออกปากชื่นชม

เก่งเป็นนายกฯได้สบาย

‘สรวงศ์’นั่งเลขาฯพรรค

เสริมทัพพท.คนรุ่นใหม่

เพื่อไทยจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เลือก “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหัวหน้าพรรค ประกาศนำเพื่อไทยกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งในหัวใจประชาชน เดินหน้าสานต่ออุดมการณ์ เชื่อมศรัทธา สร้างครอบครัวเพื่อไทย ให้แข็งแกร่ง ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน ขณะที่ “สรวงศ์” นั่งเลขาธิการพรรค “บรู๊ค-ดนุพร” เป็นโฆษกฯ ด้าน “เศรษฐา” แสดงความยินดี ชื่นชม “อุ๊งอิ๊ง” เก่งเป็นนายกฯได้สบาย

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญ โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ซึ่งบรรยากาศที่พรรคเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาแกนนำ สมาชิกพรรค และตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ต่างเดินทางเข้ามาที่พรรคตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายเสนาะ เทียนทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงพรรคเวลา 09.09 น. โดยมีแฟนคลับรอให้การต้อนรับ

‘อุ๊งอิ๊ง’นั่งข้างกลุ่มเต็งกก.บห.ชุดใหม่

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ใช้ชั้น 7 ที่ทำการพรรคเป็นสถานที่ประชุม มีการทำอัฒจันทร์สองฝั่งให้สมาชิกพรรคนั่งหันหน้าเข้าหาเวทีรูปตัว T และเป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร นั่งเคียงข้างไปกับสมาชิกพรรคที่มีกระแสข่าวจะเข้ามาเป็น กก.บห. อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ที่มีกระแสข่าวเป็นเลขาธิการพรรค , นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย ที่มีกระแสข่าวเป็นรองเลขาธิการพรรค

โดยในการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ใช้เครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยืมมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร มาใช้เป็นครั้งแรกด้วย

‘ภูมิธรรม’ชี้ปรับคน3รุ่นทำงานร่วมกัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่าในการประชุมพรรควันนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค แต่เท่าที่ฟังสมาชิกส่วนใหญ่จะเสนอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนจะมีคนอื่นหรือไม่ ก็พูดคุยกันในพรรค ซึ่งการเสนอหัวหน้าพรรคอาจจะมี 4-5 คน ตามความเหมาะสม

ส่วนคนรุ่นเก่าก็คงจะมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล ซึ่งจะสามารถช่วยในข้อกฎหมายได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นกลางกับรุ่นใหม่ เพราะผู้ใหญ่ของพรรคไปทำงานด้านการบริหาร และสภาฯ จึงจะเป็นโอกาสที่จะได้คนรุ่นใหม่ ได้แสดงฝีมือ แต่ที่ผ่านมาเราก็พยายามปรับให้คนทั้ง 3 รุ่น ร่วมกันทำงานอยู่แล้ว ซึ่งคนที่มีประสบการณ์ ถอยมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้การทำงานสามารถต่อเนื่องได้ ก็จะไม่มีปัญหา ดังนั้นถ้าเราได้คนที่มีประสบการณ์ มีความสามารถและได้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำงาน จะทำให้พรรคเดินหน้าไปสู่มิติใหม่ๆ สามารถปรับตัวได้

มั่นใจ‘อุ๊งอิ๊ง’เหมาะสม-นำพรรคได้

เมื่อถามว่า การเลือกตระกูลชินวัตรมาเป็นหัวหน้าพรรคจะมีปัญหาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเลือกหัวหน้าพรรคเราไม่ได้คำนึงถึงนามสกุลไหน แต่เลือกจากคนที่มีศักยภาพ ความสามารถและมีความพร้อม ซึ่งนส.แพทองธารได้พิสูจน์ฝีมือมาระยะหนึ่งแล้ว จนคิดนโยบายออกมาได้ สื่อมวลชนก็เห็นถึงความสามารถ ตอบเรื่องราวต่างๆได้อย่างดี ไม่ใช่คนใหม่ เข้ามาในพรรคตั้งแต่อายุ 8-10 ขวบ ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคไทยรักไทย มีส่วนร่วมตลอด และเป็นคนที่สนใจการเมืองมากที่สุด โดยท่านทักษิณพูดถึงแพทองธารมากที่สุดในบรรดาลูกทั้ง 3 คน และติดตามไปหาเสียงด้วยตลอด เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเข้าใจนโยบายของพรรค

“แพทองธาร ไม่แพ้ใคร ผมเชื่อว่าถ้าวันนี้พวกเราเสนอชื่อชื่ออุ๊งอิ๊ง เชื่อว่าเหมาะสมมากที่สุด และสามารถนำพาพรรคไปได้ ถ้าดูจากคะแนนนิยมตั้งแต่แพทองธารเข้ามา เริ่มต้นทางการเมือง คะแนนนิยมอยู่อันดับสูงพอสมควร ดังนั้นแพทองธารเหมาะสมที่สุด ผมเห็นด้วยและสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรค” นายภูมิธรรม กล่าว

เลือก‘อุ๊งอิ๊ง’นั่งหน.เพื่อไทย

ต่อมา หลังจากการประชุมเสริจสิ้นลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเพื่อไทย ชุดใหม่ ทั้งหมด 23 คน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ได้รับคะแนน 289 จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 290 คน ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 คน ส่วนรองหัวหน้าพรรค ได้แก่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ 292 คะแนน , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงราย และรมช.คลัง ได้ 291 คะแนน , นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ ได้ 288 คะแนน , น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ 290 คะแนน , นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ได้ 285 คะแนน , นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง ได้ 289 คะแนน

‘สรวงศ์’เลขาฯ-‘บรู๊ค’โฆษกฯ

ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค จะให้ นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ได้ 290 คะแนน และรองเลขาธิการพรรค ได้แก่ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้ 290 คะแนน, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้ 287 คะแนน, นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย ได้ 287 คะแนน, นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค ได้ 287 คะแนน, นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นนายทะเบียนพรรค ได้ 287 คะแนน, นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นโฆษกพรรค ได้ 290 คะแนน

นอกจากนี้ สำหรับ กก.บห.มี 9 คน ได้แก่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.ได้ 283 คะแนน, นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี ได้ 284 คะแนน , นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา ได้ 286 คะแนน, นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา ได้ 284 คะแนน, นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล ได้ 287 คะแนน, นายจเด็ศ จันทรา ได้ 285 คะแนน, นายพลนชชา จักรเพ็ชร ได้ 287 คะแนน , นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ 286 คะแนน, น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น ได้ 283 คะแนน

ขอบคุณสมาชิกพรรคที่ไว้วางใจ

จากนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขอขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกท่านที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเพียงการส่งต่อภารกิจทางด้านอุดมการณ์ แต่คือการเชื่อมความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความศรัทธา เชื่อมการต่อสู้ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง ในฐานะของพรรคเพื่อไทย เราผ่านอะไรกันมาเยอะมากๆ เราเป็นพรรคการเมืองประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทํามากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเช่นกัน

เรียนรู้มากมายจาก‘ทักษิณ’

. “ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบคุณ ดร.ทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อที่ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ของท่านและทำให้ได้เรียนรู้ ได้ใกล้ชิดและที่สำคัญได้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของดิฉันในการดำรงชีวิต ดิฉันรู้ดีว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสําคัญมากๆ โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน แน่นอนค่ะดิฉันมั่นใจว่า เรามีบุคลากรที่มีความสามารถ สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เราจะทำพรรคเพื่อไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว

ประกาศพาพท.กลับมาเป็นเบอร์1

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารของพรรคเพื่อไทยทีมใหม่นี้ จะต้องถอดบทเรียน ทบทวน การเลือกครั้งที่แล้ว เพื่อทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะนําพรรคเพื่อไทยของเราให้กลับมายืนอยู่ในใจพี่น้องประชาชนในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างยั่งยืน พรรคเพื่อไทยจะยังคงสานต่อภารกิจสําคัญ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ทั้งด้านความเป็นอยู่ สิทธิเสรีภาพอย่างที่เราทำมาต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 25 ปี ด้วยรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง

ไม่ทิ้งDNAเดิมของพรรค

. นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า เราจะไม่ทิ้ง DNA เดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นก็คือการทำนโยบายที่เราสัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝัน ให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคําสบประมาท ด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้ DNA นี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไปและพัฒนาตามยุคตามสมัย จะมี 4 ข้อที่สำคัญที่คณะทีมผู้บริหารทีมใหม่ จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างชัดเจน 1.คือ เราจะทำ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจิทัล เพื่อที่ว่าไม่ว่าคณะเข้ามาทำงานอย่างไร ก็จะได้มีการต่อยอดและพัฒนาได้อย่างง่ายขึ้น ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากขึ้น 2.เราจะสร้างองค์กรแนวราบ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกๆ คน ทำให้พรรคได้เกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น

สร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทย

3.เราจะทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูล ศูนย์วิจัย เพื่อที่จะพัฒนานโยบายของเรา ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อปรับใช้ตามยุคสมัยให้ทันท่วงที และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน เราจะมีการฝึกอบรมศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นยุวสมาชิกหรือสมาชิกทั่วไป แบ่งพื้นที่ให้คนทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ได้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ไอเดียซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และ 4. ข้อสุดท้ายนี้เป็นข้อที่สำคัญ เราจะสร้างเครือข่าย ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ให้แข็งแรงและมีในทุกๆ พื้นที่ของประเทศไทย เพื่อที่เราจะได้รับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนมา ของตัวเองและของครอบครัวได้อย่างชัดเจน ให้มาถึงพรรคเพื่อไทยได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

“เศรษฐา”ชม“อุ๊งอิ๊ง”เก่งเป็นนายกฯได้

ต่อมา เวลา 14.40 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังให้สัมภาษณ์ภายหลังจากผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้แสดงความยินดีหรืออวยพรอะไรให้กับ น.ส.แพทองธารชินวัตร ภายหลังได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า “อวยพรไปแล้ว สู้อยู่แล้ว และทุกคนก็สู้หมด ทุกคนช่วยกันหมด และเป็นกำลังใจให้ หากอยากให้ช่วยอะไรก็บอก และยินดีแต่เห็นว่า น.ส.แพทองธาร เก่งอยู่แล้วและมีทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่ มีแรงและพลังสูงทุกคน ทุกคนมั่นใจครับ”

นายกฯ ยังกล่าวขยายความคำว่า “มั่นใจ” หมายความว่า เป็นนายกฯต่อได้สบายๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้แซวกลับไปว่า “ เปิดประเด็นเองอีกแล้ว” โดยนายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแค่หันมายิ้มอย่างมีเลศนัย

นิมนต์พระเกจิดัง10วัดทำบุญตึกไทยฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในเวลา 07.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป มาทำบุญ ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัว ประกอบด้วย 1.สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม 2.สมเด็จพระมหาธีรราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 3.สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม 4. พระพรหมกวี วัดกัลยาณมิตร 5.พระพรหมวชิรมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม 6.พระพรหมวชิรากร วัดราชผาติการาม 7.พระธรรมโพธิมงคล วัดสระเกศ 8.พระธรรมวชิราภรณ์ วัดเทวราชกุญชร 9.พระธรรมวชิรปาโมกข์ วัดเทพศิรินทราวาส และ 10.พระเทพวชิรเมธี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

‘เศรษฐา’เตรียมค้างคืนทำเนียบ

โดยมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้พูดกับคนใกล้ชิด ว่า มาทำงาน มาอยู่ที่ตึกไทยคู่ฟ้าเกือบจะ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้ทำบุญอะไร จึงอยากจะทำบุญเป็นการส่วนตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล เชิญเฉพาะคนใกล้ชิดมาร่วมทำบุญ โดยไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ คาดว่าการทำบุญดังกล่าว ก่อนที่ นายเศรษฐา จะพักค้างคืนที่ตึกไทยฯตามที่ประกาศไว้ ซึ่งมีรายงานว่าห้องสำหรับนอนพักค้างคืนของนายกรัฐมนตรีได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมให้นายกรัฐมนตรีเข้าพัก

“สมเด็จธงชัย”พรมน้ำมนต์

เวลา 08.12 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกมนตรี เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า วันนี้ นายเศรษฐา เป็นการทำบุญแบบด่วน และกระทันหัน เมื่อเห็นว่ามีเวลาน้อยนิดเลยตัดสินใจทำเลย เนื่องจากเข้ามาอยู่ทำเนียบรัฐบาล 2 เดือนแล้วยัง ไม่ได้ทำบุญเป็นเรื่องราวเลย จึงชวนบุคคลใกล้ชิดมาร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ไม่ได้เชิญใครมาก เพราะเกรงใจ เนื่องจากวันนี้จะมีประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทยด้วย

นายสมคิด กล่าวว่า ในพิธีพระผู้ใหญ่ได้ให้พรนายกฯและคณะตามปกติ ให้มีสุขภาพแข็งแรงทุกคน แต่ที่คุยเป็นการส่วนตัวกับนายกฯตนไม่ได้ยิน ซึ่งวันนี้เป็นพิธีทางสงฆ์เพียงอย่างเดียวไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีอะไรทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามทางสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี(สมเด็จธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามได้ประพรมน้ำมนต์ บริเวณห้องที่จัดเตรียมไว้สำหรับที่นายกรัฐมนตรีจะมานอนที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลตามที่เคยระบุไว้ด้วย