‘สรวงศ์’ มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ตทำได้จริงกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ลั่นถ้าไม่คิดต่างประเทศก็ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ชี้รัฐบาลรับฟังทุกฝ่าย แต่การบริหารต้องกล้าตัดสินใจ ขณะที่"อนุสรณ์"ขอให้รอฟังรายละเอียดให้ครบถ้วนค่อยวิจารณ์
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่หลายภาคส่วนยังคงวิจารณ์จะโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอย่างต่อเนื่องล่าสุดมีการออกมาพูดว่าหากต้องกู้เงิน รัฐบาลจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 1.4 แสนล้าน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง รับผิดชอบ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเป็นประธาน แต่ในนามของพรรค พท. มั่นใจเกี่ยวกับโครงการนี้ เพราะไม่ใช่นโยบายแรกที่เราเสนอแล้วมีความแตกต่างจากพรรคอื่น ถ้าจำกันได้ตอน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรก ก็มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์โครงการว่าจะทำได้อย่างไร เอาเงินจากไหน ไม่ปฏิเสธว่าการออกนโยบายที่ไม่เหมือนคนอื่นต้องมีคนเห็นต่าง แต่ถ้าเขาคิดกันได้ประเทศก็ไม่เป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรที่แตกต่างให้บ้านเมืองมันคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม
นายสรวงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นการที่นโยบายนี้ออกมา ตนอยากคนไทยหันกลับมามองคนที่เขาต้องการ นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย แต่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกไม่ต้องกระตุ้น เศรษฐกิจไทยไปในทางที่ดีแล้ว ไม่ทราบว่าดูตัวเลขจากไหน พวกตนเป็นสส.บ้านนอกอยู่กับประชาชนทุกวัน ไม่เห็นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเลย เราย้ำอยู่กับที่ บางคนพูดว่าเราถอยหลังไปแล้ว ก็อยากให้ดูภาพรวม จริงๆ แล้วเราเสียงบประมาณที่ผูกพันอยู่แล้วมากกว่าวงเงินที่ใช้ตรงนี้ แต่นี้เป็นนโยบายครั้งเดียวที่จะกระชากเศรษฐกิจขึ้นมาให้คนในประเทศมีเงินทองหมุนเวียน ดึงดูดนักลงทุนในไทย
เมื่อถามถึงกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งกรรมการมาศึกษา และรับฟังความเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้า ป.ป.ช. ทักท้วงมาแล้วมีเหตุผลรัฐบาลก็รับฟัง นายกฯ เปิดฟังทุกความเห็น แต่ถ้าเขาคิดกันได้ก็ไม่เป็นแบบนี้ ถ้าย้อนไปยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โครงการ 2 ล้านล้าน ที่ต้องหยุดไป ตอนนี้ใช้เงิน 4 ล้านล้าน ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ ประเทศเสียอะไรไปบ้าง เสียโอกาสมากว่าเงินที่สุงทุนไปเท่าไร บางอย่างตีมูลค่าไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปแล้วเป็นมูลค่ามหาศาลมาก ถ้ามีการทักท่วงจากองค์กรอิสระหรืออะไร นายกฯรับฟัง แต่การบริหารต้องเดินหน้าต้องกล้าตัดสินใจ ถ้าเราไม่กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมากก่อนก็อยู่กับที่เหมือนเดิม.
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สว.ตั้งวงเสวนาจี้ลดเพดานแจกเงินดิจิทัล ว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลยินดีรับฟังทุกการวิพากษ์วิจารณ์จากทุกภาคส่วน นอกจากการวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางด้านงบประมาณแล้ว ในมิติตัวเลขการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องหยิบยกมาพิจารณาด้วย หากยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เสียงประชาชนที่สะท้อนออกมาตั้งแต่เลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน ก็ยืนยันชัดมาโดยตลอดว่า ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้านโยบายดิจิตอลวอลเล็ตต่อไป รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานเรื่องดิจิตอลวอลเล็ตขึ้นมาเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างรอบคอบ ยึดการรักษากรอบวินัยการเงินการคลัง การเห็นต่าง วิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิ แต่ควรรอรายละเอียดของโครงการดิจิตอลวอลเล็ตให้ครบถ้วนก่อนแล้วค่อยออกมาให้ความเห็นน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ไม่อยากให้ตั้งธงสมมติฐานเองแล้วก็มองแต่ว่าจะเกิดผลกระทบด้านลบต่างๆ การไปเปิดประเด็นปลีกย่อยแตกใหม่ออกไปเรื่อยๆอาจจะทำให้ประชาชนสับสน
“การเฝ้าติดตาม ตรวจสอบ ประเมินการดำเนินการในนโยบายรัฐบาล ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่สร้างความสับสน หรือทำให้ประชาชนเสียสิทธิในการเข้าถึงนโยบายของรัฐบาล” นายอนุสรณ์ กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี