‘วราวุธ’เปิดสถิติ 5 วัน‘ศูนย์ศรส.’ รับร้องเรียน 2,195 ราย พบ กทม.สูงสุด 60% เหตุกระทำความรุนแรงเด็ก-สตรี ส่ง‘กัญจนา’เยี่ยมเด็ก 3 ขวบปทุมธานีถึงICU เผยแรงงานไทยขอ‘พม.’เยียวยา เงินสงเคราะห์-ฝึกอาชีพ หลังหนีสงครามจากอิสราเอล ยืนรัฐบาลเร่งลดภาระให้ประชาชน พม.หนุนช่วยปากท้องกลุ่มเปราะบาง
7 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทำงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า หลังจากที่เริ่มเปิดศูนย์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมา มีการสรุปตัวเลขถึงวันที่ 5พฤศจิกายน พบว่า มีประชาชนที่ติดต่อขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ศรส. 2,195 ราย ซึ่งมีทั้งผู้มาขอคำแนะนำให้บริการ ขอคำปรึกษา ขอรับสวัสดิการในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ เด็กแรกเกิด และผู้พิการ
“ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงกับเด็กสตรี และผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยในช่วง 1-5 พฤศจิกายน นั้น พบเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงในครอบครัว 66 ครั้ง คิดเป็นเฉลี่ยวันละ 13 ครั้ง และที่สำคัญเป็นการกระทำจากบุคคลในครอบครัว คิดเป็น 60% และพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเหตุมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร มากถึง 26 กรณี เมื่อ ศรส. ได้รับแจ้งเหตุได้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และทีมที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือเข้าไประงับเหตุ และป้องกัน เข้าไปวางแผนให้การช่วยเหลือ ทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ซึ่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะในกรุงเทพมหานคร แต่มีอยู่ในทุกๆจังหวัดทั่วประเทศ” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมเครือข่ายทีมสหวิชาชีพของจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการเด็กอายุ 3 ขวบ ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ทราบว่าล่าสุดเด็กมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่กรณีนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ทางกระทรวงพม.กำลังประสานทุกหน่วยงาน และเร่งรัดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องของคดีความ
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือแรงงานไทยเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ในส่วนของพม.นั้น จากที่ พม.ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.-4 พ.ย. ทางกระทรวงพม. โดยศูนย์ศรส. ได้ให้การดูแลและให้คำปรึกษาแก่แรงงานที่เดินทางกลับมาดังกล่าว ประมาณ 8,348 ราย และได้ช่วยเหลือส่งกลับภูมิลำเนาแล้ว 300 กว่าราย คิดเป็นเงิน 234,000 บาท และได้มีการจัดที่พักให้ด้วยบางส่วน และมีการติดตามไปเยี่ยมถึงบ้านของแรงงานไทยใน 62 จังหวัด จำนวน 1,458 ราย และมีผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือประมาณ 300 กว่าราย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการขอรับความช่วยเหลือในรูปของเงินสงเคราะห์ การฝึกฝนอาชีพ ทุนการศึกษา รวมถึงการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ซึ่งศูนย์ ศรส. จะเร่งเยียวยาให้กับแรงงานไทยเหล่านี้ต่อไป
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลที่ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นอันดับแรก ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้เร่งดำเนินการ มาตลอด 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน ค่าน้ำมัน ที่กระทรวงพลังงานกำลังเร่งดำเนินการอยู่ การลดค่าไฟฟ้า ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งการจะลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ รัฐบาลต้องคำนึงถึงทุกมิติ เพราะขณะนี้เกิดสถานการณ์การเมืองในทั่วโลก ที่เรียกว่าภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้นเมื่อเกิดความไม่สงบในหลายประเทศ ก็จะส่งผลให้ต้นทุนค่าก๊าซและน้ำมันสูงขึ้น ทำให้กระทบไปถึงค่าขนส่ง และค่าพลังงานในประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างในระยะยาว ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทุกคน กำลังเร่งให้การดูแลประชาชนคนไทย ในช่วงที่สถานการณ์มีความเปราะบางและเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีข้อเสนอในการดูแลประชาชนด้านสังคมบ้างหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงพม. เน้นดูแลกลุ่มเปราะบาง เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เพราะด้วยค่าคลองชีพและค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคน รวมถึงกลุ่มเปราะบางด้วย จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงพม.ที่ต้องทำงานหนักมากขึ้นในการดูแลประชาชนกลุ่มนี้ โดยทางกระทรวงพม. ให้เบียร์ยังชีพแก่ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เบี้ยเด็กแรกเกิด เพิ่มเบี้ยค่าอาหารแก่เด็กที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพม. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี