‘ผู้การแต้ม’ฝากโจทย์ใหญ่ ‘ปฏิรูปตำรวจ’ให้ปชช.เชื่อมั่น อย่าลืมให้ความสำคัญคุณภาพชีวิตเจ้าหน้าที่ พร้อมยกโมเดลประเทศญี่ปุ่นหนุนให้เงินเดือนเยอะๆจะได้ไม่ทุจริตต่อหน้าที่
8 พ.ย. 2566 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ในประเด็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์องค์กรตำรวจของไทย ว่า จริงๆ แล้ว คนที่มุ่งมั่นเข้ามาเป็นตำรวจทุกคนอยากเป็น “ตำรวจอาชีพ” แต่เมื่อเข้ามาแล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้ที่ทำให้ใช้อำนาจและความเป็นตำรวจไปหากินในทางที่ไม่ดี เลยกลายเป็น “คนที่มีอาชีพตำรวจ” แต่ไปทำมาหากินอย่างอื่น เช่น เปิดเว็บพนัน หรือทำธุรกิจอื่นๆ แต่แฝงตัวมาเป็นตำรวจ
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นตำรวจ จึงเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ แต่หากมองให้ลึกลงไป กรมตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมควรถูกปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่าตัวองค์กรไม่ผิด แต่ที่เกิดความเสียหายล้วนมาจากคน อย่างโครงสร้างองค์กรตำรวจไทยก็มีความคล้ายกับญี่ปุ่น คำถามคือแล้วองค์กรตำรวจญี่ปุ่นเขามีปัญหาหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มี นั่นเป็นเพราะคนของเขาดี ส่วนของไทยการแต่งตั้งโยกย้ายมีเรื่องซื้อ-ขายตำแหน่ง เล่นพรรคเล่นพวก แบบนี้คนที่ทำงานดีก็หมดกำลังใจแล้วก็ไม่ทำงาน ผลคือความเดือดร้อนก็ไปตกอยู่กับประชาชน
ทางแก้คือต้องทำให้คนดีได้เป็นผู้บริหารองค์กร เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับตำรวจรุ่นน้อง อย่างสมัยตนเป็นตำรวจใหม่ๆ ขนาดออกเวรแล้วไปกินเหล้ายังเจอสารวัตรใหญ่ตำหนิ แต่ยุคนี้ถึงขนาดลูกน้องถือไวน์ไปชวนผู้บังคับบัญชากิน แบบนี้จะปกครองกันได้อย่างไร รวมถึงมีคำถามด้วยว่าเงินซื้อไวน์เอามาจากไหน หรือการที่ตำรวจกินเหล้านอกเวลางาน หรือไปดื่มสังสรรค์ตามงานสังคมสามารถทำได้ แต่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยว่าสมควรไปกินกับใคร เช่น ชาวบ้านคนธรรมดาเชิญไปร่วมงานก็ไป แต่อีกคนที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ค้ายาเสพติด มาเชิญถามว่าจะไปหรือไม่
ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นกับการทำงาน อย่างตนเคยไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา ตำรวจที่นั่นมีเครื่องมือที่ต้องใช้ทำงานครบครัน ในขณะที่ตำรวจไทย อาวุธปืน เครื่องคอมพิวเตอร์ กระดาษ ฯลฯ ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ต้องซื้อเองทั้งหมด คำถามคือแบบนี้จะไม่ทุจริตได้อย่างไร เรื่องนี้อยู่ที่ภาคการเมืองด้วยเพราะเวลาจะผ่านงบประมาณของตำรวจนั้นยากมาก ที่ผ่านมาแวลามีการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ไม่เคยมีตำรวจเข้าไปเป็นกรรมาธิการ อย่างมากก็เพียงเข้าไปแสดงความคิดเห็น ฝ่ายการเมืองจึงไม่เข้าใจความเดือดร้อนของตำรวจ
“เวลาพิจารณาไม่เคยพูดถึงสวัสดิการของตำรวจ ไปดูแฟลตตำรวจสิ อยู่กันอย่างสลัม แต่ไปดูแฟลตทหาร ไม่ได้อิจฉาเขานะ แต่ผู้บังคับบัญชาเขาดี แล้วเขาก็มีกำลังใจ แต่ตำรวจไม่ใช่ ไปดูโรงพัก ตำรวจอยู่อย่างสลัม อย่างนี้เวลาประชุมหรือพูดกัน จะเอาตำรวจอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คุณไม่มองหันหลังดูเขาเลย” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
อดีตรอง ผบช.น. กล่าวต่อไปว่า อย่างกรณีที่มีข้อเรียกร้องให้เลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ออกไปก่อน เพราะกฎหมายกำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องมีกล้องบันทึกวีดีโอติดตัวขณะออกปฏิบัติหน้าที่ แต่ตำรวจยังไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจัดซื้อกล้อง ซึ่งจริงๆ แล้ว ต้องเตรียมการเรื่องนี้มาก่อนที่จะออกกฎหมายมาบังคับใช้ ในขณะที่ตำรวจสหรัฐฯ มีกล้องติดตัวพร้อม เพื่อความปลอดภัยไม่ใช่ของผู้ถุกจับกุมแต่รวมถึงตัวเจ้าหน้าที่เองด้วย
และต้องยอมรับว่า ในประเทศไทยข้าราชการที่ทำงานหนักแต่รายได้น้อยที่สุดคือตำรวจ เจ้าหน้าที่หลายนายก็ต้องนอนกันในโรงพัก อย่างตนก็เคยนอนที่ทำงานและกลับบ้านเพียงสัปดาห์ละครั้ง เพราะงานเยอะมาก ชุดนอนคือใส่กางเกงสีกากี เสื้อคอกลม เตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา ส่วนคำถามเรื่องตำรวจชั้นยศนายพลมีมากเกินไปหรือไม่ ตนบอกได้ว่าไม่เยอะเหมือนทหาร เพราะแต่ละชั้นยศมีตำแหน่งระบุชัดเจน แต่จะมีช่วงที่มีนโยบายเกษียณก่อนครบอายุกำหนด ผู้สมัครใจเข้าโครงการนี้ก็จะได้ยศเพิ่มขั้นหนึ่ง เช่น จากพลตำรวจตรีเป็นพลตำรวจโท
“ผมชอบยกประเทศญี่ปุ่น รู้ไหมข้าราชการอะไรเงินเดือนเยอะที่สุด ตำรวจกับครู ทำไมเขาให้ตำรวจเยอะ เพราะตำรวจดูแลความทุกข์-สุขของเขา เขาต้องให้เงินเยอะตำรวจจะได้ทำงาน เขาจะได้ปลอดภัย ตำรวจเงินเดือนเยอะจะไม่ทุจริตต่อหน้าที่ นี่ตรรกะของญี่ปุ่นเขาวางไว้ ทำไมเขาให้เงินเดือนครูเยอะ ถ้าเงินเดือนครูเยอะครูเก่งๆ ก็จะมาสอบ ครูเก่งเด็กก็เก่ง ชาติเจริญมีระเบียบวินัย ดังนั้นตรรกะอันนี้ประเทศไทยมันกลับกัน ครูดันเงินเดือนน้อย พูดตรงๆ ไม่ได้ดูถูก สอบอะไรไม่ได้ก็มาสอบครู อีกอันตำรวจดันให้เงินเดือนน้อยอีก แล้วบอกจะให้ทำงานดี มันก็ผิดกัน นี่คือหลักการ” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
ชมคลิปเต็มได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=eq24dYdf1yo
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี