ครม.มีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แคมเปญนวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แคมเปญนวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)
จากนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ที่มีเป้าหมายให้เกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรตรงตามความต้องการตลาด นำเทคโนโลยี นวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
โดย นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าจากการได้พูดคุยกับหลายประเทศทราบว่า ถั่วเหลืองเป็นพืชที่ตลาดโลกต้องการ รวมถึงประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้ามากถึง 99% ถั่วเหลืองจึงเป็นพืชที่มีโอกาสทางตลาดอีกมาก และควรส่งเสริมให้มีการผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร
โดย กษ.จึงได้สนองต่อแนวทางดังกล่าว จึงได้นำนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อน โดยการส่งเสริมการปลูกพืชที่ตลาดมีความต้องการสูง ทดแทนการนำเข้า และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น ซึ่ง “ถั่วเหลือง” เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากสามารถผลิตหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ช่วยบำรุงดิน โดยประเทศไทยมีความต้องการใช้ถั่วเหลืองมากถึง 3.2 ล้านตันต่อปี ในขณะที่สามารถผลิตถั่วเหลืองได้เพียง 2 - 3 หมื่นตันต่อปี
กษ.ได้ร่วมกับสมาคมการค้าผู้ผลิตอาหารจากถั่วเหลืองไทย สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาส่งเสริมผลผลิตถั่วเหลืองให้ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น จนสามารถเพิ่มผลผลิตจาก 267 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มเป็น 300 - 400 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นผลสำเร็จ เกษตรกรสามารถจำหน่ายได้ราคาสูง ในราคาเฉลี่ย 21 - 24 บาทต่อกิโลกรัม ได้ผลตอบแทนสุทธิ ไร่ละ 3,500 - 4,700 บาท ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนสุทธิของข้าวเหนียวถึง 2 เท่า
จากการขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินงานข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการในแคมเปญ “นวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร” โดยโครงการดังกล่าว ได้คัดเลือกพื้นที่อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงของถั่วเหลืองไทยเป็นพื้นที่นำร่องโครงการฯ ซึ่งผลสำเร็จจากแคมเปญครั้งนี้ กษ.จะมีการผลักดัน ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ไปยังพื้นที่อื่นๆ ของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองสำคัญของไทยต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี