เลือดไหลอีก! ‘สาทิตย์-อรอนงค์’ไขก๊อก
ศึกในปชป.ยังไม่จบ
แม่ยก‘ติ๊งต่าง’ถล่มก่อนลาออก
‘อภิสิทธิ์’ย้ำกรีดเลือดเป็นสีฟ้า
เข้าพรรคกราบลาพระแม่ธรณีฯ
‘วัชระ’เชื่อ‘เฉลิมชัย’คุมทัพได้
พรรคประชาธิปัตย์ยังเลือดไหลไม่หยุด “สาทิตย์-อรอนงค์” ไขก๊อกอีก รับไม่ได้ที่ไปที่มากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ “บิดเบี้ยว-กินรวบ” เหล่าแม่ยกเปิดศึกถล่มซ้ำ ส่วน“มาร์ค”เปิดเทปยันกรีดเลือดเป็นสีฟ้า ขณะที่ “เต้ 007” รุดให้กำลังใจ ”เฉลิมชัย ศรีอ่อน”เชื่อนำทัพประชาธิปัตย์ ฝ่ายกุนซือแนะ”เสี่ยต่อ” รีบเสริมดวงบารมี มีประชาสัมพันธ์ ปชป.ระเบิดกลุ่มไลน์ทิ้ง เขี่ยชื่อนักข่าวออก 400 ชีวิต
เมื่อ 11 ธันวาคม 2566 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ระบุว่า...คิดหนักมา 2 วัน แม้ยังยึดมั่นในอุดมการณ์แต่ในวันที่จิตวิญญาณประชาธิปัตย์มิอาจเปล่งประกาย หลังหารือทีมงานที่สู้ร่วมกันมากว่า 28 ปี จึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์……ด้วยรักและผูกพัน ลงชื่อสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รับไม่ได้ผู้บริหารชุดใหม่
ต่อมานายสาทิตย์ เปิดเผยเหตุผลถึงการตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคระหว่างการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ทึ่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่คือลาออก แต่ไม่ไปอยู่ที่ไหนหรือสังกัดพรรคการเมืองใด โดยให้เหตุผลว่าหากอยู่ก็จะเป็นที่หวาดระแวงของคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่ ซึ่งตนมองเหตุผลคือต้องการเปิดพื้นที่หรือเปิดทางให้กก.บห.ชุดนี้ทำงานโดยไม่ต้องหวาดระแวงในตัวเอง ส่วนการตัดสินใจของตนเกิดขึ้นหลังจากที่เห็นกระบวนการตั้งกก.บห. และมองว่ามันไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้มันแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา คือไม่ได้มีตัวแทนจากทุกกลุ่มที่เข้ามาจนกลายเป็นระบบพรรคพวก
“มันไม่ใช่จิตวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นหรือที่พวกเรารู้จักมาตลอด ผมจึงต้องลาออกมาก่อนเพื่อแสดงให้รู้ว่าเราต้องการจิตวิญญาณพรรคที่แท้จริง และชี้ให้เห็นว่าจิตวิญญาณแบบนี้มันไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจไปไหนหรือทำอะไร เพียงแต่เราออกมาเพื่อจะถอยมาตั้งหลัก และดูเหตุการณ์ว่าพรรคจะดำเนินการไปอย่างไรต่อไป” นายสาทิตย์ กล่าว
กรีด”สส.แทน”รักพรรคจริงไหม
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุหากรักพรรคจริงต้องอยู่พรรคต่อเพื่อช่วยกันฟื้นฟูพรรค นายสาทิตย์กล่าวว่า ขอย้อนกลับไปว่าหากรักพรรคจริงมันต้องไม่ทำแบบนี้มาตั้งแต่ต้น จะเห็นว่าคนที่ลาออกไปหลายคนใน2-3วันนี้ เป็นลูกหม้อของพรรคที่อยู่มายาวนานทั้งนั้น สำหรับตนเข้ามาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เป็นยุวประชาธิปัตย์ตอนเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการบริหารพรรคสาขาตรังตั้งแต่อายุครบเกณฑ์ และมาลงสมัครสส.ตั้งแต่ปี 2538 ได้เป็นสส.ยาวนานตลอดมาถึงการเลือกตั้งครั้งที่แล้วทั้งหมด7 สมัยร่วม 28 ปี หากนับรวมๆแล้วตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาถึง 40 กว่า ปี ซึ่งตนเชื่อว่าจะอีกหลายคนที่จะทยอยลามีตามมาอีกจำนวนมาก
“ผมขอฝากถึงคนที่อยู่กับพรรคต่อไปว่า ต้องตั้งคำถามให้หนักว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเกิดจากอะไร ขออย่าไปโทษคนอื่นว่าเขาไม่รักพรรคหรือไม่ห่วงพรรค ไม่ยอมไม่เข้ามาช่วยกันฟื้นฟู มันต้องมองให้พ้นตัวเองออกไปว่าทำไมคนที่เขาอยู่กับพรรคมายาวนาน จึงพร้อมใจกันคิดแบบนี้ หากจะมองในมุมของตัวเองเท่านั้น หรือมองไม่ผ่านจุดนี้ได้ก็ยากที่จะฟื้นฟูพรรคขึ้นมาใหม่อีกครั้ง” นายสาทิตย์ กล่าว
“อรอนงค์”ไขก๊อกอีกราย
น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีตสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ภาพ คลิป พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า..สจฺจํ เว อมตา วาจา ขอบพระคุณท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ ที่เป็นแบบอย่างนักการเมืองที่ดีมาโดยตลอด ยังคงรัก ศรัทธา และเป็นกำลังใจให้ท่านหัวหน้าตลอดไป 25 ปีกับชีวิตนักการเมืองที่ไม่เคยเปลี่ยนพรรค พูดได้เต็มปากว่า เลือดฟ้ามันข้น กรีดมายังงัยก็ฟ้าแน่นอน
ตุ๋ย ยังคงรักพรรคไม่เสื่อมคลาย แม้วันนี้ต้องตัดสินใจที่ฝืนความรู้สึก ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรคที่รักที่สุด แต่จะไม่ไปไหน ยังคงอยู่ตรงนี้ เฝ้ามองด้วยความหวังดีและห่วงใยตลอดไปค่ะ #ประชาธิปัตย์ #DemocratParty
รับไม่ได้ตระบัตสัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนที่ 9 ปรากฏว่ามีสมาชิกจำนวนหนึ่งได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกพรรค เช่น นายวิบูลย์ ศรีโสภณ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดชีพตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2541 โดยในหนังสือระบุถึงสาเหตุขอลาออก ว่า
1.อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เปลี่ยนไป เน้นใช้เงินสร้างพรรคและสส.ในสมาชิกพรรค
2.หัวหน้าพรรคตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ไม่สามารถให้การเคารพได้อีกต่อไป
3.หัวหน้าพรรคสร้างทัศนคติให้สส.ในพรรคขาดความเคารพ กระด้างกระเดื่องกับอดีตหัวหน้าพรรค สร้างความแตกแยกในพรรค ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนตลอด77-78ปี
แม่ยกปชป.ขอหยุดพัก
นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และแกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Kanjanee Valyasevi” ดังนี้... #ขอหยุดพัก หลังจากได้ร่วมเดินทางปกป้องพรรคปชป.มายาวนาน มาถึงวันนี้จะขอหยุดพักเสียที เหตุเพราะ
1. ดิฉันไม่เชื่อถือในตัวหัวหน้าพรรคและทีมงานบางคน
2. ไม่เชื่อว่าจะมีความสามารถทำให้พรรคเป็นที่ยอมรับในสังคม
3. ในเวลานี้พรรคตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดิฉันและปชช.อีกมากมายต้องการผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ #มีจุดยืนชัดเจนมานำพรรค
- เหตุที่ต้องลาออก(ทั้งๆที่รักพรรคอย่างบริสุทธิ์ใจมายาวนาน) แต่จำต้องลาออก เพราะไม่อยากถูกเหมารวมไปว่าเป็นคนประเภทเดียวกัน จึงอยู่ด้วยกันได้
#ดิฉันเป็นคนชัดเจนไม่ใช่พวกอีแอบ แอบไปต่อสายใครบางคนเพื่อให้ได้ประโยชน์
ปชป.ระเบิดทิ้งกลุ่มไลน์นักข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 10 ธันวาคม 2566 กลุ่มไลน์ส่งข่าวของทีมประชาสัมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีเจ้า หน้าที่ไล่ลบรายชื่อของนักข่าวทุกสำนักกว่า 400 ชีวิต ออกจากห้องส่งข่าวแบบไม่ทราบสาเหตุ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามโทรไปสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในพรรคทั้ง 2 ขั้วความขัดแย้ง แต่ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร ทำไมต้องลบ
ส่วนเจ้าหน้าที่ๆลงมือลบรายชื่อนักข่าวออกทั้งหมดจนกลายเป็นห้องว่างเปล่า ใช้ชื่อบัญชีในไลน์ว่า Goldie
มาร์คกรีดเลือดเป็นสีฟ้า
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์รายละเอียดคำต่อคำที่ได้พูดในที่ประชุมพรรคก่อนจะตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคกรีดเลือดผมมาก็เป็นสีฟ้าจนวันตาย เป็นลูกพระแม่ธรณีที่จะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้บ้านเมืองต่อไป
“สามารถ”แนะ”เสี่ยต่อ”เสริมดวง
ด้านนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้คำแนะนำนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่กำลังเจอมรสุมทางการเมืองหลังเข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่าอย่าได้ใส่ใจ เสียงนกเสียงกาที่ออกมาโจมตี ออกมาให้ร้าย แต่ขอให้ยึดมั่นความถูกต้อง พร้อมกับชี้แนะให้เสริมบารมีอีก 2 อย่าง คือตั้ง รูปปั้นพระนเรศวร และเจ้าพ่อกวนอู นอกเหนือจากกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์
นายสามารถ ย้ำว่า ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องสิ่งใดกับพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแค่เคยเลือกพรรคนี้มาก่อน และมีเพื่อนทางการเมือง ทั้ง ส.ส. และอดีตรัฐมนตรีอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ที่ต้องออกมาพูดเพื่อความถูกต้อง พร้อมเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปด้วยฝีมือและการทำงานนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนใหม่ จะสามารถรักษาจุดแข็งของพรรค และกอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต ตามจุดยืนและประวัติศาสตร์พรรคที่มีมายาวนานได้อย่างแน่นอน
ท้ายนี้ นาย สามารถยังย้ำไปยังพรรคก้าวไกลว่า ให้นาย ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน มาขอให้นาย เฉลิมชัย ศรีอ่อนในนามแม่ทัพของพรรคประชาธิปัตย์ ลงชื่อเพื่อยื่นถอดถอนนาย เศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่า ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านต้องทำเรื่องนี้ทันที ที่เปิดสภาในวันพุธนี้เพื่อทำตามศรัทธาประชาชนที่เขาเฝ้ามองดูอยู่ว่าฝ่ายค้านจะมีฝีมือหรือไม่อย่างไร
“เต้”ยัน“เฉลิมชัย”คบได้
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในการขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ว่า ก่อนอื่น ตนขอ แสดงความยินดี กับ นายเฉลิมชัย ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์-อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือ พี่ต่อ ของน้องๆเพื่อนๆนักการเมืองด้วยกันเรียก ซึ่งตนรู้จักกับนายเฉลิมชัยมาร่วม 10 กว่าปี ตั้งแต่ที่ตนทำ NGO ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเดิมทีเท่าที่ผมทราบ นายเฉลิมชัยเป็นคนรักษาคำพูดอย่างมาก ไม่ใช่ดีแต่พูด พูดคำไหน คำนั้นตลอด เป็นนักปฏิบัติที่ดี ไม่เคยผิดคำพูด ทั้งพี่ๆน้องๆและประชาชน ข้าราชการในกำกับที่เคยบริหารงานมา รักพวกพ้อง และเป็นนักการเมืองน้ำดีที่มีน้อยมาก ทั้งนี้ บุคลิกของนายเฉลิมชัย เป็นคนไม่ค่อยพูด ถ้าพูดแล้วจะรักษาคำพูด รักษาสัจจะ จึงทำให้ เพื่อน สส. อดีต สส.รัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี ข้าราชการ ประชาชน ใครได้คบหาสมาคมด้วยก็จะพูดเป็นเสียง เดียวกัน คือ นายเฉลิมชัยเป็นคนคบได้คนหนึ่งเลย
“พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเก่าแก่ เปรียบได้เหมือน พ่อ แม่ ผู้ให้กำเนิดทั้ง สส.-รัฐมนตรี-ประธานสภาผู้แทนราษฏร-นายกรัฐมนตรี หลายต่อหลายคน กว่า 77 ปี ซึ่งหากคนในพรรคประชาธิปัตย์เอง ตำหนิพรรค ตำหนิคณะกรรมการบริหารพรรค ก็เหมือนต่อว่าบุพการี คนๆนั้นก็คือ คนอกตัญญู พรรคประชาธิปัตย์ มีทั้งช่วงรุ่งเรืองมาก รุ่งเรืองปานกลาง ล้มเหลวมาก ล้มเหลวปานกลาง ผ่านร้อนหนาวมาหลายยุคหลายสมัย ก็เป็นไปตามสภาวะสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้นๆ ซึ่งในมุมของผม ผมขอให้กำลังใจ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 พร้อม คณะกรรมการบริหารพรรค ให้ฟื้นศรัทธาของประชาชนให้กลับคืนมาโดยเร็ว ด้วยการทำงานให้ประชาชนได้สัมผัสได้ ไม่ว่าจะฐานะ ฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล ก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของพรรค ใครที่อยากมาทำงานการเมืองเพื่อประชาชนก็สามารถอาสาเข้าไปทำงานได้ถ้าตั้งใจจริง ไม่เกี่ยงที่มาของฐานะ แม้ลูกแม่ค้าตลาดนัด ยังประสบความสำเร็จ เป็นถึง นายกรัฐมนตรี ถึง 2 สมัย เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฏร ถึง 2 สมัย ไม่เหมือนพรรคอื่นๆ ที่เป็นพรรคครอบครัว หรือ พรรคสืบทอดอำนาจ หรือ พรรคเจ้าสัว ที่ยึดติดกับเจ้าของพรรค พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคแรกๆ ที่ผมคิดอยากจะทำงานทางการเมืองเพื่อประชาชนอีกครั้งต่อไป” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
“วัชระ”ให้กำลังใจ“เฉลิมชัย”
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ต้องขอบคุณเสียงสะท้อนของประชาชนทุกท่าน เพราะนี่คือสิทธิเสรีภาพ ไม่มีใครมาปิดปากประชาชนได้พรรคไม่ได้เป็นมรดกของตระกูลใด มีกฎหมายบังคับให้ปฏิบัติ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคผ่านไปแล้ว สมาชิกก็ต้องปฏิบัติตามมติพรรค ผมไม่อาจพูดสิ่งใดให้องค์กรเสียหายได้ เพราะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ได้สอนไว้อย่างนี้
การที่สังคมมีการวิจารณ์ถึงคำพูดของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ที่เคยพูดเรื่องเลิกเล่นการเมือง ถ้าได้ ส.ส.ต่ำกว่าเดิม 52 คน ในขณะเป็นเลขาธิการพรรคนั้น คนเป็นแม่ทัพก็ต้องปลุกระดมสมาชิกให้ฮึกเหิมสู้ศึกท่ามกลางสงครามการเมือง และการช่วงชิงการดูด ส.ส.จากพรรคที่มีทุนและมีอำนาจรัฐ เมื่อผิดพลาดก็มิอาจปฏิเสธและน้อมรับคำวิจารณ์
การที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 21 คน มีมติเอกฉันท์ขอให้นายเฉลิมชัย กลับมานำพรรค ก็เป็นเรื่องของพรรค ถ้ามีองค์ประชุมไม่ล่มเมื่อ 2 ครั้งก่อน นายนราพัฒน์ แก้วทอง เพื่อนผม อาจได้เป็นหัวหน้าพรรคไปแล้ว และเมื่อมีการประชุมครั้งที่ 3 สมาชิกเลือกตั้งให้นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคตามข้อบังคับ บางท่านไม่ชอบใจ แล้วจะให้ทำอย่างไร
ต้องมีคนผิดหวังและสมหวัง
การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคทุกครั้งที่ผ่านมา ย่อมทั้งคนดีใจเสียใจ ผิดหวังสมหวังเป็นธรรมดา บางท่านหาเสียงไม่ว่าแพ้ชนะก็จะไม่มีวันลาออกจากพรรคเด็ดขาด (ฮา) เป็น ส.ส.ได้เพราะพรรค เกิดจากพรรค ขอตายที่ประชาธิปัตย์ (ฮา) ผมได้ยินเป็นประจำและเข้าใจดีว่า ทุกท่านที่ต่างมีเข็มทิศทางการเมืองของตนเอง แต่เมื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคผ่านไปแล้วก็ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค บางสมัยมี ส.ส.ลงชื่อเพื่อให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัยก็ระงับไว้ อดีตหัวหน้าบางท่านก็บอกให้เป็นไปตามหลักการ เมื่อนายเฉลิมชัยได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค บางท่านกลับไม่ยอมรับ หลายท่านลาออกจากสมาชิก เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และเข้าใจเหตุผลในวันนี้ของแต่ละคน ยิ่งยามที่พรรคตกต่ำอย่างหนักในขณะนี้ บางท่านก็สบประมาทว่าสมัยหน้าจะสูญพันธุ์ ผมเป็นสมาชิกพรรค ผมก็รู้หน้าที่ว่าต้องช่วยกันฟื้นฟูพรรค ลบคำสบประมาท ให้เดินไปข้างหน้าอย่างไร เพื่อให้เป็นที่พึ่งพาของประชาชนเท่าที่จะทำได้
การลาออกของท่านอาจารย์อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ประชุมไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น ทุกคนเสียใจ แต่ท่านก็พูดทิ้งท้ายที่สำคัญว่าพร้อมจะกลับมาช่วยพรรคในอนาคต ซึ่งผมเชื่อว่าท่านหัวหน้าพรรคก็ต้องไปขอให้ท่านอาจารย์อภิสิทธิ์ และอดีตสมาชิกทุกท่านให้กลับมาช่วยพรรคไม่ช้าก็เร็ว ผู้ชนะต้องยื่นมือโอบอุ้มทุกฝ่ายให้สามัคคีกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าให้วาจาโวหารเชือดเฉือนกัน อย่าทะนงตน ซึ่งผมก็จะรอเพื่อนๆ ที่ลาออกไปอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหน ไม่ให้พรรคอื่นมาดูถูกได้
เชื่อ“เฉลิมชัย”ฟื้นฟูพรรคได้
ผมคิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ท่านก็รู้ว่าย่อมมีเสียงครหาวิจารณ์อย่างหนัก การที่ยอมกลับมานำพรรคตามข้อเสนอของ ส.ส.ย่อมตัองมีเหตุผลที่ยอมแม้แต่ละลายตัวเอง เพื่อฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ กาลเวลาและการกระทำของหัวหน้าพรรคเพื่อให้พรรคประสบความสำเร็จ ตามอุดมการณ์ของพรรคเท่านั้นที่จะพิสูจน์ในทุกคำครหา สังคม และประชาชนจะตัดสินหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ในที่สุด
นายเฉลิมชัยเป็นบัณฑิตลูกพ่อขุนรามคำแหง ได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ผมเป็นลูกพ่อขุนคนหนึ่ง ขอให้กำลังใจในการนำพรรคให้เดินหน้าต่อไป และขอให้กำลังใจ มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ผู้นำการเมืองหญิงรุ่นใหม่ ให้เข้มแข็งและเป็นผู้นำพรรคในอนาคต ส่วนการที่ผู้ใหญ่ของพรรคออกเตือนว่าอย่าเอาพรรคไปหากิน นั้นแสดงว่าในอดีตอาจเคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อนแล้วก็ได้
มั่นใจคนใต้หนุน“รทสช”
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ โดยมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ยังคงให้การสนับสนุนและไว้วางใจพรรครวมไทยสร้างชาติให้ทำงานอย่างเข้มแข็งในพื้นที่ต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้สมัครและ สส. ทำงานช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้มาโดยตลอด ผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ประมง เรื่องพืชผลการเกษตรให้พี่น้องเกษตรกร ฯลฯ และหลังจากนี้อีกกว่า 3 ปี ในวาระสภาและรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติจะยังคงมุ่งมั่นทำงานหนัก เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในภาคใต้และทั้งประเทศต่อไป
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ถือเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ในพื้นที่ภาคใต้ ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว การแข่งขันทางการเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นกว่าเดิมหรือไม่ จะไปในแนวทางใดนั้น นายธนกร ระบุว่า ไม่ขอวิจารณ์หรือแสดงความเห็นต่อพรรคอื่น แต่เชื่อว่าการแข่งขันทางการเมืองไม่ว่าจะพรรคใด ทุกพรรคย่อมมุ่งจะทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
“ท้ายที่สุดผลดีจะเกิดกับพื้นที่และประชาชนมากที่สุด มั่นใจว่าประชาชนดูออกและรับทราบดีว่าพรรคไหนทำงานจริง ทำต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมารวมไทยสร้างชาติทำงานอย่างเต็มที่ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ยึดมั่นในประชาชนและสถาบันหลักของชาติ”.ประกาศหยุดพัก!‘แม่ยก ปชป.’ยกเหตุ 3 ข้อเลิกปกป้องพรรคประชาธิปัตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี