สภาฯไฟเขียวรับหลักการยกเลิก‘กฎหมายเช็คเด้ง’ไม่ติดคุก แนะเข้มขีดเส้นใต้‘ใครเจตนาโกง’ยังต้องเข้าตาราง
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ยกเลิกพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้เสนอ มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อยกเลิกกฎหมายที่ให้ใช้เช็คทางธุรกรรม มีการกำหนดโทษทางอาญาจำคุกมาใช้บีบบังคับกับผู้ผิดนัดทางแพ่ง แม้ไม่มีเจตนาทุจริต ไม่สอดคล้องนโยบายรัฐบาลและรัฐธรรมนูญ มาตรา77 ที่ให้กำหนดโทษทางอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง จึงควรยกเลิกกฎหมายดังกล่าว และมีบทเฉพาะกาลให้ผู้ต้องโทษ อันเนื่องจากความผิดได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอภิปรายเห็นด้วยให้ยกเลิกร่างพ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เพราะเป็นกฎหมายล้าหลัง คนไม่ควรติดคุกกรณีเช็คเด้งที่เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจ อาทิ นายประสิทธิ ปัทมผดุงศักดิ์ สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า คดีเช็คเด้งหลายครั้งมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่การทุจริต หลายประเทศก็ไม่มีโทษอาญา คดีเช็คเด้งมีแค่ 1% มูลค่าเช็คเด้ง 900 ล้านบาท แต่ภาครัฐต้องใช้งบ 800 ล้านบาท และเจ้าหนี้ต้องใช้งบ 200 ล้านบาท ติดตามคดี เท่ากับต้องใช้เงิน 1,000 ล้านบาท ทวงหนี้ 900 ล้านบาท ไม่เกิดความคุ้มค่า
ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เห็นด้วยในหลักการยกเลิกคดีอาญาความผิดคดีเช็คเด้ง การยกเลิกกฎหมายดังกล่าวทันทีทันใด โดยยังไม่มีมาตรการอื่นรองรับ จะทำให้เช็คเป็นตราสารที่ขาดความน่าเชื่อถือทันที ดูแล้วแก้ปัญหาปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุที่ธนาคารจะต้องกลั่นกรองคนออกเช็คมีความสามารถจ่ายเช็คหรือไม่ การยกเลิกกฎหมายเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ควรมีมาตรการรองรับก่อน ไม่ใช่รวบรัด เลิกดื้อๆแบบนี้
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหากเกิดเช็คเด้ง ผู้สั่งจ่ายมีโทษติดคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นการใช้เช็ค แต่ปัจจุบันเช็คเด้งเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางครั้งธุรกิจมีปัญหา ต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่การทุจริต รัฐธรรมนูญกำหนดให้การติดคุกต้องใช้กับคดีอาญาที่มีโทษร้ายแรงจริงๆ ไม่ใช่มาจากการไม่ชำระหนี้ตามสัญญาได้ จึงต้องแก้กฎหมาย ไม่ให้กระทบกับสิทธิเสรีภาพประชาชน ถ้ากฎหมายมีผลบังคับใช้ ผู้ต้องโทษจะพ้นโทษทันที คดีอาญาที่ยังไม่มีคำพิพากษาจะถูกจำหน่ายออกจากสารบบ เหลือแต่คดีแพ่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืนเท่านั้น แต่หากพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้มีเจตนาโกงตั้งแต่ออกเช็ค ก็ยังถือว่ามีความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงได้
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกต การให้จำหน่ายคดีเช็คเด้งออกจากสารบบคดีอาญา โดยที่ยังไม่มีคำพิพากษาออกมา ดูแล้วเป็นธรรมหรือไม่ จะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เหล่าเศรษฐีหรือไม่ แม้แต่อดีตนายกฯบางคนติดคุก 1 นาที ก็ยอมไม่ได้ บางคนไม่กลัวความผิดทางแพ่ง แต่หวาดหวั่นห้องขัง ดูแล้วเป็นธรรมหรือไม่ แต่ควรมีบทบัญญัติรับโทษทางอาญาก่อนยกเลิกกฎหมายฉบับนี้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลักการกฎหมายฉบับนี้มีเหตุผล แต่สิ่งที่ต้องขีดเส้นใต้ให้ชัดเจนคือ เจตนาการทำผิด หากใครมีเจตนาทุจริตยังควรต้องติดคุกต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากที่สมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกแล้ว ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ยกเลิกพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ด้วยคะแนน 418 ต่อ 0
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี