‘ก้าวไกล’จัดทัพ33สส.ฝีปากกล้า
ชำแหละพรบ.งบปี’67
‘รังสิมันต์ โรม’จองงบทหาร
‘เพื่อไทย’ดักคออย่าล้ำเส้น
กลัวลักไก่ไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ปธ.วันนอร์ยืนยันเป็นกลาง
ประธานวันนอร์ บอกพร้อมแล้วที่จะให้มีการอภิปรายร่างงบประมาณ หลังปีใหม่ ยันคุมกติกาเป็นกลางไม่ให้น้ำท่วมทุ่ง ในขณะที่ “ก้าวไกล” จัดสส.ฝีปากกล้า 33 คน
ไว้ชำแหละ ขณะที่ รังสิมันต์ โรม จองพูดด้านความมั่นคง ส่วนเพื่อไทยพร้อมตอบโต้ดักคอ ฝ่ายค้านอย่าลักไก่เปิดศึกซักฟอกรัฐบาล
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบทบาทของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้(ชุดที่26) ว่า ตนอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรมา 44ปี ได้เห็นการพัฒนาของรัฐสภามาโดยตลอด กระทั่งการเลือกตั้ง สส.ปี2566 ก็เห็นการพัฒนาไปมาก โดยจะเห็นได้ว่า มีทั้งสส.คนรุ่นใหม่และสส.คนรุ่นเก่า หากสังเกตให้ดีจะเห็นการอภิปรายของสมาชิกที่อภิปรายได้มีสาระ มีเนื้อหาครบถ้วน มีการแสดงวิดีทัศน์ภาพของจริงมานำเสนอและเข้าใจง่าย ไม่ใช่น้ำท่วมทุ่งเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ถือเป็นวิวัฒนาการการทำงานของสมาชิกสภาฯทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันฝ่ายรัฐบาลมีการเอาใจใส่การทำงานของรัฐสภามากขึ้น เมื่อมีกระทู้ถามสด กระทู้ถามทั่วไป หรือกระทู้ถามเฉพาะ จะมีรัฐมนตรีมาตอบเกือบทุกครั้ง อาจมีบางครั้งที่รัฐมนตรีติดภารกิจไม่สามารถมาตอบได้ ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้าทุกครั้งว่า จะมาตอบกระทู้ได้เมื่อใด
‘วันนอร์’ชงสภาฯพิจารณากม.ค้างเก่า
ประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า ส่วนผลงานของสภาฯชุดนี้ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 3ก.ค.2566 เราจะเห็นว่าสมัยประชุมที่ผ่านมาอาจยังมีร่างกฎหมายที่ค้างการพิจารณาไว้ หรือไม่ถูกนำมาบรรจุในวาระการประชุม เพราะในช่วงนั้นเพิ่งเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่และได้รัฐบาลใหม่ โดยที่ยังไม่เสนอกฎหมายเข้ามา ส่วนกฎหมายที่เสนอโดยสส.และภาคประชาชนต้องมีการทำประชาพิจารณ์จากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และถ้าเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงินก็ต้องผ่านการรับรองจากนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเมื่อเปิดสมัยประชุมนี้ ตนจึงได้นำกฎหมายเหล่านั้นมาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ โดยเฉพาร่าง พรบ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองฯที่เสนอโดยภาคประชาชนและเพิ่งผ่านสภารับหลักการไป หากผ่านสภาได้เป็นผลงานที่เชื่อว่า จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ขณะเดียวกัน ยังมีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับและญัตติที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็จะผลักดันในสมัยประชุมนี้ สภาชุดนี้ยังให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างมาก พบว่ามีสส.วันละ40คน เป็นกระบอกเสียงที่นำปัญหาของประชาชนมาหาทางออกผ่านเวทีสภาในทุกเช้าวันพุธและเช้าวันพฤหัสบดี หรือประมาณวันละ40เรื่อง แต่บางคนก็นำปัญหามาแจ้ง 3-4เรื่อง เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหา
ปชช.ต้องมีส่วนร่วมทำงานมากขึ้น
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า สำหรับปี2567 ช่วงวันที่ 3-5ม.ค.2567 สภาก็มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2567 ใช้เวลา 3วัน ที่รัฐบาลจะนำเสนอต่อรัฐสภา อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญเพื่อทราบว่า แต่ละกระทรวงใช้งบประมาณเท่าใด เมื่อสภารับหลักการวาระแรกแล้วก็จะต้องตั้งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อไปพิจารณาในวาระสอง ก่อนจะเสนอกลับมายังรัฐสภาในวาระที่สาม ไม่เกิน 105วันทำการ หรืออาจใช้เวลาเพียง 90วัน ยืนยันว่าสภาผู้แทนราษฎรจะพยายามปฏิรูประบบรัฐสภาใหม่ เพื่อให้มีการพัฒนาและมีส่วนร่วมกับประชาชนมากขึ้นให้สมกับเป็นรัฐสภาเป็นของประชาชนทุกคน
ก.ก.เดินหน้าตรวจสอบงบประมาณ
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.)ด้ตอบข้อถามกรณีการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่จะเข้าสภาฯ หลังช่วงหยุดยาวว่า ตนคงไม่ได้ลงลึก เพราะเรื่องงบประมาณพรรคมอบให้ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นหัวหน้าทีมดูแลเรื่องตรวจสอบงบประมาณ เบื้องต้น คงไม่มีใครได้หยุดในวันหยุด ต้องทำงานกันอย่างขะมักขะเม่น เรามีทีมงานสส.คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุธ รองเลขาธิการพรรค ที่ได้คีย์ข้อมูลจากสำนักงบประมาณที่เป็นไฟล์PDF จะยากในเรื่องหาข้อมูลเชิญลึก เพราะต้องเป็นไฟล์เอ็กเซล ที่ขณะนี้ทีมงานของ นายญัฐพงษ์ กำลังทำอยู่เพื่อค้นหาผลรวมยอดต่างๆ ได้เร็ว แต่การอภิปรายเตรียมตัวเต็มที่ในภาพรวม รายละเอียด ของกระทรวงต่างๆว่า การจัดทำงบประมาณตอบโจทย์ประเทศไทยหรือไม่ เพราะเมื่อพูดถึงงบประมาณ ต้องมาดูว่า มีโจทย์อะไร ซึ่งวันนี้ตนไม่แน่ใจว่าโจทย์ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศไทย ได้เข้าใจโจทย์มากน้อยแค่ไหน ยอมรับมีเวลาน้อย ซึ่งตนมองว่าเรื่องของข้อมูลน่าจะมีเวลาประมาณ 2สัปดาห์ เมื่อส่งมายังสภาฯพร้อมชื่นชม นายชวน หลีกภัย สส.ปชป.ในขณะที่เป็นประธานสภาฯ พยายามทำให้มีเวลา 2สัปดาห์ในการเตรียมตัว แต่มาครั้งนี้ ทำให้มองว่า ใช้ช่วงปีใหม่ทำให้เราทำงานตรวจสอบทำได้ยากมากขึ้น แต่เข้าใจมนุษยปุถุชน ทุกคนอยากหยุดพักผ่อนและสส.เขตก็ต้องทำงานในพื้นที่ เมื่อเจอเป็นเงื่อนไขตรงนี้ทำให้วันและเวลาน้อยที่สุดที่เราต้องเข้าไปดูและงบประมาณเยอะขนาดนี้ เอกสารเยอะขนาดนี้ เป็นความท้าทาย เป็นสิ่งที่เราก็เกิดคำถาม ว่า หากรัฐบาลส่งมาเป็นหนังสือไม่ได้ ก็น่าจะส่งเป็นไฟล์ก็ยังดี เพื่อให้ฝ่ายตรวจสอบทำงานได้
จัดหนัก33ขุนพลถล่ม-ตัวจี๊ดโผล่เพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค ก.ก.เตรียมอภิปรายร่าง พรบ.งบ ซึ่งจะมาในธีม“วิกฤตแบบใดทำไมจัดงบแบบนี้” และแยกย่อยตามวิกฤตที่เกิดขึ้นในประเทศ โดยมีจะมีผู้อภิปราย 33คน อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ก.ก. รับผิดชอบด้านวิกฤตทางการเมือง,น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบด้านวิกฤตเศรษฐกิจ,นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ รับผิดชอบด้านวิกฤตสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องฝุ่นพิษ, นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อนายชยพล สท้อนดี สส.กทม.,นายเอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม.รับผิดชอบด้านวิกฤตความขัดแย้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนใต้ และปัญหางบประมาณกองทัพ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รับผิดชอบวิกฤตการศึกษา
‘พท.’ปรับทัพรับศึก-อย่าใช้เวทีซักฟอก
ด้าน นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับมือการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 ฝั่งรัฐบาลมีการแบ่งงานอย่างไรว่า ในส่วนของพรรค พท.ได้แบ่งการอภิปรายออกเป็นหมวดๆ อาทิ ด้านสังคม ยุทธศาสตร์ ผู้สูงอายุ โดยให้ ส.ส.มาลงชื่อว่าต้องการอภิปรายในหมวดใด ซึ่งขณะนี้กําลังส่งรายชื่อกันมา และจะมีการหารือกันอีกครั้งในวันที่ 3มกราคม67 ทั้งนี้ ตนจะหารือกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พท.ในวันที่ 2มกราคม67ก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการติวเข้มอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่มี การอภิปรายงบฯ จะไปติวเข้มอะไร เป็นฝ่ายรัฐบาลก็ต้องสนับสนุนรัฐบาล แต่อาจมีติติงเสนอแนะบ้าง เช่นปัญหาของเด็กเยาวชน การศึกษา การคมนาคม ต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้จัดสรรงบประมานในรอบนี้เองทั้งหมด ต้องยกยอดมาจากรัฐบาลชุดก่อน เนื่องจากทําไม่ทัน หากจะแก้ไขก็ยิ่งล่าช้า เพราะเราจะตั้งรัฐบาลได้ช้า ต้องรองบฯ ปี 68 เพราะรัฐบาลชุดนี้ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะทำเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ เพราะต้องยึดกติกาการอภิปรายงบประมาณ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีกติกาอีกแบบหนึ่ง จะด่ารัฐบาลได้ยังไง เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ต้องให้เขาทำงานก่อน
“ไผ่ ลิกค์”ยันพปชร.หนุนผ่านงบ
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เชิญหารือเตรียมความพร้อมการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่า นายกฯกำชับขอให้ช่วยกันทำงานเป็นปึกแผ่น ให้อยู่ครบองค์ประชุม ช่วยกันตอบ พรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ของใคร ใครตอบได้ก็ช่วยกันตอบ ขณะที่พรรค พปชร.จะนำความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาบอกกล่าว ยืนยัน พปชร.สนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อให้ร่างพรบ.งบผ่าน หลังจากนี้ พรรค พปชร.จะรีดไขมันส่วนเกินงบประมาณ เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า ในฐานะรัฐบาลของประชาชน
ผบ.ทบ.ย้ำสัมพันธ์ดี‘กองทัพ-การเมือง’
พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ความมั่นคงฯ) ได้เข้าพบกองทัพบกเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางทำงานร่วมกัน ว่า การปฏิบัติงานของทหารเมื่อปฏิบัติไปแล้ว ก็ต้องมีการทบทวน สิ่งใดที่ต้องปรับเปลี่ยนก็ต้องทำการปรับเปลี่ยน ซึ่งก็มีการปรับมาอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องมีใครมาบังคับให้เราปรับ โดยเป็นการปรับตามกระบวนการและสถานการณ์ การได้พบ กมธ.ความมั่นคงฯ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเราก็ยินดีให้ กมธ.ความมั่นคงฯ ได้ลงพื้นที่ไปดูชายแดน แต่ตนมองว่าเรื่องความมั่นคงไม่ได้มีแค่เรื่องทหารกับชายแดน เพราะทุกเรื่องคือเรื่องความมั่นคง เช่น สาธารณสุข หลังผ่านสถานการณ์โควิดมา เมื่อถามว่า สถานการณ์ต่างๆดูผ่อนคลายหรือไม่ พล.อ.เจริญชัย กล่าวว่า “ดีครับ ผมไม่ได้พูดว่า ผ่อนคลาย เพราะมันไม่เคยตึง”
สว.ฟันธงปีหน้าการเมืองเดือด
วันเดียวกัน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิดวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี2567ว่า รัฐบาลจะเผชิญกับด่านหนักหนาสาหัสมากมาย ประเด็นที่จะเป็นระเบิดเวลาต่อรัฐบาลคือ ความพยายามที่จะไม่ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำแม้แต่นาทีเดียว ทั้งที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาจำคุก ถือเป็นนักโทษเด็ดขาดไปแล้ว ประเด็นนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในปี2567 เชื่อว่าจะมีการเคลื่อนไหวนอกสภามากขึ้น อารมณ์ประชาชนที่ต่อต้านการพยายามพักโทษนายทักษิณจุดติดแล้ว รับไม่ได้กับการที่นายทักษิณได้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย กระบวน การยุติธรรมล้มระเนระนาดการเรียกร้องของประชาชนจะเข้มข้นขึ้น ถ้ายังมีการปกป้องกันอยู่ ยิ่งถ้ามีประเด็นการกลับบ้าน ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มเข้ามาอีกก็จะยิ่งสร้างความขัดแย้งมากขึ้น จะมีการปลุกม็อบลงถนนแน่ ยิ่งถ้าม็อบเพิ่มปริมาณมากขึ้น กลายเป็นความขัดแย้งของคนในสังคมอย่างหนักหนังม้วนเดิมอาจจะถูกนำกลับมาฉายอีก เพราะเรามีบทเรียนให้เห็นกันมาแล้ว ถือว่าน่ากลัว
นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า อีกเรื่องที่น่าห่วงคือนโยบายระหว่างประเทศของรัฐบาลที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ดูเหมือนจะผูกมิตรกับฝ่ายตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามากเกินไป ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว ขณะนี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนน้อยลง ขณะที่การลงทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และตะวันออกกลาง ก็ชะลอการลงทุนในไทย เพราะไทยไปอิงแอบสหรัฐฯมากเกินไป ขณะนี้อำนาจทางการค้าโลกพลิกจากฝั่งตะวันตก และยุโรปมาอยู่ฝั่งตะวันออก รัฐบาลควรมีนโยบายระหว่างประเทศที่สร้างความสมดุลมากกว่านี้ ส่วนตัวมองว่าการบริหารงานของนายเศรษฐาไม่ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี