อุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแต่คนอาจเปลี่ยน! ‘นิพนธ์’ เปิดใจ 50 ปีบนเส้นทางการเมืองปชป. ขอรอคุยให้ตกผลึกจะเดินหน้าต่ออย่างไร แจงปมขึ้นป้ายสวัสดีปีใหม่ไร้โลโก้พรรค ในฐานะคนธรรมดา เป็นแค่สมาชิกพรรค ไม่มีตำแหน่งใด
30 ธ.ค.2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดบ้านให้การต้อนรับผู้บริหารท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ข้าราชการตำรวจ ภาค 9 สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา ชมรม สมาคม ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปในจังหวัดสงขลา ที่ร่วมส่งมอบกำลังใจ และอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ที่บ้านพักเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ท่ามกลางบรรยากาศอย่างเป็นกันเองของพี่น้องประชาขนจากทุกภาคส่วน ที่พร้อมใจเดินทางมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวบุญญามณีกันอย่างเนืองแน่น
นายนิพนธ์ ได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567ว่า "ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ขอถือโอกาสนี้อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่พี่น้องประชาชนเคารพ นับถือจงได้ดลประทานพรให้ทุกท่านให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงปฏิบัตืหน้าที่ประกอบอาชีพให้ประสบความสำเร็จ สิ่งใดที่ไม่พึงปรารถนาและเข้ามาในขีวิตของพี่น้องตลอดปี 2566 ก็ขอให้สิ่งเหล่านั้นได้ผ่านพ้นจากกาลเวลาในปี 2566 ขอให้ปี 2567 เป็นปีที่พี่น้องประชาขนได้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หวังสิ่งใดปรารถนาสิ่งใด ขอให้สมปรารถนา สำคัญที่สุดขอให้สุขภาพกายและใจแข็งแรงตลอดปี 2567 สวัสดีปีใหม่ครับ"
นายนิพนธ์ กล่าวถึงทิศทางการเมืองในปี 2567ว่า หลายคนถามว่าตนคิดอย่างไร จึงขอกราบเรียนว่าในขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันจริง แต่ก็ยังถือว่ายังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพูดคุย ตนหวังว่าในเร็วๆนี้คงได้ตกผลึกว่าจะทำกันอย่างไร หรือจะเดินในสถานการณ์การเมืองอย่างไรแต่คิดว่าการเมืองมันเกี่ยวข้องกับทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งตนก็อยู่ในเส้นทางการเมืองมาตลอดตั้งแต่เป็นยุวชน จนมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาร่วม 50 ปีแล้ว เป็นยุวประชาธิปัตย์ แล้วมาป็นสมาชิกสภาเป็นประธานสภาจังหวัด และมาเป็นสส.ทั้งเขต และบัญชีรายชื่อ 8 สมัย และกลับมาเป็นนายก อบจ. และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตนคิดว่าจะได้ปรึกษาหารือกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทั้งหลายเพื่อให้ตกผลึก ตนคิดว่าการเมืองเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ ตนอยู่ในเส้นทางเกือบตลอดชีวิตอยู่ในเส้นทางการเมืองมาตลอด เป็นมาตั้งแต่ยุวประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ม.ศ. 3 ม.ศ. 4 นั่งรถทำหน้าที่เป็นโฆษกเป็นพิธีกรให้กับลุงคล้าย ละอองมณี ในขณะนั้น เมื่อปี 18 ปี 19 นายคล้าย ละอองมณี นายอำนวย สุวรรณคีรี อีกหลายคนจนมาถึงท่านสงบ ทิพย์มณี ในสงขลา จนมาถึงกรุงเทพฯไปช่วยพรรคประชาธิปัตย์หาเสียงปี 22 จนกระทั่งเป็นประธานยุวประชาธิปัตย์ สมัยท่านอาจารย์ณรงค์ เพชรประเสริฐ ทำยุวประชาธิปัตย์สมัยท่านพิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรค จนมาถึงท่านชวน หลีกภัย ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ก็ถือว่าอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน ฉะนั้นการคิด จะพูดจาหรือจะทำอะไร ก็ต้องคิดเพราะชีวิตตนอยู่ที่นี่ ดังนั้นวันที่ตัดสินใจจะเข้าพรรคประชาธิปัตย์ วันนั้นเราถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความคิดเสรีนิยมก้าวหน้า ตั้งแต่ปี 2518-19 ในขณะนั้นประชาธิปัตย์โดนกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยซ้ำ กรณีเกตุการณ์ตุลาเกิดขึ้น ผมอยู่ที่นี่มาจนถึงวันหนึ่ง เขาบอกว่าประชาธิปัตย์ไปเป็นอนุรักษ์นิยม ซึ่งผมก็มีความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะอุดมการณ์ของพรรคไม่ได้เปลี่ยน แต่คนอาจจะเปลี่ยน นี่คือสิ่งที่กำลังคิดให้ตกผลึกว่า อะไรมันเกิดขึ้นในทางการเมือง 50 ปีของผม
“ในส่วนของที่ไม่มีโลโก้พรรคของผมนั้น ขอเรียนว่าเพราะผมไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในพรรค ผมมีฐานะเป็นสมาชิกธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าผมไปขึ้นเดี๋ยวจะเกิดมีข้อครหาต่างๆ ดังนั้นเมื่อไม่ได้เป็นกรรมการก็ขอใช้ในฐานะคนธรรมดา ซึ่งในส่วนของนายสรรเพชญ ผมมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่ไปก้าวก่าย เพราะเป็นผู้แทนราษฎร จึงมีอิสระในความคิดการทำ บางสิ่งบางอย่างที่ทำก็ถือว่าน้องเขาคิดอย่างนั้น เพราะน้องเป็นคนรุ่นใหม่จะคิดหรือจะทำอะไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา วันนี้เราต้องพูดถึงเรื่องจุดยืน เรื่องของเสรีนิยม กับอนุรักษ์นิยมต้องให้ตกผลึก อุดมการณ์ 10 ข้อของประชาธิปัตย์ ไม่ว่าเรื่องกระจายอำนาจ เรื่องของที่ดิน การจัดที่ทำกินให้กับประชาชน หรือที่บอกว่าพรรคจะสู้กับเผด็จการเหล่านี้เป็นจุดยืนของปนะชาธิปัตย์มาร่วม 76 ปีก้าวสู่ปีที่ 77แล้ว จุดยืนเหล่านี้จึงต้องมาทบทวนว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ จุดยืนเหล่านี้ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนแต่คนเปลี่ยน ก็จะได้รู้ว่าคนมันเปลี่ยนไป” นายนิพนธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี