"ก้าวไกล"ชงหั่นงบ"กอ.รมน." หลังคุ้ยเจอซุกเงิน"ค่าตอบแทนพิเศษ" หวั่นจ่ายให้"บุคลากรผี" แนะรื้อแผนงานแก้ไฟใต้ หนุนคนพื้นที่เจรจากันเอง ฟื้น"คดีตากใบ"เป็นคดีพิเศษหลังอีก 10 เดือนจะหมดอายุความ ด้าน"นายกฯ"ย้ำแม้วิธีจะต่างกัน แต่ตั้งใจจริงแก้ปัญหา พร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ไปปรับแก้ปัญหาในพื้นที่
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก วันที่ 2 โดย นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนหนึ่งว่า นับจากเหตุการณ์ปล้นปืน เมื่อปี 2547 พบว่าสถานการณ์ความไม่สงบจนถึงปัจจุบัน พบว่าเกิดขึ้นแล้วกว่า 22,296 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บกว่า 2 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน ทั้งนี้ พบว่ารัฐใช้งบประมาณเพื่อแก้ปัญหากว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยในงบประมาณปี 2567 พบการเสนอของบรวม 2.5 หมื่น ซึ่งกำหนดโครงการไว้ในแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6.5% โดยส่วนตัวมมองว่างบฯ ดังกล่าวสามารถปรับลดได้ถึง 1,032 ล้านบาท
"เป้าหมายแผนบูรณาการดับไฟใต้เพื่อความสงบเรียบร้อยและราบคาบ แต่ผมมองว่าไม่พอเพราะเป็นสันติภาพเชิงลบ ดังนั้น ต้องเพิ่มสันติภาพเชิงบวก ได้แก่ ความยุติธรรม เพราะเงื่อนไขคนต่อต้านก่อกบฎเพราะคนไม่รับความเป็นธรรม ต้องคุ้มครองสันติภาพ แก้ไขกฎหมาย แต่การจัดงบของรัฐบาลทำให้เกิดสันติภาพเชิงลบและเชิงลดเท่านั้น" นายรอมฎอน อภิปราย
นายรอมฎอน อภิปรายด้วยว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ดับไฟใต้ซึ่งกำหนดไว้นอกแผนบูรณาการ 3 ใน 4 อยู่ใน กอ.รมน.รวมกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น งบการกำลังพลและการดำเนินงานของ กอ.รมน.วงเงิน 3,535 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวข้องกับบุคลากรผี ที่มีชื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้แต่ไม่ได้ทำงานจริง ถือเป็นงบหล่อเลี้ยงกำลังพลที่ไม่ได้ทำงานในพื้นที่ ดังนั้น ขอ กอ.รมน.ชี้แจงว่ามีคนทำงานจริงเท่าไร หรือเป็นเพียงงบที่ใช้หากินเท่านั้น
"ผมขอตั้งคำถามไปยัง กอ.รมน.รับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง ทำให้จำเป็นต้องมีภัยคุกคามเพื่อให้องค์กรดำรงอยู่ หากทิศทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง กอ.รมน.ต้องสกัดขัดขวางเพื่อไม่ให้การแสวงหาทางออกทางการเมืองเป็นไปได้" นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นในส่วนของ กอ.รมน.พบว่ามีค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 52 หน่วยงาน รวมงบประมาณ 1,527 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้คนในพื้นที่ดำเนินการในส่วนดังกล่าว ทั้งนี้ ตนมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลที่มีนโยบายด้านยุติธรรม ให้ฟื้นคดีตากใบ ที่อีก 10 เดือนจะหมดอายุความ โดยให้ริเริ่มเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงให้นายกฯ กำชับไปยัง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้ยุติการฟ้องปิดปากเพื่อให้การเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงเปิดพื้นที่ทางการเมือง เจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างคนในพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมถึงปรับลดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนของ กอ.รมน.
ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงงบประมาณแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของ กอ.รมน.ว่า หลายประเด็นจะให้ทีมงานขยายผลต่อเพื่อให้ปัญหาลดลง ทั้งนี้ในภาพรวมของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาสะสม แต่ในระยะหลังพบว่าความรุนแรงลดลง โดยตนของขอบคุณ ส.ส.และทุกพรรคการเมือง ทุกภาค ที่พูดคุยกับประชาชนเพื่อลดปัญหาความรุนแรง รวมถึงความมั่นคง และ กอ.รมน.ที่ตนเห็นการทำงานตั้งใจจริง แม้วิธีการทำงานจะแตกต่างกัน
"ผมเชื่อว่า กอ.รมน.มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ คืนความสงบและความมั่นคั่งให้ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ หลายคนให้ความสนใจ และผมมีโอกาส 100 กว่าวันในตำแหน่งนายกฯ ลงพื้นที่เมื่อ พ.ย.เจอนายกฯ มาเลเซีย ได้คุยปัญหาความมั่นคงความสงบเรียบร้อยและเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศที่พัฒนาหลายมิติ และปัจจุบันพบการเข้าเมืองเพิ่มกว่า 30,000 คน ในช่วงวันหยุด ทำให้โรงแรม 3 จังหวัด และหาดใหญ่ จ.สงขลา เต็มหมด ดังนั้น ผมเชื่อว่าหากคนมีเงินในกระเป๋า ชีวิตดีขึ้น ปัญหาความรุนแรงลดน้อยลง ควบคู่กับการทำงานของฝ่ายความมั่นคงของไทยและมาเลเซีย ทำให้ปัญหาลดน้อยลง" นายเศรษฐา ชี้แจง
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ ส.ส.วิเคราะห์เรื่องงบประมาณของ กอ.รมน.ตนน้อมรับไปพิจารณาพูดคุยเพื่อทำให้งบมีประโยชน์สูงสุด ส่วนกรณีที่ระบุว่าหากมีความสงบ กอ.รมน.จะทำงานอะไร ไม่ต้องห่วง เพราะตนพูดคุยกับ ผบ.ทบ.มีหลายเรื่องที่ต้องทำ เช่น ช่วยเหลือเรื่องอุทกภัย , ภัยแล้ง ขุดบ่อเก็บกักน้ำ ลงพื้นที่ซ่อมแซมช่วยซ่อมบ้านผู้ประสบอุทกภัย ซึ่ง กอ.รมน.ใส่ใจ ส่วนเรื่องไบโพลา ตนไม่ใช่หมอ ไม่ทราบว่าเป็นหรือไม่ แต่ที่สัมผัสพบว่าเป็นคนที่สม่ำเสมอ ดูผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะมีการประชุมที่สภาฯ หลังจากนี้
ทั้งนี้ นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิชี้แจงว่า เรื่องไบโพลาร์เป็นคำเปรียบเปรยในการทำงาน ไม่ใช่เรื่องสุขภาพ หรือเรื่องส่วนบุคคล ทั้งนี้ ทิศทางของ กอ.รมน.ในการทำงานตนยังกังวล และขอเรียกร้องให้นายกฯ ลงนามรับรองร่างกฎหมายยกเลิก กอ.รมน.ที่ถูกตีความว่าเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน และส่งให้สภาฯ ด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี