สวนมติฝ่ายค้านหนุนงบ’67

งูเห่าโผล่สลอน!

3สส.ไทยสร้างไทยแหกมติ

‘ฐากร’ไขก๊อกพ้นเลขาฯทสท.

รัฐบาลขอบคุณทุกเสียงหนุน

ชี้โหวตสวนไร้สัญญาณพิเศษ

ควันหลงหลังสภาลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี’67 ตรวจพบ 4 สส.งูเห่าฝ่ายค้าน แหกโค้ง โหวตสวนมติ รับร่างพ.ร.บ.งบฯ ’67 มี 3 สส.ทสท. กับ 1 ปธน.ด้าน “ฐากร”แสดงความรับผิดชอบตัดสินใจลาออกจากเลขาฯไทยสร้างไทยทันที ขณะที่เพื่อไทยอ้อมแอ้ม สส.ฝ่ายค้าน แหกมติฝ่ายค้าน โหวตหนุนงบ’67 ไม่มีสัญญาณพิเศษ ประชาธิปัตย์ตามลุยวาระ 2

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท โดยมติที่ประชุมในวาระรับหลักการของร่างฯมี ผู้เห็นด้วย 311 เสียง ไม่เห็นด้วย 177 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียงเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมานั้น

จากการตรวจสอบผลการลงคะแนน พบว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ลงมติตามปกติและมี สส.บางส่วนไม่ปรากฎข้อมูลการลงคะแนน และร่วมเป็นองค์ประชุม โดยพบว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ในส่วนพรรคเพื่อไทย ลงมติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 137 คน คือเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งมีคนที่ไม่ลงคะแนน 3 คน คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คิรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ และ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ โดยในส่วนของนายอดิศร ได้รับแจ้งจากแกนนำว่าลาป่วย โดยมีผู้งดออกเสียง 1 เสียง คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง

ในส่วนของ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ลงมติเห็นด้วยพร้อมเพรียงทั้ง 71 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ สส.ลงมติเห็นด้วยยกทั้งพรรค 36 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส. ลงมติเห็นด้วย 38 คน ขาดเพียง 2 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เพชรบูรณ์ ไม่ปรากฏลงคะแนน และ ไม่ปรากฎข้อมูลแสดงตน ขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ลงมติเห็นด้วย ยกเว้น นายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี ลงมติงดออกเสียง พรรคประชาชาติ ลงมติเห็นชอบ 8 เสียง มีเพียง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนฯที่ลงมติงดออกเสียง 1 คน ส่วนพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ลงมติเห็นด้วยทั้ง 3 คน

‘ก้าวไกล-ปชป.’ไม่รับร่างพรึม

ด้านเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ทางพรรคก้าวไกล 147 เสียง ลงมติไม่เห็นด้วย เว้น นางทิพา ปวีณาเสถียร สส.ลำปาง ที่ขานลงคะแนน“ไม่เห็นด้วย”ภายหลังปิดการลงคะแนนไปแล้ว ทำให้ไม่นำไป รวมเสียงไม่เห็นชอบ 177 เสียง แต่มีการบันทึกไว้ในบันทึกการประชุมไว้

พรรคประชาธิปัตย์มี 25 เสียง ลงมติไม่เห็นด้วย 24 เสียง อีก 1 เสียง คือ นายชาตรี หล้าพรหม สส.สกลนคร ไม่ปรากฏลงคะแนน และไม่ปรากฎข้อมูลแสดงตน เบื้องต้น ได้รับแจ้งว่าป่วย

4สส.งูเห่าโหวตสวยมติฝ่ายค้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าพบความผิดปกติในการลงมติในส่วนของ สส.พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีสส. แหกมติ 3 คนจาก 6 คนที่โหวตเห็นชอบรับหลักการ ได้แก่ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุรพล สส.อุดรธานีและนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ท่ามกลางข้อสังเกต เป็นงูเห่าเสียงสนับสนุนให้กับพรรครัฐบาล เช่นเดียวกับนายสุรทิน พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียงลงมติเห็นด้วยกับร่างฯ

ส่วนพรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง ลงมติไม่เห็นด้วย แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ลงมติงดออกเสียง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ลงมติไม่เห็นด้วย 1 คน พรรคไทยก้าวหน้าลงมติไม่เห็นด้วย 1 คน เช่นเดียวกับพรรคใหม่ที่ลงมติไม่เห็นด้วย 1 คน

ทสท.แจงยิบ3สส.แหกมติฝ่ายค้าน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มี3สส.พรรค ไทยสร้างไทย ได้แก่ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุรพล สส.อุดรธานี และ นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี โหวตเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี2567ถือว่าสวนมติวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า เมื่อวานได้มีการประชุมพรรค3ครั้งตนก็ได้เน้นย้ำสส.ทุกคนให้ยึดมติพรรคร่วมฝ่ายค้านตามที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคฯกำชับมีการเรียกคุยชัดเจนแต่ทั้ง3สส.ก็ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของเขาว่างบประมาณได้ลงในจังหวัดตัวเอง ถ้าไม่ลงมติเห็นด้วย ประชาชนก็ไม่เห็นด้วยเมื่อเขาเลือกสส.มาไม่ใช่สส.จะตัดสินใจอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ย้ำให้ยึดมติวิปฝ่ายค้านเราต้องปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติตาม ตนก็ได้แจ้งกลับไปว่าถ้าใครจะไม่โหวตก็ไม่ต้องเข้าห้องประชุม หรือไม่ต้องมานั่งในโซนของพรรคไทยสร้างไทยก็เหมือนจะตกลงกันได้แล้ว

ขอโทษผู้นำฝ่ายค้าน-ปธ.วิปค้าน

โดยตนได้แจ้งสิ่งที่เน้นย้ำลูกพรรคกับ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านตลอด เมื่อใกล้ถึงเวลาลงมติตนก็ไม่เห็นทั้ง3คนในห้องประชุมแล้ว เมื่อลงมติเสร็จสิ้นนายปกรณ์วุฒิก็ได้เดินมาหาตน ถามว่า3สส.ไม่เข้ามาใช่หรือไม่ ตนก็ได้ขอโทษทางประธานวิปฝ่ายค้านและขอโทษผ่านไปยังนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ

โยนกก.บห.พิจารณาขับสส.งูเห่า

เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวย้ำ”เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจะพิจารณาตัวเองเมื่อกำกับสส.เราไม่ได้ ก็ขอโทษประธานวิปฝ่ายค้านและผู้นำฝ่ายค้าน ผมทำเต็มที่แล้ว อีกวัน 2วันจะพิจารณาตัวเอง ผมก็ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ไม่อยากให้ใครมองเราคุมพรรคไม่อยู่ พอไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็เกิดปัญหาแบบนี้”

เมื่อถามอีกว่าทางพรรคจะพิจารณาขับ 3สส.พ้นจากพรรคหรือไม่ นายฐากรตอบว่าก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ในพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา

‘ฐากร’ยื่นลาออกพ้นเลขาฯรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยสร้างไทยว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อ ขอลาออกจากตําแหน่งเลขาธิการพรรคฯ โดยมีเนื้อหาสรุปว่า จากกรณี สส.ไทยสร้างไทย จำนวน 3 คน ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระที่ 1 ขัดกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งที่ก่อนการลงคะแนนได้เรียกสมาชิกพรรคหารือและกำชับให้สส.ของพรรคลงคะแนนตามมติพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่รับร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ถึง 3 ครั้ง แต่เมื่อมี สส.ไทยสร้างไทย 3 คน ลงคะแนนเห็นชอบ เป็นการขัดกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สส.ทสท.ลาออกวิปค้าน-รองเลขาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ขอลาออกจากกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อแสดงความรับผิดชอบเนื่องจาก กรณีที่ 3 สส.ของพรรค ขัดมติวิปฝ่ายค้าน ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 เนื่องจากมติวิปฝ่ายค้าน ไม่รับหลักการร่างพ.ร.บดังกล่าว

โดยให้เหตุผลว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการขาดศักยภาพในการทำหน้าที่ของตนที่ไม่สามารถควบคุมเสียงได้ ในฐานะ กรรมการวิปฝ่ายค้านในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทยจึงขอลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ นายชัชวาล ยังได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยอีกตำแหน่งด้วย

‘สุดารัตน์’เสียใจ 3งูเห่าสวนมติพรรค

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan”แสดงความเสียใจและขอโทษประชาชนต่อผลโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567ว่า “ดิฉันและผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนต่อผล Vote ร่างงบประมาณรายจ่าย ที่มี สส.ของพรรค 3 คน ลงคะแนนสวนมติพรรค และมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อพรรคโดยพรรคจะเร่งส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรมของพรรคดำเนินการไต่สวน เพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเป็นการด่วนขณะนี้ดิฉันยังอยู่ต่างประเทศ แต่ได้เฝ้าติดตามการอภิปรายงบประมาณมาโดยตลอดและไม่สบายใจอย่างยิ่ง ที่ สส.3คนไม่ดำเนินการตามมติพรรค ดิฉันและคณะผู้บริหารพรรคต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยอีกครั้ง”

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ยื่นหนังสือลาออกเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกรณีคุมเสียงสส.ในสภาไม่ได้นั้นว่าการที่ สส.ของพรรคโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราไม่นิ่งนอนใจ จะให้กรรมการจริยธรรมของพรรค ดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อสรุปส่งกรรมการบริหารพรรคต่อไป ซึ่งตนต้องขอโทษประชาชนต่อเรื่องดังกล่าวด้วย

ชมสปิริตรับผิดชอบ-9มค.ถกจัดทัพ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า การที่นายฐากร ลาออกจากเลขาธิการพรรค ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถคุมเสียงสส.ของพรรคในสภาได้ เป็นการแสดงสปิริตของนักการเมืองที่ควรเอาแบบอย่าง เพราะเป็นการแสดงความรับผิดชอบโดยไม่มีใครเรียกร้อง เมื่อเลขาธิการพรรค ลาออกเช่นนี้ ในวันที่ 9 ม.ค.ทางพรรค จะประชุมผู้บริหารเพื่อทบทวนการทำงานที่ผ่านมาและพิจารณากำหนดแนวทางของพรรคเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก รวมทั้งคงต้องรีบหารือกันว่า ควรจัดให้มีการประชุมวิสามัญเพื่อเติมเต็มกรรมการบริหารพรรคให้เต็มตามข้อบังคับพรรค เพื่อการขับเคลื่อนพรรคต่อไปหรือไม่

พท.น้อมรับข้อแนะนำฝ่ายค้าน

ในส่วนของซีกรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 67ระหว่าง3-5ม.ค.ว่าภาพรวม 3 วัน ถือว่าดี ฝ่ายค้านทำการบ้านได้ดีเนื้อหาก็ข้อนข้างดีโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังได้เน้นย้ำมาโดยตลอดให้หน่วยงานต่างๆจดทุกประเด็นที่ฝ่ายค้าน แสดงความคิดเห็นไว้ เพื่อนำข้อแนะนำของทุกฝ่ายนำมาปรับแก้ในชั้นกรรมาธิการให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงนำไปรับใช้ในการทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 ต่อไปด้วย

สส.โหวตหนุนไร้สัญญาณพิเศษ

เมื่อถามถึงกรณีสส.พรรคฝ่ายค้านโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านมาสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล มองว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของแต่ละคน การที่ไม่รับร่างงบประมาณ ต้องดูเหตุผลว่าเป็นอย่างไร ถ้าไม่รับร่างจะให้ทำใหม่หรืออย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่กฎหมายทั่วไป แต่เป็นเรื่องของงบประมาณ และสส.ที่ลงมติสวนแต่ละท่านเป็นสส.เขต การลงมติ คงเป็นความรู้สึก เรื่องนี้เป็นเรื่องงบประมาณอย่าเอาการเมืองมาเล่นเพราะถ้าไม่ผ่านประเทศจะเอาอะไรมาบริหาร ส่วนการโหวตสวนเช่นนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณอะไรพิเศษหรือไม่นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่น่าเกี่ยวอะไร ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะแต่ละคนมีดุลยพินิจของตัวเอง

รทสช.ขอบคุณทุกฝ่ายรับร่างงบ67

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)กล่าวว่าขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกจากทุกพรรคการเมืองที่ลงมติผ่านวาระแรกร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี2567ด้วย 311 ต่อ 177 เสียงเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในขั้นตอนต่อไปในชั้นกรรมาธิการวาระ 2 และ3 เพื่อขับเคลื่อนการใช้งบประมาณของรัฐบาล และทุกหน่วยงานทุกกระทรวงได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะงบประมาณในการลงทุนของภาครัฐที่ต้องเร่งเบิกจ่ายอย่างรวดเร็ว

ขอฝ่ายค้านทำงานเชิงสร้างสรรค์

เมื่อถามว่า ประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการอภิปรายงบปี 67 นายธนกร กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าข้อมูลของฝ่ายค้านในการอภิปรายงบประมาณ หลายเรื่องยังไม่ตรงประเด็นบางส่วน ก็นำมาปะติดปะต่อดึงข้อมูลมาแค่บางส่วนไม่ครบถ้วนโจมตีพาดพิง บางคนใช้คำพูดการด้อยค่าอย่างไม่สร้างสรรค์ ซึ่งถือว่ายังเป็นการสร้างวาทกรรม มุ่งเล่นแต่เกมการเมือง

“หลายส่วนในการอภิปรายของฝ่ายค้าน ก็ถือว่าได้รับคำชมว่าทำได้ดี จึงขอฝากให้ฝ่ายค้าน ร่วมกันทำงานสภาสร้างสรรค์ ด้วยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่ควรผลิตวาทกรรมมาด้อยค่ากัน ให้การทำงานสภาเป็นไปในเชิงพัฒนามากกว่าเล่นเกมการเมือง” นายธนกร กล่าว

โทรโข่งกลาโหมโต้ฝ่ายค้าน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวถึงฝ่ายค้านอภิปรายการใช้เงินดาวน์น้อย ในงบของกระทรวงกลาโหม เหมือนทำให้ยอดผ่อนมากและนานขึ้นนั้น จริงๆแล้ว ฝ่ายค้านต้องชื่นชม เพราะถือว่านายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ทำถูกต้องแล้วไม่มีการ “ลักไก่” ไปดาวน์แบบเต็มเหนี่ยวตามคำอภิปรายเพราะหากฝ่ายค้านมาทำงบประมาณปี 2567 ที่ไม่ปรกติ มีความล่าช้าจากการมีรัฐบาลช้าและขืนไปดาวน์แบบเต็มเหนี่ยวคงโดนสวดชยันโตว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน

“การพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 ในห้วงเวลานี้ไม่ปกติ กว่าจะประกาศใช้ได้ประมาณเดือนพฤษภาคม ในทางปฏิบัติกรอบปีงบประมาณปกติของปี 2567 จะเสร็จสิ้นพร้อมประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีที่แล้ว แต่งบฯ 67 เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวาน (5ม.ค.2567) กว่าจะพิจารณารายมาตราวาระ 2 และเข้าสู่สภาวาระ 3 จนประกาศใช้ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 เดือน ทำให้งบฯ 2567 มีช่วงเวลาใช้ได้เพียงแค่ 4-5เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ 31 กันยายน 2567 เท่านั้น

ยุค”สุทิน”ไม่มีการลักไก่

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณของกระทรวงกลาโหมได้รายงานว่า งบประมาณปี 2567 มีรายการ ผูกพันข้ามปีประมาณ 41,000 ล้านบาทเศษ โดยได้จัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 5,100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.34 ของวงเงินรวมทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ตามมติ ครม. เมื่อ 10 ก.พ. 2552 เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กำหนดให้รายการรายจ่ายลงทุนที่จะขอผูกพันข้ามปีงบประมาณทุกรายการต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งได้เสนอของบประมาณในปีแรกไปร้อยละ 20 ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจึงพิจารณาจัดสรรตามความเหมาะสมภายใต้ข้อจำกัดด้านระยะเวลา และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจริง เพื่อไม่ให้งบประมาณเหลือจ่าย และจะต้องกันไปใช้ในปีต่อไป อันไม่เป็นประโยชน์ต่อการคลังของประเทศไทย

“ในความเป็นจริงทางการเมืองอาจเป็นแค่เอาตัวเลขมาเล่นเพื่อด้อยค่า แต่ในทางการพัฒนาประเทศ ถือว่ากลาโหม ยุค“สุทิน คลังแสง” ไม่มีการลักไก่ไปใช้เต็มวงเงินในการมัดจำ หากดาวน์มากก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่รู้จักวางแผนอีก ฝ่ายค้านต้องชื่นชม รัฐมนตรีกลาโหม” นายจิรายุกล่าว

ปชป.ติดตามวาระ2ต่อไป

วันเดียวกัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ต้องชื่นชม สส.ทุกคนที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ ท้วงติง นำเสนออย่างสร้างสรรค์เพื่อให้งบประมาณที่จะนำไปใช้ได้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

ในขณะที่ภาพรวมของรัฐบาลนั้น ยังไม่สามารถชี้แจงได้ชัดว่า งบประมาณแผ่นดิน วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท จะนำไปใช้ให้ประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างไร เพราะการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ ไม่มีรายละเอียดใดเลย อีกทั้งหลายฝ่ายมีความห่วงใยในเรื่องของกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ งบประมาณที่ประกาศว่าจะนำไปพลิกฟื้นเศรษฐกิจก็สวนทางกับรายละเอียดในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ที่เป็นการจัดสรรงบประมาณตามความต้องการของรัฐบาลโดยไม่ได้ยึดโยงกับสภาพปัญหาที่แท้จริงและประโยชน์ของประชาชน ดังจะเห็นได้ชัดว่าในการจัดสรรงบประมาณครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ละเลยเรื่องการสร้างงาน การสร้างคน การสร้างคุณภาพชีวิต เพราะตัวเลขสรุปภาพรวมที่ชัดเจนคือ 6 ยุทธศาสตร์หลัก ดังที่ได้กล่าวมาได้รับการจัดสรรงบประมาณให้น้อยมาก และยังมีอีกหลายส่วนที่จะต้องติดตามในวาระที่สอง คือในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาลงลึกในรายละเอียดงบประมาณของแต่ละกระทรวง และ สส.ทุกคนจะได้แปรญัตติภายใน 30 วัน ต่อไป

นายราเมศกล่าวตอนท้ายว่า สำหรับสัดส่วน กมธ. งบประมาณ ทั้ง 3 คน ถือได้ว่าเป็นตัวแทนพรรค ก็จะไปทำงานอย่างเต็มที่แทนพี่น้องประชาชนและจะทำงานร่วมกันกับ สส. ทุกคนของพรรคที่ไม่ได้เป็น กมธ. งบประมาณด้วย ในเรื่องที่เกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์ ซึ่งก็จะมาร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป

ชทพ.ลั่นเดินหน้าพัฒนาสุพรรณฯ

วันเดียวกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)กล่าวในโอกาสที่ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายอุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมสมาชิกพรรค พ่อค้าประชาชนชาวสุพรรณบุรี เข้าอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567ว่าขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน ที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่พรรคชาติไทยพัฒนามาตั้งแต่สมัยพ่อบรรหารจนถึงบัดนี้ โดยเฉพาะนายประภัตร ที่อยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนาเคียงบ่าเคียงไหล่มาโดยตลอด ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร พรรคชาติไทยพัฒนาเราอยู่เหมือนครอบครัว ตำแหน่งเป็นเพียงหัวโขน เราชาวจังหวัดสุพรรณบุรีอยู่กันอย่างพี่น้อง

ตนได้ดำรงตำแหน่ง รมว.พม. แต่ก็ยังเป็นลูกท็อป หลานท็อป พี่ท็อป น้องท็อป เป็นคนหนึ่งในครอบครัว เราทำงานให้ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เราจะเดินไปข้างหน้าคนเดียวไม่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะนายประภัตรซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เป็นเสาหลักในจังหวัดสุพรรณบุรี ในการทำงาน หากคนสุพรรณบุรีร่วมใจกัน คงไม่มีอะไรที่พวกเราไม่สามารถดำเนินการพัฒนาเมืองสุพรรณบุรีได้ การเป็นรัฐมนตรี ไม่ง่าย การเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่ง่าย

ลั่นสืบทอดเจตนารมณ์พ่อบรรหาร

นายวราวุธระบุว่าต้องขอแรง ขอใจ ขอความร่วมมือและขอขอบคุณมิตรจิตมิตรใจจากเพื่อนๆในจ.สุพรรณบุรีทุกคนในโอกาสขึ้นปีใหม่ขอให้คำมั่นว่าจะช่วยกันทำงาน ช่วยกันพัฒนาเมืองสุพรรณบุรี และสานต่อเจตนารมณ์พ่อบรรหาร ทำให้จังหวัดสุพรรณบุรีก้าวหน้า เราเดินหน้าไปด้วยกันอย่างสามัคคีและมั่นคง

ด้านนายประภัตรกล่าวว่า เราสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา มีความภาคภูมิใจที่นายวราวุธได้รับการโหวตคัดเลือกให้เป็นนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบในปี 66 เป็นอันดับ 2 รองจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พวกเราขอนำพรอันประเสริฐทั้งหลายมามอบให้กับนายวราวุธและครอบครัว ที่ได้สืบทอดเจตนารมณ์นายบรรหาร ศิลปอาชา มาอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเราเห็นผลงานการปรับปรุงพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสุพรรณบุรี คุ้มครองให้ประสบแต่ความโชคดี มั่งมีศรีสุข มั่งคั่งยิ่งใหญ่ ร่ำรวยร่ำรวยตลอดไป.