ผังเมืองกทม.ใหม่เดือด! "อรรถวิชช์"จวกยับกทม.’ฟังแต่ทุนอสังหาฯ ปล่อยสร้างตึกสูง-บ้านจัดสรรไม่เว้นซอยแคบ-ที่รับน้ำ ชี้ควรยืดเวลาให้ชาวบ้านส่งความเห็นก่อน

8 ม.ค. 2567 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีต สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผังเมืองกทม.ใหม่ ควรยืดเวลาให้ชาวบ้านส่งความเห็นก่อน  กทม.ฟังนายทุนอสังหามาพอแล้ว!!

ฟังชาวบ้านให้ชัดเจนก่อน ถึงจะได้ผังเมืองใหม่ที่ละเอียดเข้ากับวิถีชีวิตเขา เช่น 

1. ปัญหาการสร้างตึกคอนโดสูงในซอยแคบ

ถ้าดูเฉพาะในแผนที่วัดจากหมุดชนหมุด หรือกำแพงชนกำแพงก็ดูว่าในซอยจะสร้างตึกสูงได้ แต่ความจริงสองข้างทางมีกระถางต้นไม้อยู่ริมรั้วบ้าน เหลือถนนให้ถนนสวนทางได้น้อย ยิ่งรถดับเพลิงขนาดใหญ่ด้วยแล้วสวนไม่ได้เลย  “ทำไมผังเมืองไม่ขีดสีเข้าซอยเหล่านี้ว่าห้ามสร้างตึกคอนโดสูง” จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระประชาชนให้ต้องถกเถียงกับนายทุนอสังหาอีกในชั้น EIA  เช่น เขตจตุจักรในแขวงจันทรเกษม จอมพล เสนานิคม อยู่ในโซนพื้นที่ซอยแคบ เนื้อถนนจริง (ไม่ใช่ในแผนที่) แคบกว่า 6 เมตรทั้งนั้น หรือใน เขตพญาไท ย่านซอยราชครู ซอยอารีย์ เนื้อถนนจริงก็แคบมากอยู่แล้ว กทม.จะยัดตึกสูงเข้าไปอีกทำไม?

2. กทม. ต้องเน้นเรื่องเส้นทางลัด เช่น ถนนเลียบคลองเปรมประชากร เชื่อมถนนรัชดาภิเษกจากใต้สะพานรัชวิภา ไปเขตบางซื่อ ถูกสร้างกุดๆ อยู่แค่ครึ่งทาง มานานเป็น 10 ปี  หรือการทำสะพานข้ามคลอง เช่นคลองเปรมฯ นำคนจากเขตหลักสี่แถวทุ่งสองสองช่วงหมู่บ้านเจริญทรัพย์  ไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีทุ่งสองห้องตรงถนนโลคัลโรดได้  และ เขตจอมทองซอยเอกชัย 30,33 ทำซอยทะลุเป็นทางลัดได้ทั้งนั้น แต่ท่านจะตัดถนนใหญ่ให้เอื้อสร้างตึกสูงอีก

3.ผังเมืองใหม่ ไม่ให้ความสำคัญทางระบายน้ำที่เป็นเส้นเลือดฝอย ซึ่งจุดนี้ควรส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บข้อมูลจากประชาชนโดยตรงยกตัวอย่างเช่น บริเวณแฟลตบ้านพักรถไฟกม.11 ถนนกำแพงเพชร 2 ควรระบายน้ำลงคลองเปรมประชากรได้ แต่ความเป็นจริงจุดนี้เจอน้ำท่วมขังซ้ำซากเพราะระบายน้ำไม่ได้เป็นเวลานับ 10 ปี จนมีชาวบ้านต้องตัดขาจากน้ำท่วมขังมาแล้ว
เรื่องเหล่านี้ชาวบ้านเค้าทนมานาน  ถ้า กทม.ได้ฟังและเก็บข้อมูลเชิงลึกกว่านี้ ขยายเวลารับฟังความเห็นผังเมืองได้ก็ควรทำ ขณะนี้ท่านฟังข้อมูลที่บริษัทอสังหาใหญ่ป้อนให้มากมาแล้ว รอมาเน้นฟังชาวบ้านตัวเล็กๆบ้าง ผังเมืองใหม่จะได้สมบูรณ์ขึ้น #ผังเมืองใหม่กรุงเทพ

นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังโพสต์คลิปวีดีโอที่ตนแสดงความคิดเห็นเรื่องผังเมืองรวมฉบับใหม่ของกรุงเทพมหานคร (กทม) โดยวิพากษ์วิจารณ์การรับฟังความคิดเห็นของ กทม. ว่าเน้นนายทุนมากเกินไป ควรเปิดเวลารับฟังประชาชนให้มากขึ้น เพราะเมื่อเวลาน้อยเนื้อหาก็ไม่ได้ และนี่เป็นเหตุที่ กทม. ไม่สามารถทำผังเมืองเฉพาะ หมายถึงผังเมืองระดับเขตถึงระดับซอยได้

“เขตจตุจักร – พญาไท เอาโซนที่ผมคุ้นๆ ก่อน โซนแถวนี้ถนนส่วนมากในซอยขนาดย่อยมัน 6 เมตรหมด แต่ในความเป็นจริงมันไม่ 6 เมตร เพราะ 2 ข้างฝั่งมีกระถางต้นไม้อยู่ตลอดเวลา พื้นที่ผิวถนนจริงมันเหลือแค่ 4.5 เมตร แต่ท่านอนุญาตให้สร้างตึกได้ตลอดเวลา อสังหาฯ เข้ามารายใหญ่มันวัดจากกำแพงชนกำแพง แต่สภาวะความเป็นจริงถนนมัน 4.5 เมตร แล้วรู้ไหมว่าใครเป็นคนห้ามไม่ให้มันทำได้ ก็ท่านนั่นละคนทำผังเมือง” นายอรรถวิชช์ ระบุ

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อไปว่า กทม. ต้องขีดผังเมืองเฉพาะ อย่างซอยราชครู ซอยสายลม มีรถไฟฟ้าผ่าน เท่าที่ทราบเห็นว่าจะขยายซอยนั้นอีกแล้วเพื่อรองรับคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่อยู่ในซอยขนาดเล็ก หรือในเขตจตุจักร แขวงจอมพล ซอยลาดพร้าว 18 แขวงจันทรเกษม แขวงเสนานิคม มีซอยยิบย่อยเต็มไปหมด มีปัญหาทะเลาะกันทุกที่เมื่อจะทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพราะบริษัทจะเอาให้ได้ ถนน 6 เมตร ก็จะเอา ทั้งที่รถยนต์เข้า – ออกสวนทางกันไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดเฉพาะเขตกรุงเทพฯ เหนือ แต่เกิดทั่วทั้ง กทม.

ดังนั้น กทม. ต้องทำผังเมืองย่อย และต้องฟังเสียงประชาชน ประการต่อมาคือเรื่องของทางลัด ซึ่งปัจจุบัน กทม. เน้นแต่ทางใหญ่ เพราะขยายแล้วสามารถสร้างอาคารสูงได้ อย่างคลองเปรมประชากรซึ่งตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม หากทำสะพานเล็กข้ามมาที่สันเขื่อนคลอง จะช่วยทำให้คนจากเขตหลักสี่ แถบทุ่งสองห้อง เดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าทุ่งสองห้อง เพื่อโดยสารรถไฟฟ้าเข้าไปในเมืองได้ แต่เรื่องนี้ไม่ปรากฏ เพราะ กทม. ไมได้ทำผังเมืองย่อย ยังมีเขตจอมทอง ถนนราชพฤกษ์ตัดกันเต็มไปหมด ถนนเอกชัย ซอย 30 ซอย 33 ทะลุได้แต่ไม่ทำให้ทะลุ

“ความเป็นเมืองซับน้ำของ กทม. หรือเมืองฟองน้ำมันน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะท่านขยายให้ไปสร้างตึกและบ้านจัดสรรในพื้นที่ที่ควรเป็นที่รับน้ำ สีที่ท่านขึ้นมาทั้งหมดมันมีแต่เข้มขึ้น บางจุดทำไมในเมือง เขตรัตนโกสินทร์ข้างใน ท่านให้มันหยุดการพัฒนาไปอยู่ตรงนั้นได้ เป็นเขตสงวน – เขตอนุรักษ์ได้ แต่บางเขตในกรุงเทพฯ มันต้องถูกสงวนแล้ว ไม่เช่นนั้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์มันสร้างเอาๆ แล้วยัดเข้าไปในซอยเล็กอีก แล้วผมบอกท่าน ควรขยายเวลารับฟังให้มากกว่านี้ เพราะถ้าท่านไม่ขยายเวลาท่านจะไม่รู้ข้อมูลจากประชาชน และท่านจะรับฟังแต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์” นายอรรถวิชช์ กล่าวย้ำ