หรือแค่หาทางลง? ‘อรรถวิชช์’สงสัยรัฐบาลอยากแจก‘เงินดิจิทัล’จริงไหม? เชื่อผ่านสภาฯแต่ไปจบที่ศาลรธน.

วันที่ 11 มกราคม 2567 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีต สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นพิธีกร ในประเด็นความพยายามของรัฐบาลในการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท มาใช้ทำนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท หรือดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่ากฤษฎีกามีคำวินิจฉัยอย่างไร แต่มีคำให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการเคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่บอกว่าสามารถกู้ได้ตามกฎหมาย

ซึ่งคำนี้มี 2 อย่าง คือ กฎหมายระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และระดับพระราชกำหนด (พรก.) แต่ก็ต้องไปดูว่าสุดท้ายแล้วจะเอาแบบไหน หากจะออกเป็น พ.ร.บ. ก็ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาขอสภาผู้แทนราษฎร แต่หากออกเป็น พรก. จะออกโดยคณะรัฐมนตรี มีศักดิ์เท่า พ.ร.บ. ใม่ต้องผ่านสภาฯ ก่อน แต่มีข้อแม้ว่าต้องฉุกเฉินเร่งด่วนเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจหรือความมั่นคง และนี่คือคำถามที่รัฐบาลต้องตอบ ว่าฉุกเฉินเร่งด่วนหรือไม่ เข้าสู่วิกฤติแล้วหรือยัง หากตอบคำถามได้ก็ออกเป็น พรก. ได้

“ตรงนี้กฤษฎีกาเขาก็บอกไม่ฟันธงให้ว่ามันวิกฤติหรือเปล่าเพราะเป็นนักกฎหมาย เขาก็ตอบได้เฉพาะว่าถ้าจะทำตามกฎหมายต้องออกเป็นพระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนด แบบนี้เรียกว่าไฟเขียวไหม? มันก้ำกึ่ง ที่จริงก็คือพนักงานกฤษฎีกาเขาไม่ฟันธงเศรษฐกิจว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤติที่จะไปออก พรก. ผมคาดเดานะ รัฐบาลคงไม่ออกเป็นพระราชกำหนด เพราะพระราชกำหนดความรับผิดชอบอยู่ที่คณะรัฐมนตรี แล้วก็ถามว่ามันเร่งด่วนไหม? คำตอบคือขณะนี้เศรษฐกิจประเทศไทยอยู่ในแดนบวก GDP เราการคาดการณ์อยู่ในแดนบวก มันไม่ลบ” นายอรรถวิชช์ กล่าว

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดธนาคารพาณิชย์ยังประกาศว่ามีผลกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ คือ 2 แสนกว่าล้านบาท สูงที่สุดที่เคยผ่านมา จึงมีคำถามว่าแบบนี้เรียกวิกฤติหรือไม่ เพราะวิกฤติคือสถาบันการเงินต้องมีปัญหา ค่าเงินมีปัญหา ส่งออกมีปัญหา แต่วันนี้เท่าที่ไล่มายังไม่เกิดในขั้นนั้น เพียงแต่มันโตช้า ตนจึงคิดว่ารัฐบาลคงไม่กล้าออกมาในรูปแบบพระราชกำหนด แต่อาจผลักดันไปสู่การออกพระราชบัญญัติในสภาฯ ซึ่งให้นึกถึง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท สำหรับการคมนาคม นำเข้าสภาฯ แล้วก็ผ่าน แต่ไปตกในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ

ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีใช้วิธีการออก พ.ร.บ. ก็จะได้หลังพิง สส. บอกว่า สส. เป็นผู้ออกให้ แต่ก็อาจจะไปตกในชั้นตรวจสอบก็คือศาลรัฐธรรมนูญ เขาก็บอกว่าทำหน้าที่หมดแล้วทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ดังนั้นหากให้ตนคาดเดา ก็น่าจะเป็นการนำเข้าสภาฯ ออกเป็น พ.ร.บ. แต่หากสภาฯ ไม่ผ่าน ก็จะยุ่งถึงขั้นยุบสภา แต่ตนก็เชื่อว่าผ่าน ก่อนจะไปไม่ผ่านที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายเขียนว่าเงินของแผ่นดินจะออกได้กี่ฉบับอะไรบ้าง เช่น กฎหมายงบประมาณประจำปี งบฯ ประจำปีเพิ่มเติม เงินคงคลัง โอนงบประมาณ และกฎหมายพระราชกำหนด

“ถ้าเกิดศาลอนุญาตให้ออก พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน 5 แสนล้านนี้ได้ไปทำในโครงการนี้ มันจะมีกฎหมายอยู่ฉบับหนึ่งที่แท้งและไม่ได้ใช้งานเลย ก็คือ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ก็หมายความว่าต่อไปในนี้ในอนาคต งบลงทุนที่ต้องสร้างเกิดสิ่งใหม่ ใครเข้ามาก็แล้วแต่ไม่ต้องใช้กฎหมายงบประมาณแล้ว กฎหมายงบประมาณก็ว่ากันไปเดี๋ยวผมไปออก พ.ร.บ. ต่างหาก กู้เงินแล้วใส่เข้าไป เหมือนกับผมไม่ต้องไปเชื่อฟัง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณแล้ว ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเอาโครงการใหม่ก็ใส่เป็น พ.ร.บ. มันจะทำให้กฎหมายที่ชื่อว่า พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ และ พ.ร.บ. หนี้สาธารณะ ใช้การไม่ได้” นายอรรถวิชช์ ระบุ

นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวอีกว่า หากอธิบายในเชิงกฎหมาย เวลางบประมาณประเทศไทยขาดดุล คือรายจ่ายมากกว่ารายรับ ส่วนนี้เรียกขาดดุลต้องกู้มาชดเชย ก็อาจมีคำถามว่าส่วนนี้มีกฎหมายบอกหรือไม่ว่าสามารถขาดดุลได้เพียงใด ซึ่งก็มีกฎหมายบอกอยู่ คือไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่าย บวกกับร้อยละ 80 ของการคืนหนี้เงินต้น แต่ให้จำง่ายๆ ก็คือร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่าย ถ้างบฯ รายจ่าย 3.48 ล้านล้านบาท ก็ขาดดุลได้ประมาณ 6-7 แสนล้านบาท ตรงนี้คือช่องว่างที่ได้รับอนุญาต

แล้วในเมื่อกฎหมายให้การขาดดุลได้เท่านี้ วันดีคืนดีบอกจะกู้อีก 5 แสนล้านเพื่อประกบกัน คำถามคือแล้วกฎหมายฉบับนี้จะเขียนมาเพื่ออะไรเพราะไม่มีสภาพบังคับ ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องเสี่ยง แต่ความรับผิดชอบของรัฐบาลน่าจะอยู่ที่ผลการลงมติในสภาฯ ว่าจะผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านก็ต้องยุบสภา แต่ตนเชื่อว่าผ่านสภาแล้วไปตกที่ศาลรัฐธรรมนูญ ก็คือการเดินต่อไปให้สุดเท่านั้น ให้ถือว่ได้ทำแล้ว 

ซึ่งขณะนี้ (ร่าง) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ตนมองว่าหากรัฐบาลอยากได้โครงการเงินดิจิทัลจริงๆ ก็น่าจะใส่ไว้ในร่างงบฯ 2567 หากรัฐบาลมองว่าเร่งด่วนแล้วยังไม่รู้ว่าใครจะเอาอย่างไร ร่างงบฯ 2567 กำลังจะผ่านสภาผู้แทนราษฎรอีกไม่นานแล้วก็ใส่เข้าไปก่อน แต่ตนกิคิดว่าคงไม่ได้ใส่เข้าไปแล้ว เอาออกมาต่างหากแล้วไปวัดดวงด้วยการออกเป็นพระราชบัญญัติ แล้วไปวัดต่อที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ชมคลิปเต็มได้ที่