"พิมพ์พิชชา"เชื่อมือ"เศรษฐา" ปี 67 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวทั้งระบบ มั่นใจต่อทุนเอสเอ็มอีผ่านเงินกู้บวกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า 3 เดือนที่ผ่านมาภายหลังจากการเข้ามาบริหารประเทศของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง หลายโครงการของรัฐส่งผลให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น การค้าขายดีขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระบบของประเทศ รวมไปถึงการฟื้นฟูภาคการเกษตร ทั้งข้าว มัน ยาง และปาล์มน้ำมัน รวมไปถึงผลผลิตทางการเกษตรทุกประเภท ให้เกษตรกรมีรายได้ที่เป็นธรรมจากผลผลิตที่ตนเองลงแรงไว้
น.ส.พิมพ์พิชชา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น รัฐบาลเตรียมออกพระราชบัญญัติกู้เงินจำนวน 600,000 ล้านบาท เป็นการกู้เงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการฟื้นฟูภาคธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2563 - 2565 ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างร้ายแรง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายหมื่นรายต้องปิดกิจการเพราะหมดทุน รวมทั้งบางส่วนเข้าไม่ถึงแหล่งทุนที่รัฐบาลที่แล้วเคยกู้เงินอ้างเอาไว้ช่วยเอสเอ็มอี แต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
"รัฐบาลจริงใจที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจเอสเอ็มอี เพราะถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน รวมไปถึงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยเพิ่มกระตุ้นกำลังซื้อภาคประชาชน และช่วยให้ผู้ประกอบการรับออเดอร์ผลิตสินค้าตามความต้องการของประชาชน ดังนั้น มั่นใจว่าหากเป็นไปตามแผนงานที่รัฐบาลวางไว้ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 67 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างแน่นอน" น.ส.พิมพ์พิชชา กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี