วันที่ 22 มกราคม 2567 นายชลิต นาคพะวัน ศิลปินอิสระ กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นพิธีกร ในประเด็น “ซอฟต์เพาเวอร์” ทุนทางวัฒนธรรมด้านศิลปะ ว่า ศิลปะ ดนตรีและกีฬา เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับมนุษย์เรา ศิลปะวัฒนธรรมอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งกาย เสื้อผ้า เครื่องประดับ รอยสัก การตกแต่งห้อง-อาคาร ฯลฯ ดังที่มีคำกล่าวว่า เรานั่งอยู่ท่ามกลางความคิดสร้างสรรค์ของใครบางคน
อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าศิลปะของชาติใดดีกว่ากัน เพราะศิลปะนั้นคืออัตลักษณ์ของแต่ละประเทศ คนประเทศไหนผลงานศิลปะจะออกมาชัดเจนว่ามีสไตล์แบบใด ศิลปะจึงบ่งบอกถึงจิตวิญญาณของคนแต่ละเชื้อชาติหรือแต่ละประเทศ ส่วนคำถามที่ว่าหลายคนมักชวนไปเที่ยวต่างประเทศแล้วบอกประเทศนั้นประเทศนี้ศิลปะเขาเยอะ แล้วประเทศไทยเป็นอย่างไร ตนบอกเลยว่าประเทศไทยก็อุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรม รวมถึงการจัดงานต่างๆ ก็มีเป็นจำนวนมาก
“เอาง่ายๆ เลยนะ ชุดไทย ใส่ปั๊บก็รู้ว่าคนไทย อาหารไทย ของเราไม่ได้อร่อยอย่างเดียวนะ จัดยังสวยเลย แล้วรสชาติก็ยังแบบว่า เขาบอกว่าอาหารของประเทศที่เป็นที่นิยมมากนี่อาหารไทยนะ อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลียน สังเกตสิ 3 ชาตินี้จะเป็นอะไรที่ ในต่างประเทศใครเปิดร้านอาหารไทย..รวย” นายชลิต กล่าว
นายชลิต กล่าวต่อไปว่า ศิลปะไม่จำเป็นต้องไปพิพิธภัณฑ์ เพราะศิลปะอยู่รอบตัวเรา อย่างไปวัดก็เห็นจิตรกรรมฝาผนัง ประติมากรรม สถาปัตยกรรม การตกแต่ง ล้วนแต่มีศิลปะอยู่ในนั้นเสมอ โบราณสถานหรือสถานที่สำคัญต่างๆ ก็เช่นกัน ดูศาลากลางจังหวัดที่เป็นอาคารเก่า นั่นก็ใช่ โดยสรุปแล้วประเทศไทยไปทางไหนก็งดงาม ยิ่งถ้าเรามีความรู้สักหน่อยก็จะยิ่งสนุก เพราะจะเริ่มค้นหาปรัชญาที่แฝงอยู่ในงานนั้น
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ตนเพิ่งไปทำโครงการวิจัยสีของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เพราะวัดแต่ละแห่งมีสีเป็นอัตลักษณ์ของตนเอง อย่างวัดราชบพิธฯ เป็นวัดที่สวยมาก ซึ่งคู่สีที่นำมาใช้ตกแต่งสิ่งก่อสร้างภายในวัดเป็นคู่สีที่วิเศษมาก โดยการทำวิจัยคู่สีของวัดราชบพิธฯ ผลที่ได้จะนำไปประยุกต์ใช้กับการตกแต่งบ้าน การผลิตสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ถ้วย ชาม แจกัน หรือแม้แต่ประยุกต์กับแฟชั่นเสื้อผ้า-เครื่องประดับ ล่าสุดขณะนี้ตนกำลังวิจัยสีของวัดโพธิ์ ซึ่งก็มีความสวยงามแตกต่างออกไป และนี่คืออัตลักษณ์ ซึ่งแต่ละจังหวัด อำเภอ ตำบล ก็ยังต่างกัน
ขณะเดียวกัน สำหรับตนศิลปะไม่ใช่แค่การให้คนมาดูงาน แต่ต้องการให้มามีส่วนร่วม อย่างที่ จ.นครปฐม มหาวิทยาลัยศิลปากร มีโครงการจะทำให้เป็นเมืองศิลปะ ก็มาชวนตนไปทำงานศิลปะในชุมชน เป็นที่มาของการตกแต่งสะพานข้ามคลองเชื่อมกับวัดพระงาม ในลักษณะที่เป็นอุโมงค์ ซึ่งวัดพระงามก็เป็นวัดที่สวยงาม และยังมีตลาด โดยอุโมงค์นี้ถูกตั้งชื่อว่าอุโมงค์แห่งความรัก เชิญชวนคู่รักให้มาเดินผ่านแล้วอธิษฐานขอให้รักยืนยาว
“ตอนนี้อยากให้เอารูปหัวใจไปคล้อง แล้วอย่างที่คิดอย่างนี้เพราะชุมชนจะได้มีรายได้ สมมติว่านักศึกษาหรือคนแถวนั้นทำหัวใจสวยๆ อย่างเป็รรูปเซรามิกหัวใจคู่กัน เอาโบว์ไปผูกติดกับงานของผมแล้วอธิษฐานกันว่าเราจะรักกันจนวันตายอะไรอย่างนี้ ผมว่าการสร้างสัญลักษณ์อย่างนี้ เออ! เรามาตรงนี้แล้วก็ถ่ายรูป อธิษฐานกัน มันทำให้คนมีส่วนร่วมในการเสพงานเราอีก แล้วใครๆ ไปนครปฐมก็ต้องไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ เสร็จแล้วก็ต้องมาเอารูปหัวใจไปผูก ถ่ายรุปแล้วก็อธิษฐาน เป็นความดีความงามให้คนมาบรรจบกันตรงนี้” นายชลิต ระบุ
นายชลิต ยังกล่าวอีกว่า ยังมีโครงการแบบเดียวกันที่ อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ มีงานสตรีทอาร์ตทุกปีที่หอชมเมือง ตนก็ไปโชว์โรยทรายเป็นรูปแล้วก็ให้คนมาถ่ายภาพ นั่นคือการเสพงานของตน แต่หลังจากนั้นแต่ละคนก็จะลงมือทำผลงานของตนเอง ซึ่งก็มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ แม้แต่ชาวต่างชาติ ดังนั้นภาพที่ออกมาตลอดแนวถนนที่จัดงานก็จะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะจากการโรยทราย กิจกรรมนี้ยังได้เห็นภาพพ่อแม่ลูก มากันเป็นครอบครัว สร้างสรรค์งานศิลปะด้วยกัน จะมองว่าเป็นการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่งก็ได้ ตนก็พลอยรู้สึกดีไปด้วยที่เห็นคนมีความสุข
เมื่อถามว่าอะไรคือความหมายของคำว่า “ซอฟต์เพาเวอร์” ในมุมของตนคืออะไรก็ตามที่เป็นภาพจำในสิ่งที่บ่งบอกความเป็นอัตลักษณ์หรือตัวตนของชุมชนหรือประเทศ หรือแม้แต่ของปัจเจกบุคคล เช่น เมื่อพูดถึง ชลิต นาคพะวัน ก็จะนึกภาพออกว่าผลงานของคนคนนี้เป็นอย่างไร อาทิ งานโรยทราย งานเพนท์สีเยอะๆ มีลวดลายเฉพาะของเขา ในระดับประเทศก็เช่นกัน ซอฟต์เพาเวอร์คืออะไรที่บอกตัวตนของประเทศนั้น แล้วได้เห็นสุนทรียภาพและความงาม อีกทั้งยังไม่เหมือนใคร คือเห็นแล้วบอกได้เลยว่านี่ประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี