ทำครูสับสน!‘ก้าวไกล’เห็นด้วยยกเลิก‘ครูเวร’ จี้ทำเป็นเอกสารให้ชัด ลั่นคำสั่งการ‘นายกฯ’ลบล้างมติครม.ไม่ได้ อ้างไม่พบในมติ ครม. ชี้ตอนนี้ทำครูสับสน ส่วนเพิ่ม‘ภารโรง’แนะตั้งเป็นงบประจำ ไม่ใช่ใช้งบกลางตลอด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา นายสุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคระกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ยกเลิกครูเวร พร้อมกับให้มีการจ้างภารโรงว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายตั้งแต่ช่วงหาเสียงว่าเราจะเลิกให้ครูนอนเวรทันที หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามขอขอบคุณรัฐบาลที่หารือในเรื่องนี้ และขอแสดงความยินดีกับเพื่อนครูทั่วประเทศ ที่ไม่ต้องไปลำบากเสี่ยงภัยและเหนื่อยล้ากับการเข้าเวร
“แต่สิ่งที่ผมพบจากการได้ตรวจสอบรายงานการประชุมครม.เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.67) เราไม่พบว่ามีวาระนี้ปรากฏในเอกสาร และไม่พบว่ามีมติการประชุมเราจึงมีข้อสงสัยว่าเป็นเพียงการสนทนาพูดคุยกัน และเห็นดีเห็นงามกันหรือไม่ เพราะไม่มีเอกสารบรรจุในวาระการประชุม ไม่มีบันทึกการประชุม ซึ่งเป็นเพียงคำปรารภหรือคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะไปลบล้างหรือไปยกเลิกมติครม.เดิมได้หรือไม่” นายสุรวาท กล่าว
นายสุรวาท กล่าวต่อว่า หากเรื่องนี้ไม่มีการเสนอเข้าที่ประชุมครม.และไม่มีในการวาระการประชุม ไม่มีมติก็ให้รัฐบาลรีบดำเนินการ เพราะเมื่อมีมติออกมาแล้วจะต้องแก้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติด้วย เพราะคำปรารภหรือข้อสั่งการของนายกฯไม่อาจจะไปล้มล้างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีหรือมติครม.ได้ เพราะเป็นความเห็นของนายกฯคนเดียว ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้พบอยู่บ่อยๆ ที่นายกฯพูดแล้วจนทำให้มีวาทะกรรมหนึ่งที่บอกว่า คิดใหญ่แต่ทำเล็ก แต่เรื่องนี้เราหวังว่าจะพูดใหญ่ทำใหญ่ จึงสนับสนุนให้มีการยกเลิกและให้มีการบริหารจัดการ และให้เทคโนโลยีเข้ามา หรือบุคคลกรที่มีความพร้อมที่จะเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย เช่น ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจะต้องเป็นไปด้วยความพร้อมทั้งหมด
“เมื่อวานนี้ หลังจากที่นายกฯพูดว่าจะยกเลิกครูเวร ก็มีแต่ความว้าวุ่นสับสนเต็มไปหมด เพราะมีเพื่อนครูหอบเสื่อหอบหมอน หอมปิกนิกจะไปนอนโรงเรียนเมื่อมีข่าวออกมา ทำให้ครูสับสนว่าจริงหรือเปล่าเพราะตามข่าวยกเลิกทันที แต่ผอ.บอกว่ายัง เพราะต้องรอหนังสือก่อน แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่ยกเลิกไปเลย ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลจะต้องทำ ให้เกิดความชัดเจน” นายสุรวาท กล่าว
นายสุรวาท กล่าวต่อว่า ส่วนการเพิ่มนักการภารโรงนั้น ปัจจุบันมีภารโรงประมาณ 1 หมื่นโรงเรียนที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 9 พันบาท ซึ่งต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ หากจะเพิ่มภารโรงก็ต้องเพิ่มอีก 1.2 หมื่นแห่ง โดยที่กระทรวงศึกษาธิการจะของบกลางมาจ้างภารโรงให้ครบทุกโรงเรียน แต่ภารโรงถือเป็นคนละเรื่องกับเวรยามในการรักษาความปลอดภัย เพียงแต่ภารโรงอาจจะเกื้อกูลทำหน้าที่เวรช่วยครูได้ ซึ่งตนก็เห็นด้วยที่จะมีภารโรงทุกโรงเรียน และเห็นด้วยที่จะใช้งบกลางของปี 2566 โดยใช้เงินจำนวน 1,140 ล้านบาท ในการจ้างภารโรงด้วยอัตราเดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลเห็นว่าควรจะต้องตั้งงบประมาณส่วนนี้ไว้ในงบประมาณปี 67 และ 68 แต่ในร่างงบประมาณปี 67 ที่กำลังพิจารณาอยู่นั้นไม่มีงบประมาณในการจ้างภารโรงอยู่ จึงขอเรียกร้องว่า ให้แปรญัตติงบส่วนนี้ในปี 67 เพื่อมาจัดจ้างภารโรงให้ครบตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 - 30 ก.ย. 68 และกระทรวงศึกษาธิการก็นำงบส่วนนี้ไปใส่ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 68 ที่ทางสำนักงบประมาณกำลังจัดทำอยู่ ไม่ใช่พอคิดได้แล้วจะเอาไปใส่ทีหลัง เพราะเรื่องนี้ควรเป็นงบประจำ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี