‘สส.ปิยะรัฐชย์’หนุนแก้ปัญหาขยะทั้งระบบ ชูหลัก 3R แก้ปัญหา

‘สส.ปิยะรัฐชย์’หนุนแก้ปัญหาขยะทั้งระบบ ชูหลัก 3R แก้ปัญหา

วันเสาร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567, 17.22 น.

‘สส. ปิยะรัฐชย์’หนุนแก้ปัญหาขยะทั้งระบบ ชูหลัก 3R แก้ปัญหา แนะภาครัฐฯเข้มผู้ผลิตรายใหญ่ปล่อยของเสีย ลงพื้นที่ชุมชน ทำชาวบ้านเดือดร้อน เล็งเพิ่มแก้กฎหมายเพิ่มโทษ

27 ม.ค.67 นางสาวปิยะรัฐชย์  ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดถึงปัญหาขยะ และมีการศึกษาถึงกรณีนี้ พบว่าสภาพปัญหา ก็ยังเหมือนเดิม ประเทศไทยมีขยะเกิดขึ้น 25.7 ล้านตันต่อปี โดยคิดเป็น 70,000 ตันต่อวัน ซึ่งมองว่าการบริหารจัดการปัญหาขยะที่ผ่านมาอาจจะดำเนินการได้ไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่ในต่างประเทศการบริหารจัดการขยะจะเริ่มต้นตั้งแต่ครัวเรือนและชุมชนสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของชุมชนจะมีมาตรในการลงโทษ โดยในต่างประเทศจะมีการคัดแยกทั้งขยะเปียก ขยะแห้งรวมไปถึงขยะอันตราย การบริหารจัดการแก้ปัญหาขยะ


ในวันนี้ จะต้องมีการแยกโซนทั้งในโซนเกษตรกรรม โซนพื้นที่เมืองรวมทั้งโซนพื้นที่อุตสาหกรรมจะต้องมีการจัดการปัญหาขยะที่แตกต่างกันไป โดยมองว่าหากแก้ไขปัญหาเหมือนเช่นปัจจุบันจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน

"การลดขยะตั้งแต่ครัวเรือน ซึ่งถือเป็นต้นทางไปจนถึงปลายทาง ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ การศึกษาการบริหารจัดการขยะไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือท้องถิ่นจึงมีความจำเป็น และมีความสำคัญประชาชนที่จะต้องให้ความร่วมมือเพื่อลดปัญหาขยะให้น้อยลง"

นางสาวปิยะรัฐชย์  มองว่าหลัก 3R (Reduce Reuse and Recycle) จะเป็นแกนในการแก้ปัญหาขยะในภาพรวม แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอก็จำเป็นที่ต้องนำเอาขยะมาแปลงเป็นพลังงานเพิ่มเติม แต่ปัญหาก็จะติด ในส่วนของท้องถิ่นมีรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งก็จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ในแต่ละพื้นที่เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องงบประมาณ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือท้องถิ่นกับท้องถิ่นจะต้องจับมือกันให้แข็งแรงเพื่อร่วมกันในการผลักดันแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ ขยะเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ ดังนั้นต้องหารือกับส่วนท้องถิ่น พื้นที่ไหนมีพื้นที่หรือบริเวณในการรองรับขยะก็มักจะพบปัญหาขัดแย้งกับชุมชนทั้งเรื่องของกลิ่น และเศษขยะ ระหว่างการขนส่งซึ่งรบกวนสุขภาพกายสุขภาพใจของประชาชน ตรงนี้จะเกิดปัญหาความขัดแย้ง วันนี้สิ่งสำคัญที่ภาครัฐต้องดำเนินการคือต้องกำหนดโซนนิ่งเขตพื้นที่ทิ้งขยะซึ่งหากไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ก็จะเกิดปัญหาระหว่างท้องถิ่นกับประชาชน พร้อมกันนี้ต้องวางแผนในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนและการท่องเที่ยวในพื้นที่

ทั้งนี้ เราต้องกลับมาดูคนที่ก่อให้เกิดขยะและมลพิษส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับผิดชอบโดยเฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่ที่อาจจะปล่อยสารเคมีหรือขยะลงไปในแม่น้ำทำให้เกิดการปนเปื้อนเป็นห่วงโซ่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนพร้อมมองว่าการที่ผู้ผลิตไม่รับผิดชอบ เนื่องจากต้องการลดภาระของต้นทุน

ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายหรือนโยบายในการป้องกันไม่ให้มีการปล่อยของเสียมาสู่พื้นที่สิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งหากมีการรั่วไหลอาจจะต้องมีการกำหนดค่าปรับหรือการแบนสินค้าที่เกิดจากผู้ผลิตเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้ผลิตรายใหญ่รายอื่น

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top